nn ตั้งคำถามกันอื้อทีเดียวสำหรับโครงการนโยบายเงิน“ดิจิทัล วอลเล็ต” เพราะถึงวันนี้ผู้คนจำนวนมากยังไม่บรรลุสัจธรรมว่า ที่แท้มันเป็นเงินอะไรกันแน่ และเพราะอะไรจึงทำให้ประชาชนสับสน ถ้าจะให้เงินสดกันตรงไป-ตรงมาไม่ได้หรืออย่างไร เนื่องจากในเนื้อแท้แล้ว “เงินที่ไม่ใช่เงินสด”ดังกล่าวมันก็คือเงินงบประมาณแผ่นดินภาษีประชาชนไม่ควรเลี่ยงบาลีแจกจ่ายให้กันทุกคน คนละ 10,000 บาท ย่อมดีกว่าการเล่นคำ แปลคำให้วุ่นวาย แม้ถูกโจมตีมองแบบไหนลักษณะใดก็ไม่เลวร้ายเหมือนดิจิทัล วอลเล็ต 

nn นโยบายของพรรคเพื่อไทยเกี่ยวกับเรื่องนี้ปรากฏมีคนของพรรคหลายคนบอกว่า “ดิจิทัล วอลเล็ต” ไม่ใช่คริปโตเคอเรนซี ไม่ใช่เงินสกุลใหม่ แต่เป็นเหรียญ (คูปอง) หรือสิทธิ์การใช้เงินที่ใช้ในบล็อกเชน (BLockchain) โดยมีเงื่อนไขในการใช้งาน ซึ่งทำให้ไม่มีความเสี่ยง ไม่มีการเก็งกำไร, ไม่มีการถูกทุบ,ไม่มีการขาดทุน ไม่สามารถแลกเปลี่ยนด้วยสินทรัพย์ดิจิทัลอื่นได้ ไม่มีราคาตกต่ำ หรือราคาขึ้นลง เพราะทุกเหรียญมีค่าเท่ากับเงินบาทเสมอ รับประกันโดยรัฐบาล ทุกคนที่มีอายุครบ 16 ปี รวมถึงประชาชนที่มีบัตรสวัสดิการอื่นๆ เช่นคนชรา คนพิการ ต่างได้สิทธิ์นี้ วิธีการใช้เงินดิจิทัล สามารถใช้จ่ายในร้านค้าต่างๆ รัศมี 4 กม. จากที่อยู่ตามทะเบียนบ้าน และมีระยะเวลาให้ใช้ภายใน 6 เดือน 

nn ฟังการแจกแจงแล้วก็พอสรุปได้ว่า ช่วงนั้นพรรคเพื่อไทยคุยฟุ้งน้ำไหลไฟดับถ้าได้เป็นรัฐบาลภายในต้นปี 2567 รัฐบาลสามารถประกาศใช้ได้ทันที 

nn อนิจจา เมื่อมีเสียงติติงคัดค้านว่านโยบายเรื่องนี้จะเกิดปัญหา “ชะตากรรมชะตาทราม” ตามมาแน่นอน พรรคเพื่อไทยจึงประวิงเวลามาถึงปัจจุบัน วันนี้เดือนสิงหาคม 2567 ใกล้ถึงเดือนกันยายนแล้ว ประชาชนก็ยังไม่รู้ว่านโยบายดังกล่าวจะออกมาเป็น “ลูกผีหรือลูกคน” 

nn แต่เท่าที่รู้ข้อเสียของเงินระบบนี้ คือ มีเงื่อนไขข้อจำกัดในการใช้งานและเป็นเรื่องยากสำหรับผู้ที่ไม่คุ้นเคยกับเทคโนโลยี ตลอดถึงความไม่พร้อมของร้านค้าบางแห่ง เหนืออื่นใดร้านค้าไม่อาจนำเงินออกมาหมุนเวียนได้ภายใน 6 เดือน สุดท้ายอาจนำมาซึ่งภาวะเงินเฟ้อได้ 

nn อย่างไรก็ตาม นโยบายดิจิทัลวอลเล็ต ว่ากันว่าพรรคเพื่อไทยจะต้องเจอมรสุมทางการเมืองสาหัสแน่นอน เพราะแม้แต่คำพูดนโยบายที่ว่า “ถ้าพรรคเพื่อไทยเป็นรัฐบาล น้ำ-ไฟฟ้า-น้ำมัน จะลดทันที” ปรากฏว่าคำพูดของคนเพื่อไทยถูกมองว่า มันคือน้ำลายที่ถ่มออกไปแล้วกลับมารดหน้าตัวเองประจานตัวเอง nn

ไผ่ฎำ