8 สิงหาคม 2567 ภายใต้การสั่งการอำนวยการของ นายสมนึก พรหมเขียว ผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา พลโท ศานติ สกุนตนาค ผอ.รมน.ภาค 4, พล.ต.ต.พิชญ์วุฒิ สงวนสมบัติศิริ รรท.ผบก.ตชด.ภาค 4 และ นายอุธร สุทธิมิตร. ผู้อำนวยการสำนักจัดการทรัพยากรป่าไม้ที่13(สงขลา) ให้คณะเจ้าหน้าที่
ประกอบด้วย จนท.กอ.รมน.ภาค 4 สน.ร่วมกับ จนท.สำนักจัดการทรัพยากรป่าไม้ที่ 13 (สงขลา) ส่วนป้องกันรักษาป่าและควบคุมไฟป่า โดย หน่วยป้องกันรักษาป่าที่ สข.6 (สะบ้าย้อย) พร้อมด้วย นายบรรเทา ศรีสุวรรณ, จนท.ชุดปฏิบัติการพิเศษป่าไม้สงขลา, จนท.กอ.รมน.จ.สงขลา ส่วนหน้า, จนท.สายตรวจ กก.6.บก.ปทส. จ.สงขลา และจนท.ชป.ป่าไม้ ร้อย ตชด.433/ฉก.ตชด.43 พร้อมคณะเจ้าหน้าที่ นำโดย ร.ต.อ.อรุณ กุลกัลยา จนท.ชุดปราบภัยแทรกซ้อน
เนื่องจาก ได้รับข่าวสารจากคนในพื้นที่ และจนท.จุดสกัดบ้านน้ำเชี่ยว อช.สันกาลาคีรี ว่ามีการตัดไม้ทำลายป่าไม้ กานไม้ และแผ้วถางป่า บริเวณบนภูเขา ท้องที่ กลุ่มบ้านคลองป๋อง ม.4 บ้านน้ำเชี่ยว ต.เขาแดง อ.สะบ้าย้อย จ.สงขลา พื้นที่เขตป่าสงวนป่าเขาแดน ป่าควนเจดีย์ ป่าเขาพระยาไม้และป่าควนกำแพง รวมตรวจพบแล้วจำนวน 4 จุด
คณะเจ้าหน้าที่ จึงได้ร่วมกันออกตรวจสอบโดยการเดินเท้าขึ้นบนภูเขา ถึงพื้นที่ป่าไม้ถูกลักลอบทำลายบนภูเขาสูง เจาะกลางป่าลึก แนวเทือกเขาสันกาลาคีรี ห่างจากชายแดนไทย-มาเลเซีย ประมาณ 1.5 กม.ระหว่างหลักเขตแดนที่ 37-38 คณะเจ้าหน้าที่เดินเท้าถึงจำนวน 2 แปลง ประกอบด้วยแปลงที่ 1 พบที่บนภูเขาความสูง 247 เมตร เป็นการลอบตัดไม้ยืนต้น มีค่า ชนิดขนาดต่างๆ
โดยเครื่องเลื่อยโซ่ยนต์ ตัด บากรอบโคนต้นไม้ขนาดใหญ่จำนวน 2 ต้น และใช้มีดพร้ากานไม้ขนาดเล็กจำนวน 10 ต้น พบสภาพยังใหม่อยู่ คาดว่าเป็นการเริ่ม กานไม้ บากไม้ เพื่อขยายพื้นที่ทำการเกษตรจากพื้นที่เก่า ตรวจสอบเบื้องต้นพื้นที่ป่าไม้เริ่มจะเสียหาย ประมาณ 2 งาน และใกล้พื้นที่ใกล้เคียงดังกล่าว ยังมีกานไม้ขนาดใหญ่หลายต้น
โดยจุดตัดไม้ทำลายป่า ในเขตป่าสงวนป่าเขาแดน ป่าควนเจดีย์ ป่าเขาพระยาไม้และป่าควนกำแพง และอยู่ในพื้นที่เตรียมการประกาศอุทยานแห่งชาติสันกาลาคีรี ท้องที่กลุ่มบ้านคลองป๋อง ม.4 บ้านน้ำเชี่ยว ต.เขาแดง อ.สะบ้าย้อย จ.สงขลา
ต่อมาเจ้าหน้าที่ตรวจพบ แปลงที่ 2 พบที่บนภูเขาความสูง 220 เมตร จุดการตัดไม้ยืนต้น มีค่า ชนิด ขนาดต่าง ๆ ด้วยเครื่องเลื่อยโซ่ยนต์ ล้มคาตอจำนวนมากสภาพยังใหม่อยู่ บนภูเขาสูง คณะ จนท.ตรวจสอบโดยละเอียด พบพื้นที่ป่าไม้ถูกทำลายเสียหาย จำนวน 5 ไร่ 46 ตารางวา พบร่องรอยใช้รถไถทางเข้ามาเอาไม้ท่อน ตรวจพบต้นไม้หวงห้าม ชนิด ขนาดต่างๆ เช่น ไม้ตีนเป็ดหรือไม้พญาสัตบรรณ ไม้เมี่ยงอาม ไม้ทองบึ้ง ไม้จวง ไม้ไทร ไม้พลา ไม้นนทรีย์ ไม้ทังใบใหญ่ ถูกตัดโค่นด้วยเครื่องเลื่อยโซ่ยนต์ ล้มคาตอ จำนวน 26 ต้น ร่องรอยตัดมาแล้ว ประมาณ 1-3 เดือน บางส่วนถูกเผา และมีการปลูกต้นยางพาราขนาดเล็กจำนวน 300 ต้น
ขณะตรวจสอบไม่พบผู้หนึ่งผู้ใด คาดว่าผู้ก่อเหตุรู้ตัวก่อน จนท.เข้าไปตรวจสอบ และไม่พบอุปกรณ์ในการตัดไม้ทำลายป่าแต่อย่างใด ส่วนปริมาตรไม้ ค่าเสียหายของรัฐ อยู่ระหว่างคิดคำนวณของ จนท.ป่าไม้
จุดตัดไม้ทำลายป่า ในเขตป่าสงวนป่าเขาแดน ป่าควนเจดีย์ ป่าเขาพระยาไม้และป่าควนกำแพง ท้องที่กลุ่มบ้านคลองป๋อง ม.4 บ้านน้ำเชี่ยว ต.เขาแดง อ.สะบ้าย้อย จ.สงขลา ต้นน้ำแม่น้ำเทพา เขตรอยต่อ อ.กาบัง จ.ยะลา ซึ่งเป็นพื้นที่ ป่าสงวนแห่งชาติ และพื้นที่ป่าเตรียมการ อุทยานแห่งชาติสันกาลาคีรี
นอกจากนี้ยังพบร่องรอยของช้างป่าจำนวนมากที่ออกมาหากินผลไม้อยู่หลายตัว โดยพบว่ามีช้างป่าแม่ลูกคู่หนึ่ง ได้ออกมาหากินอยู่บริเวนดังกล่าวเป็นประจำ โดยวันนี้พบขณะที่เจ้าหน้าที่เข้าพื้นที่พบช้างป่ายืนกินต้นกล้วย กินลองกอง ของชาวบ้านในละแวกดังกล่าวด้วย
เจ้าหน้าที่ได้แจ้งต่อผู้ที่ลักลอบตัดไม้ ทำลายป่า เผาป่าสงวนแห่งชาติ เป็นการกระทำความผิด พ.ร.บ.ป่าไม้ พ.ศ.2484 และ พ.ร.บ.ป่าสงวนแห่งชาติ พ.ศ.2507 เจ้าหน้าที่จึงมอบหมายให้ นายบรรเทา ศรีสุวรรณ จนท.หน่วยป้องกันรักษาป่าที่ สข.6 (สะบ้าย้อย) จัดทำบันทึกรายละเอียด พื้นที่ป่าเสียหาย ร้องทุกข์ต่อ พงส.สภ.สะบ้าย้อย อ.สะบ้าย้อย จ.สงขลา เพื่อสืบสวนหาตัวผู้ที่ลักลอบตัดไม้ ทำลายป่า มาดำเนินการตามกฎหมายต่อไป
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี