กำจัด‘ปลาหมอคางดำ’ฉลุย

1-7ส.ค.รับซื้อทำปุ๋ย168ตัน

โฆษกกรมประมงแจงมาตรการกำจัด“ปลาหมอคางดำ”นำไปผลิตน้ำหมักชีวภาพเห็นผล เดินเครื่องแค่7 วันมีเกษตรกรนำปลามาจำหน่ายแล้วกว่า 168 ตัน ลุยขยายจุดรับซื้อโดยเปิดรับแพปลาสมัครเป็นตัวกลางรวบรวมวัตถุดิบเพิ่ม

เมื่อวันที่ 8 สิงหาคม นายสุวัฐน์ วงศ์สุวัฒน์ รองอธิบดีกรมประมง ในฐานะโฆษกกรมประมง กล่าวว่า จากนโยบายที่ร้อยเอกธรรมนัส พรหมเผ่า รมว.เกษตรและสหกรณ์ ให้กรมประมงร่วมกับกรมพัฒนาที่ดิน และการยางแห่งประเทศไทย (กยท.) นำปลาหมอคางดำที่กำจัดออกจากระบบนิเวศไปใช้ประโยชน์ โดยผลิตเป็นน้ำหมักชีวภาพนำไปแจกจ่ายให้เกษตรกร นำไปใช้ในพื้นที่สวนยางในโครงการแปลงใหญ่ ภายใต้โครงการผลิตน้ำหมักชีวภาพเพื่อเกษตรกรชาวสวนยางนั้น ขณะนี้กรมประมงรับสมัครผู้รวบรวมวัตถุดิบหรือแพปลา และตั้งจุดรับซื้อขึ้นในทุกพื้นที่ที่มีการแพร่ระบาดของปลาหมอคางดำแล้ว รวม 75 จุด

ทั้งนี้ หลังเริ่มดำเนินการมาเป็นเวลา 7 วัน ตั้งแต่วันที่ 1-7 สิงหาคมพบว่า มีเกษตรกรนำปลาหมอคางดำมาจำหน่ายแล้ว 168,029.50 กิโลกรัม และจัดส่งให้กรมพัฒนาที่ดิน เพื่อนำไปผลิตปุ๋ยหมักไปแล้วถึง 155,409.50 กิโลกรัม อย่างไรก็ตาม แพปลาผู้เข้าร่วมโครงการฯบางรายรวมถึงประชาชนยังไม่ทราบถึงหลักเกณฑ์ เงื่อนไข และวิธีการดำเนินการที่ชัดเจน

นายสุวัฐน์กล่าวต่อว่า กรมประมงจึงขอชี้แจงว่า ผู้รวบรวมวัตถุดิบปลาหมอคางดำหรือแพปลารายใดประสงค์จะขึ้นทะเบียนเป็นผู้รวบรวมปลาหมอคางดำ สามารถยื่นใบสมัครตามแบบฟอร์มสมัครผู้รวบรวมและจำหน่ายวัตถุดิบ (ปลาหมอคางดำ)ตามประกาศกรมประมง ฉบับลงวันที่ 26 กรกฎาคม ที่ สำนักงานประมงจังหวัดท้องที่ที่มีการแพร่ระบาด โดยการรับซื้อวัตถุดิบปลาหมอคางดำจากเกษตรกรและประชาชน แพปลาต้องรับซื้อกิโลกรัมละ 15 บาท จะได้รับค่ารวบรวมและค่าขนส่งไปยังหน่วยงานของพัฒนาที่ดินกิโลกรัมละ 5 บาท และเนื่องจากการรับสมัครผู้รวบรวมวัตถุดิบได้สิ้นสุดลงแล้วเมื่อวันที่ 30 กรกฎาคม แต่ยังไม่สามารถกระจายจุดรับซื้อให้เข้าถึงกลุ่มเกษตรกรชาวประมงผู้จำหน่ายได้เพียงพอตามปริมาณของปลาหมอคางดำ กรมประมงจึงออกประกาศขยายการรับสมัครผู้รับซื้อวัตถุดิบหรือแพปลาเพิ่มเติมออกไปจากประกาศฉบับเดิมจนถึงวันที่ 20 สิงหาคม

ในส่วนเกษตรกร ชาวประมง ที่เป็นผู้จำหน่าย กรมประมงขอย้ำว่า ขั้นตอนการนำปลาหมอคางดำมาขายนั้น ไม่มีเงื่อนไขกำหนดในการรับซื้อ สามารถนำมาขาย ณ จุดรับซื้อต่าง ๆ ได้ในราคากิโลกรัมละ 15 บาท ไม่จำกัดจำนวน ซึ่งหากเกษตรกรผู้จำหน่ายมีการขึ้นทะเบียนเกษตรกรผู้เพาะเลี้ยงสัตว์น้ำ (ทบ. 1) ที่จับจากบ่อตนเอง ขอให้แจ้งข้อมูล ทบ.1 กับเจ้าหน้าที่ ณ จุดรับซื้อ เพื่อเก็บเป็นฐานข้อมูลต่อไป ทั้งนี้ กรมประมงขอความร่วมมือให้ผู้จำหน่ายแจ้งแหล่งน้ำที่จับและเครื่องมือที่จับกับเจ้าหน้าที่ ณ จุดรับซื้อ เพื่อบันทึกเป็นข้อมูลสำหรับใช้ประโยชน์ในการแก้ปัญหาการแพร่ระบาดของปลาหมอคางดำต่อไป ทั้งนี้ กำหนดเปิดจุดรับซื้อปลาหมอคางดำเป็นระยะเวลา 1 เดือน ตั้งแต่วันที่ 1-31 สิงหาคม หากสิ้นสุดระยะเวลารับซื้อแล้วกรมประมง และ กยท. จะพิจารณาขยายเวลารับซื้ออีกครั้ง

ด้านนายสมพร เกื้อสกุล ประมงจังหวัดสมุทรปราการ กล่าวเพิ่มเติมว่า ในพื้นที่จ.สมุทรปราการ มีผู้สมัครเข้าร่วมโครงการฯ 6 แห่ง ประกอบด้วย อ.พระสมุทรเจดีย์ 4 แห่ง อ.เมือง 1 แห่ง และอ.บางบ่อ 1 แห่ง หลังเริ่มดำเนินโครงการฯ สำนักงานประมงจังหวัดได้แจ้งผู้สมัครทั้ง 6 แห่งเข้าร่วมประชุมเพื่อรับทราบรายละเอียดตามคู่มือของโครงการฯ พร้อมเพิ่มช่องทางติดต่อสื่อสารผ่านแอปพลิเคชัน Line เพื่อให้เจ้าหน้าที่ประมงและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้ประสานงานกันโดยตรงกรณีประสบปัญหาหรือมีข้อติดขัดต่างๆ เพื่อความรวดเร็วและทันต่อสถานการณ์