หลังจากที่ น้องออย น.ส.สุรจนา คำเบ้า อายุ 24 ปี ชาวบ้านดอนที่ หมู่ 3ต.ริมโขง อ.เชียงของ จ.เชียงราย สามารถคว้าเหรียญทองแดงในการแข่งขันกีฬาโอลิมปิก ปารีสเกมส์ รุ่นน้ำหนัก 49 กิโลกรัมนั้น พบว่าเบื้องหลังความสำเร็จ หนึ่งในนั้นคือ คุณครูสมศิลป์ขันธิกุล อดีตครูโรงเรียนริมโขงวิทยา ต.ริมโขง อ.เชียงของ ซึ่งพึ่งเกษียณอายุราชการไปได้เพียง 2 ปี โดยครูสมศิลป์ เป็นส่วนหนึ่งที่นอกจะทำให้น้องออยคว้าเหรียญในโอลิมปิก ยังเคยคว้า 1 เหรียญทองแดง ในการแข่งขันเอเชี่ยนเกมส์ และคว้า 3 เหรียญทองในการแข่งขันกีฬาซีเกมส์ รวมทั้ง 3 เหรียญทองจากการแข่งขันเยาวชนโลก
ครูสมศิลป์ จบการศึกษาจากวิทยาลัยพลศึกษาเชียงใหม่ รุ่นที่ 9 และเมื่อครั้นที่น้องออย ยังเป็นเด็กได้เรียนระดับประถมศึกษาอยู่ที่โรงเรียนริมโขงวิทยา ซึ่งเป็นโรงเรียนที่ครูสมศิลป์สอนวิชาพละอยู่นั่นเอง ย้อนกลับไปเมื่อ 18 ปีก่อน น้องออย ด.ญ.สุรจนา ในขณะนั้นได้เข้าเรียนเหมือนเด็กชนบทชายแดนไทย-ลาว ที่ติดกับแม่น้ำโขงทั่วไป แต่เด็กหญิงคนนี้สามารถฝึกฝนพื้นฐานของกีฬาชนิดต่างๆ ได้อย่างถูกต้องจนเริ่มเป็นที่จับตาของคุณครูสมศิลป์ กระทั่งขึ้นชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 ก็สามารถเล่นกีฬาต่างๆ ได้อย่างหลากหลาย เช่น ฟุตบอล บาสเกตบอลวิ่งแข่ง ฯลฯ จนได้รับเลือกเป็นนักกีฬาของโรงเรียน
ชีวิตของน้องออย เริ่มพลิกผันเพราะครูสมศิลป์ เมื่อคุณครูได้ไปร่วมงานเลี้ยงสังสรรค์อดีตศิษย์เก่าวิทยาลัยพลศึกษาเชียงใหม่ รุ่นที่ 9 และได้พบเจอกับเพื่อนร่วมรุ่นที่ทำงานอยู่โรงเรียนกีฬา จ.ชลบุรี ซึ่งกำลังเสาะหานักกีฬายกน้ำหนักให้เข้าไปฝึกฝนที่โรงเรียน ขณะนั้นน้องออยยังเรียนอยู่ชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 แต่เมื่อครูสมศิลป์และเพื่อนเห็นพ้องตรงกันว่าเด็กคนนี้มีพรสวรรค์และฝีมือด้านการกีฬาจึงได้ตกลงจะรับตัวไป ครูสมศิลป์จึงรับภาระเป็นเสมือนผู้ปกครองรองจากพ่อแม่ตั้งแต่นั้น โดยได้ไปขออนุญาตปู่และย่าซึ่งเลี้ยงดูน้องออยมาตั้งแต่เด็ก และบิดาและมารดาที่แยกทางกัน ซึ่งทั้งหมดก็เห็นชอบที่จะส่งไปเรียนเพื่ออนาคตที่ดี
ครูสมศิลป์กล่าวว่า นับตั้งแต่นั้นผมต้องทำหน้าที่เป็นคนขับรถพาลูกศิษย์คนนี้ไปส่งที่ จ.ชลบุรี โดยเราเดินทางไปด้วยกัน 2 คน เพราะไม่คุ้นเคยเส้นทางจึงพากันหลงไปไกลกว่าจะไปถึงโรงเรียนก็ค่ำมืด หลังจากส่งน้องออยให้โรงเรียนและบอกเพื่อนที่เป็นโค้ชให้ช่วยดูแลแล้วก็ขับรถกลับเชียงรายตามลำพัง ปรากฏว่าไม่ถึง วันน้องออยก็โทรศัพท์มาขอให้พากลับบ้านเพราะน้องเป็นเด็กจากชายแดนเชียงรายไม่เคยออกบ้านไปไหน ที่สำคัญไม่เคยรู้จักใครเมื่อต้องไปอยู่กับคนแปลกหน้าในโรงยิมที่ฝึกซ้อมจึงร้องไห้ฟูมฟาย แต่ตนก็บ่ายเบี่ยงถ่วงเวลาไปเรื่อยๆ ระหว่างขับรถกลับถึง จ.นครสวรรค์ น้องก็โทรศัพท์มาหาอีกหลายครั้งขอกลับบ้าน แม้ผ่านไปหลายวันอาการปรับตัวไม่ได้ก็ยังมีอยู่แม้แต่เพื่อนของตนที่เป็นโค้ชยังแนะนำให้ตนกลับไปรับน้องออยกลับ จ.เชียงราย ด้วยแต่ตนก็อดทนเพื่อให้อดีตลูกศิษย์คนนี้ได้มีอนาคตที่ดี
ย้อนกลับไปที่บ้านเลข 41/4 หมู่บ้านดอนที่ หมู 3 ต.ริมโขง อ.เชียงของ ซึ่งเป็นภูมิลำเนาเดิมของน้องออย พบว่าบิดาและมารดาได้แยกทางชีวิตกัน ที่บ้านจึงคงมีแต่นายสุทัศน์คำเบ้า อายุ 77 ปี นางสี คำเบ้า อายุ70 ปี ปู่และย่าของน้องออย อยู่ส่วนขวัญชัย คำเบ้า อายุ 47 ปีแยกไปสร้างบ้านหลังใหม่ ซึ่งทุกคนต่างตั้งความหวังเอาไว้กลับเด็กน้อยจากเชียงของคนนี้ โดยมีครูสมศิลป์เป็นคนคอยประสานงาน บอกเล่าเรื่องราวความเป็นอยู่ หลายครั้งก็ควักเงินตัวเองช่วยเหลือความเป็นอยู่ของน้องออย กระทั่งเวลาผ่านไปหลายปี น้องออยก็สามารถปรับตัวได้และแสดงฝีมือการยกน้ำหนักโดยเฉพาะรุ่น 49 กิโลกรัม แต่การดูแลก็ยังไม่พ้นครูสมศิลป์ เพราะเมื่อติดทีมชาติหรือต้องเดินทางไปต่างประเทศ ครูสมศิลป์ก็ต้องดั้นด้นขับรถจากชายแดนเชียงของ พาไปทำหนังสือเดินทางระหว่างประเทศหรือพาสปอร์ต รวมทั้งช่วยเหลือด้านอื่นๆ จนอดีตลูกศิษย์ค่อยๆ สร้างผลงานคว้าเหรียญรางวัลต่างๆ จนมาถึงเหรียญทองโอลิมปิกดังกล่าว ซึ่งสร้างความภาคภูมิใจให้กับครูสมศิลป์ เป็นอย่างมาก
ครูสมศิลป์กล่าวว่า หลังจากไปอยู่ที่ จ.ชลบุรี น้องออยก็กลับบ้านนานๆ ครั้ง บางครั้งเดินทางมาแข่งขันใกล้บ้านเกิดตนก็จะทำหน้าที่ไปขอตัวและรับ-ส่งมายังบ้าน อย่างไรก็ตามที่ผ่านมาน้องออยไม่สามารถเป็นตัวแทนนักกีฬาของ จ.เชียงราย หรือส่งผลต่อการต้อนรับหรือจัดกิจกรรมต่างๆ เพราะมีข้อตกลงเดิมว่าถ้าจะเข้าเรียนที่โรงเรียนกีฬา จ.ชลบุรี ต้องโอนย้ายที่อยู่ไปอยู่ จ.ชลบุรี ดังกล่าว ดังนั้นตนจึงคาดหวังว่าในอนาคตจะมีการโอนย้ายที่อยู่กลับมายัง จ.เชียงราย เพื่อให้น้องออยได้มีโอกาสกลับภูมิลำเนาหรือได้รับการสนับสนุนในฐานะชาวเชียงรายเพราะที่ผ่านมาการต้อนรับหรือสนับสนุนในฐานะชาวเชียงรายไม่สามารถทำได้มากนัก แม้จะคว้าเหรียญในรายการนานาชาติมาแล้วมากมาย
อังคณา จิระดา
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี