ยธ.ตั้งเป้านำลูกหนี้ กยศ.กว่า 200,000 ราย ในพื้นที่จังหวัดชายแดนใต้ ปรับโครงสร้างหนี้ เตรียมจัด"มหกรรมแก้หนี้สร้างวิถีแห่งความเป็นธรรม"ช่วย

เมื่อวันที่ 13 สิงหาคม 2567 พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม พร้อมด้วย นายชัยณรงค์ กัจฉปานันท์ ผู้จัดการกองทุนเงินให้กู้ยืมเพื่อการศึกษา (กยศ.) พ.ต.ท.วรรณพงษ์ คชรักษ์ เลขาธิการศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศอ.บต.) และผู้บริหารหน่วยงานในสังกัด กระทรวงยุติธรรม แถลงข่าวเตรียมจัดงานมหกรรมแก้หนี้สร้างวิถีแห่งความเป็นธรรมสำหรับ ลูกหนี้ของกองทุนให้กู้ยืมประกันการศึกษา หรือ กยศ.ในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ โดยกล่าวว่า จากการที่การยุติธรรมได้จัดมหกรรมแค่นี้แล้วกว่า 53 ครั้งในประเทศ ไทย พบว่าครัวเรือนเป็นปัญหาใหญ่ของประชาชนโดยเฉพาะหนี้ กยศ.ที่ต้องเร่งแก้ไขมากที่สุด ซึ่งที่ผ่านมาทาง กยศ.ได้ปรับแก้ไขกฎหมาย ช่วยลดภาระหนี้ให้กับลูกหนี้ได้ เช่น การลดอัตราดอกเบี้ยเหลือร้อยละ 1 เบี้ยปรับร้อยละ 1.5 การให้นำเงินจากการชำระหนี้ไปชำระเงินต้นก่อนการชำระเบี้ยปรับหรือดอกเบี้ย รวมถึงการปลดภาระผู้ค้ำประกัน ทำให้สามารถลดจำนวนหนี้ก้อนใหญ่ได้ รวมถึงการจัดมหกรรมแก้หนี้ใน 53 จังหวัดทั่วประเทศเพื่อให้ลูกหนี้ได้เข้าร่วมปรับโครงสร้างหนี้ใหม่ เช่น การยืดระยะเวลาชำระหนี้ออกไปเป็น 15 ปี

สำหรับพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ พบว่า ประชาชนจำนวนมากเป็นหนี้ กยศ.แต่การจัดงานที่ผ่านมายังไม่เพียงพอรองรับความต้องการของลูกหนี้ได้ทั้งหมด และยังเป็นพื้นที่ที่มีรายได้น้อยที่สุด แม้จำนวนคนจะไม่มากแต่มีหนี้ กยศ.จำนวนมาก โดยปัจจุบันมีลูกหนี้ กยศ.ใน จ.สงขลา ปัตตานี นราธิวาส และยะลา ทั้งหมด 217,509 คน ปรับโครงสร้างหนี้แล้ว 5,126 ราย ลูกหนี้ กยศ.ที่รอการปรับโครงสร้างหนี้อีก 215,513 ราย

ดังนั้น กระทรวงยุติธรรมจึงได้ร่วมกับกรมคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพกรมบังคับคดี และ กยศ.มีกำหนดจัดงานมหกรรมแก้หนี้ในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้เพิ่มขึ้น ประกอบด้วย จ.สงขลา ที่มหาวิทยาลัยทักษิณ ในวันที่ 15 สิงหาคม, จ.นราธิวาส ที่มหาวิทยาลัยนราธิวาสราชนครินทร์ วันที่ 17-19 สิงหาคม, จ.ปัตตานี ที่มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์วิทยาเขตปัตตานี วันที่ 18-19 สิงหาคม, จ.ยะลา ที่มหาวิทยาลัยราชภัฏยะลา วันที่ 11-12 กันยายน 2567 โดยมอบหมายให้ศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศอ.บต.) ร่วมบริหารจัดการเพื่อให้ประชาชนสามารถเข้าร่วมโครงการได้มากที่สุด โดยคาดว่าจะมีผู้เข้าร่วมจำนวนมาก ซึ่งนโยบายแก้ไขปัญหาหนี้นี้ถือเป็นการแก้หนี้ครั้งใหญ่ที่สุดของประเทศ และจะช่วยปลดภาระผู้ค้ำประกันได้อีกจำนวนมาก

ด้าน นายชัยณรงค์ กัจฉปานันท์ ผู้จัดการกองทุนเงินให้กู้ยืมเพื่อการศึกษา (กยศ.) กล่าวว่า ลูกหนี้ กยศ.มีสิทธิ์เข้าร่วมการปรับโครงสร้างหนี้ได้ทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็นลูกหนี้ปกติ ลูกหนี้ที่เคยถูกฟ้องร้องหรือยึดทรัพย์ โดยสามารถขยายเวลาผ่อนชำระหนี้เพิ่มเติมได้ โดยให้ผ่อนสูงสุดได้ 15 ปี หรือจนถึงอายุ 65 ปี

ทั้งนี้ ในปีงบประมาณที่ผ่านมา กยศ.ได้ดำเนินการปรับโครงสร้างหนี้ไปแล้ว 117,000 ราย คิดเป็นเงินประมาณ 21,000 ล้านบาท และจากการคำนวณยอดหนี้ใหม่ยังสามารถลดภาระหนี้ให้กับลูกหนี้ กยศ.ได้มากถึง 57,000 ล้านบาท

- 006