ศาลอุทธรณ์ภาค9พิพากษาประหารชีวิตยกแก๊ง ยิงถล่มฆ่านักธุรกิจมาเลเซีย

14 สิงหาคม 2567 ที่ศาลจังหวัดสงขลา มีการอ่านคำพิพากษาของศาลอุทธรณ์ภาค 9 พิพากษายืนตามคำพิพากษาของศาลชั้นต้น โดยสั่งประหารชีวิต นายอภิชน จำเลยที่ 1 , นายยุทธศักดิ์ จำเลยที่ 3 , นายตัน จำเลยที่ 4 , นายธนเดช จำเลยที่ 6 และจำคุกตลอดชีวิต นายเอกพล จำเลยที่ 2 ที่เป็นมือปืน และนายชินพัฒน์ จำเลยที่ 5 คนขับรถเก๋งพามือปืนหลบหนี

สำหรับนายเอกพล เป็นอดีตทหาร และนายชินพัฒน์ ที่หลบหนีไประหว่างประกันตัวชั้นศาล ต่อมา นายเอกพล ถูกตำรวจภาค 8 จับกุมตัวตามหมายจับนำส่งศาลจังหวัดสงขลา เมื่อเดือน พ.ค.67 ขณะหลบหนีไปอยู่ในสวนปาล์มที่ จ.ประจวบคีรีขันธ์ ส่วนนายชินพัฒน์ ยังหลบหนีประกันจากศาล

ต่อมาเมื่อวันที่ 10 ก.พ. ที่ศาลจังหวัดสงขลา มีการอ่านคำพิพากษาคดีคนร้ายใช้อาวุธสงครามเอ็ม 16 ยิงถล่มนายลี อา ฮาน เสียชีวิตคารถเบนซ์ ทะเบียนกรุงเทพมหานคร และมีผู้ได้รับบาดเจ็บอีก 1 คน ซึ่งในวันนี้ศาลจังหวัดสงขลาได้ตัดสินให้ประหารชีวิตทีมสังหารยกทีม ยกเว้นคนขับและคนยิง ที่สั่งจำคุกตลอดชีวิต

สำหรับคดีดังกล่าวสืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 4 ธ.ค.58 ช่วงกลางวัน บนถนนกาญจนวาณิชย์ แยกคลองปอม หมู่ 8 ต.พะตง อ.หาดใหญ่ คนร้ายใช้อาวุธสงครามยิงถล่มรถเบนซ์ทำให้นายลี อายุ 44 ปี นักธุรกิจชาวมาเลเซีย เสียชีวิตทันที และนางมยุรี อายุ 42 ปี ที่นั่งมาด้วยได้รับบาดเจ็บ สาเหตุทางเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนสอบพบมาจากปมฆ่าล้างหนี้ซื้อขายที่ดินมูลค่านับร้อยล้านบาท ระหว่างผู้ตายกับกลุ่มผู้จ้างวาน และเจ้าหน้าที่ได้จับกุมตัว น.ส.นงเยาว์ หนึ่งในผู้ต้องหา ที่อ้างว่านายลี มีความสัมพันธ์อย่างลึกซึ้งกับน้องสาวของนายอภิชน หรือเสี่ยชน อายุ 47 ปี โดยผู้ตายได้แอบถ่ายคลิปขณะมีเพศสัมพันธ์ไว้เพื่อแบล็กเมล์ และได้ขอซื้อที่ดินแปลงหนึ่งในราคา 20 ล้านบาท

จากการสืบสวนสอบสวนของ พ.ต.อ.ศักดา เจริญกุล ผกก.สส.ภ.จ.สงขลา (ตำแหน่งในขณะนั้น) พร้อมด้วยสืบสวน ภ.9 และ กก.6 ป. ร่วมกันสืบสวนคลี่คลายคดี โดยสามารถแกะรอยติดตามจับกุมผู้ก่อเหตุได้ยกแก๊ง ตั้งแต่คนสั่งฆ่า ซึ่งเป็นชาวมาเลเซีย เพื่อฆ่าล้างหนี้มากกว่า 120 ล้านบาท คนรับงานฆ่าซึ่งเป็นพ่อตาของคนจ้าง และทีมฆ่าชาวสุราษฎร์ธานี และชุมพร ผู้ต้องหาประกอบด้วย นายอภิชน (คนรับงานฆ่า) ,  นายตัน , น.ส.นงเยาว์ , นายยุทธศักดิ์ (คนขับกระบะอีซูซุ) , นายธนเดช (คนขับกระบะฟอร์ด) , นายเอกพล (คนยิงปืนเอ็ม 16) และนายชินพัฒน์ (คนขับรถ) พร้อมตรวจยึดเงินสดที่เหลือจากการรับจ้างฆ่า จากภรรยาของผู้ร่วมก่อเหตุถึง 2 ราย และตรวจยึดรถยนต์เก๋งที่ใช้ยิงผู้ตาย , รถยนต์กระบะที่ใช้ติดตามผู้ตาย จำนวน 2 คัน เป็นหลักฐานในคดี

ชั้นจับกุมและสอบสวนผู้ต้องหาทั้งหมดให้การปฏิเสธทุกคน แต่ด้วยความเชี่ยวชาญในการรวบรวมพยานหลักฐาน และการทำคดีมือปืน และคดีอุกฉกรรจ์ของ พ.ต.อ.ศักดา และทีมงาน ทำให้สามารถนำสืบให้ศาลเห็นว่ากลุ่มคนร้ายที่จับกุมมาเป็นทีมฆ่าผู้ตายเพื่อล้างหนี้สินมากกว่า 120 ล้านบาท ตามพยานหลักฐานที่ตรวจสอบมาได้ ต่อมาระหว่างการพิจารณา ผู้ต้องหา 2 คน ที่เป็นคนขับและคนยิง เห็นว่าถูกคนจ้างทอดทิ้งไม่เหลียวแลในการต่อสู้คดี จึงยอมให้การรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา และให้รายละเอียดในคดี และหลบหนีการประกันในชั้นศาลไป

ต่อมาวันที่ 9 ก.พ.66 ศาลจังหวัดสงขลา อ่านคำพิพากษา เป็นเวลาหลายชั่วโมง พิพากษาประหารชีวิตทุกคน ยกเว้น นายชินพัฒน์ และนายเอกพล ที่ทั้ง 2 คน รับสารภาพ แต่หลบหนีประกันในชั้นศาล หลังจากเบิกความให้การรับสารภาพต่อศาล โดยลดเหลือตลอดชีวิต