6 สิงหาคม 2567 มีความคืบหน้า กรณีตำรวจสายตรวจ สภ.เมืองนครพนม ได้รับแจ้งให้เข้าระงับเหตุชายคลุ้มคลั่ง พร้อมวิสามัญ นายสิงห์ อายุ 48 ปี สัญชาติลาว ที่เข้ามาอาศัยอยู่ในเขตเทศบาลเมืองนครพนม ยึดอาชีพเก็บของเก่าขาย และมีพฤติกรรมเกี่ยวข้องกับยาเสพติด มีประวัติรักษาจิตเวช เพราะเสพยาบ้าจนมีอาการทางประสาท คลุ้มคลั่งอาละวาดพยายามทำร้ายชาวบ้านละแวกนั้น
กระทั่งเมื่อวันที่ 4 สิงหาคม 2567 เวลาประมาณ 15.50 น. ชาวบ้านแจ้งไปยังศูนย์วิทยุ 191 ว่า นายสิงห์เกิดอาการหลอน และจะทำร้ายชาวบ้าน สายตรวจ สภ.เมืองนครพนม รีบมาระงับเหตุ พบในมือนายสิงห์ถืออาวุธมีด และสิ่งเทียมอาวุธปืน วิ่งหมายทำร้ายเจ้าหน้าที่จึงวิ่งหนีจนหกล้ม และชักอาวุธปืนประจำกายยิงขึ้นฟ้าเพื่อให้นายสิงห์สยบ แต่นายสิงห์เหมือนย่ามใจเงื้ออาวุธมีดจะฟันสายตรวจ 191 จึงตัดสินใจยิงจนเสียชีวิต
เหตุเกิดบริเวณซอยข้างวัดน้อยโพธิ์คำ ชุมชนบ้านน้อยใต้ ในเขตเทศบาลเทศบาลเมืองนครพนม โดยทางตำรวจยืนยันทำตามกระบวนการขั้นตอนของกฎหมายในการระงับเหตุ เหตุต้องตัดสินใจวิสามัญ เนื่องจากเกรงว่าจะเกิดการสูญเสียมากกว่านี้
ล่าสุดตำรวจ สภ.เมืองนครพนม ได้นำศพผู้เสียชีวิตไปชันสูตร ประกอบการดำเนินคดีที่สถาบันนิติเวชโรงพยาบาลศรีนครินทร์ จังหวัดขอนแก่น โดยจะนำศพศพกลับมาบำเพ็ญกุศลตามประเพณีภายในวันนี้
สอบถามนางดาว อายุ 75 ปี แม่ของผู้ตาย อาชีพเก็บของเก่าขาย อาศัยอยู่บ้านพักบริเวณชุมชนบ้านน้อยหนองเค็ม ข้างกำแพงวัดน้อยโพธิ์คำ เขตเทศบาลเมืองนครพนม เปิดเผยว่า ตนอพยพย้ายถิ่นมาจากแขวงคำม่วน สปป.ลาว เพื่อมาทำงานรับจ้างและเก็บของเก่าขาย โดยมีบัตรผ่านแดนเข้าเมืองถูกต้องตามกฎหมาย ส่วนนายสิงห์ลูกชายเมื่อหลายปีก่อน เคยมีเอกสารครบถ้วนแต่สูญหาย ยอมรับว่ามีพฤติกรรมเกี่ยวข้องกับยาเสพติด ถูกจับกุมดำเนินคดีพ้นโทษออกมา เจ้าหน้าที่ได้ผลักดันกลับภูมิลำเนาตามขั้นตอนกฎหมาย แต่นายสิงห์ได้ลักลอบผ่านช่องทางธรรมชาติ เข้ามาทำงานเก็บของเก่าเหมือนเดิม โดยพักอยู่บ้านพักเพียงคนเดียว
นางดาวยอมรับว่าลูกชายเป็นคนไม่ดีจริง แต่ต้องเข้าใจว่าต่อให้ลูกเป็นคนชั่วอย่างไร หัวอกคนเป็นแม่ก็รักและห่วงใยเหมือนเดิม กรณีตำรวจวิสามัญไม่ติดใจเอาความเพราะยอมรับว่าลูกเป็นคนผิด ระหว่างที่พูดนางดาวก็ปาดน้ำตาไปด้วย พร้อมเล่าต่อว่ามีลูกทั้งหมด 5 คน นายสิงห์ผู้ตายเป็นคนที่สอง และลูกสาวคนหนึ่งสูญหายไร้ข่าวคราวมานานกว่า 10 ปี จึงแต่อยากให้ทางตำรวจช่วยเหลือค่าทำศพ เพราะยากจนไม่มีรายได้ หลังจากนำศพกลับมาจะตั้งบำเพ็ญกุศลไว้ 2 วันและประกอบพิธีบำเพ็ญกุศลตามประเพณี
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี