พลังโซเชียลได้ผล!!! แฉวงจรปิดเหตุการณ์รถหรูลาวฝ่าไฟแดงไร้รอยเบรก ชนสยองสาวท้องแก่ตายทั้งกลม สุดท้ายยอมติดต่อขอเจรจาไกล่เกลี่ยเยียวยาแล้ว ขณะที่ญาติเผาร่างนางฟ้าน้อย บรรยากาศสุดเศร้าน้ำตานองป่าช้า
วันที่ 6 สิงหาคม 2567 พ.ต.อ.ภาคภูมิ เดชะเรืองศิลป์ ผกก.สภ. เมืองนครพนม ได้เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวทางโทรศัพท์ ว่า กรณีเกิดอุบัติเหตุรถยนต์เก๋ง SUV ยี่ห้อฟอร์ด Territory ทะเบียนประเทศลาวป้ายเหลือง นฮ 5699 คำม่วน พุ่งชนรถเก๋งยี่ห้อโตโยต้า สีขาว วีออส สีขาว ทะเบียน 4 ขท 3023 กรุงเทพมหานคร ภายในรถมีสาวท้องครรภ์ 8 เดือนตายทั้งกลม เหตุเกิดบนถนนทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 22 (นิตโย) สายนครพนม-สกลนคร บริเวณ 4 แยกไฟแดงบ้านดอนโมง ต.หนองญาติ อ.เมืองนครพนม เมื่อเวลา 18.00 น.วันที่ 3 สค.ที่ผ่านมา (อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง : ชนสยอง !! สาวท้องแก่ตายทั้งกลมพร้อมลูก ญาติคาใจตร.ให้ไปหาหลักฐานเอง)
ผกก.สภ.เมืองนครพนม กล่าวว่า ภายหลังการสอบสวน ตรวจสอบพยานหลักฐานมีข้อมูลหลักฐานชัดเจนจากกล้องวงจรปิด ทั้งที่กล้องหน้ารถที่ขับตามหลังมา และกล้องตามบ้านเรือนประชาชนแถวที่เกิดเหตุ พบว่ารถยนต์ชาวลาวขับฝ่าไฟแดง ตามขั้นตอนของกฎหมาย ถือว่าเป็นฝ่ายผิดคันเดียว ส่วนทางญาติเข้าใจว่า ตำรวจให้ไปหาหลักฐานเพิ่ม ไม่ได้ทิ้งภาระให้ผู้เสียหาย แต่เพียงหากพบหลักฐานเพิ่มเติม ให้นำส่งพนักงานสอบสวน เป็นความเข้าใจผิด อย่างไรก็ตามทางตำรวจจะได้เชิญตัวคนขับรถชาวลาวมารับทราบข้อกล่าวหา ฐานความผิดขับรถประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย ส่วนการชดเชยเยียวยา เบื้องต้นจะมีการไกล่เกลี่ยทั้งสองฝ่าย หากไม่สามารถตกลงกันได้ จะต้องเข้าสู่กระบวนการทางกฎหมายยืนยันทางตำรวจให้ความเป็นธรรมทั้งสองฝ่าย และดำเนินคดีตามพยานหลักฐาน ขอให้มั่นใจในการทำงานของตำรวจ
ต่อมาเวลา 13.00 น. ที่บ้านเลขที่ 88 หมู่ 11 ต.นาราชควาย อ.เมืองนครพนม เป็นที่ตั้งบำเพ็ญกุศลศพของ น.ส.วิชุดา เทพคำราม หรือบี อายุ 23 ปี และลูกน้อยที่เสียชีวิตในท้อง โดยวางโลงศพสองแม่ลูกเคียงคู่กัน ได้มีนางรินดา สีคำ หรือแม่หล้า อายุ 50 ปี ที่ได้รับบาดเจ็บสะโพกร้าวแพทย์ห้ามขยับตัวบ่อย ขออนุญาตแพทย์ รพ.นครพนม เพื่อออกมาดูหน้าลูกสาวและหลานสาว และจะนำศพหลานน้อยไปเผาก่อนในช่วงบ่ายนี้ พร้อมเปิดเผยกับผู้สื่อข่าว ว่า หลังครอบครัวไปซื้อของที่ห้างสรรพสินค้าแมคโคร ก็พากันเดินทางกลับบ้านที่ ต.นาราชควาย วิ่งมาถึง 4 แยกไฟแดงตรงที่เกิดเหตุก็จอดติดไฟแดง พอสัญญาณไฟเขียวขึ้นก็ออกรถไป ซึ่งรถคู่กรณีวิ่งมาแบบไม่ยั้งเลย พุ่งชนต๊มเดียวน้องบีลูกสาวร้องโอยคำเดียวก็นิ่งไปเลย ตอนนั้นตนมีสติและเห็นทุกอย่าง น้องบีร่างเอนไปทางนายเอ็มสามีเป็นคนขับ โดยมีคอนโซลด้านหน้าอัดอยู่ที่ท้อง ซึ่งนายเอ็มพยายามเรียกชื่อเมียแต่ไม่มีเสียงตอบรับ ขณะที่น้องริวลูกคนโตของน้องบี มีสภาพขาหักยังมีสติเรียกร้องถามหาว่า”แม่หนูอยู่ไหนๆ”
นางรินดา กล่าวต่อว่า ถ้าหากทางตำรวจไม่ให้ความเป็นธรรม ก็อยากให้เปลี่ยนตัวพนักงานสอบสวน เพราะเห็นว่าครอบครัวเราจนหรือเปล่า โดยหลังเกิดเหตุได้นอนรักษาตัวอยู่ที่ รพ.นครพนม และอยู่ชั้นเดียวกันกับคู่กรณีห่างแค่ 2 เตียง เขาก็ไม่เคยถามไถ่อาการอะไรเลย
ด้าน นายสมิง เทพคำราม อายุ 56 ปี ได้เปิดเผยว่า เหตุที่นำศพลูกของน้องบีไปเผาก่อน เพราะเป็นคติความเชื่อต้องตัดขาดจากกัน ไม่เช่นนั้นเกิดชาติหน้าก็ตายพร้อมกันแบบนี้อีก จึงต้องเอาลูกไปเผาหรือฝังก่อน แล้วค่อยเอาศพแม่ออกไปเผาในวันถัดมา ถือว่าตัดขาดเวรกรรม เกิดชาติใหม่ก็จะไม่เกิดเหตุร้ายๆเช่นนี้อีก จากนั้นเคลื่อนศพหลานสาวออกจากบ้าน ไปยังป่าช้าท้ายหมู่บ้าน เพื่อเผาตามประเพณีความเชื่อ พระสงฆ์สวดมาติกาบังสุกุล เปิดฝาโลงทาแป้งให้แล้วก็จุดไฟเผา ให้ไปเป็นนางฟ้าน้อยบนสวรรค์
ส่วนทางด้านคดีหลังเป็นข่าว ทางคู่กรณีชาวลาวได้ประสานผ่านญาติและคนสนิท ขอเจรจาไกล่เกลี่ยในการเยียวยา หลังมีหลักฐานจากกล้องวงจรปิดชัดเจน ว่าเป็นรถที่ขับฝ่าไฟแดงพุ่งชน ทั้งนี้เป็นการร่วมมือของพลังโซเชียล ส่งภาพหลักฐานขณะเกิดเหตุจนหาทางออกไม่ได้
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี