ตำรวจสอบสวนกลางบุกยึดไม้เถื่อนกลาง "บ้านถวาย" อำเภอหางดง จังหวัดเชียงใหม่ เตรียมส่งออกต่างประเทศ
วันที่ 14 สิงหาคม 2567 เจ้าหน้าที่ชุดปฏิบัติการพิเศษตำรวจสอบสวนกลาง ร่วมกับชุดพญาเสือ ตำรวจตระเวนชายแดน 33 เจ้าหน้าที่ตำรวจหน่วยปฏิบัติการพิเศษ กก.สืบสวนภาค 5 และเจ้าหน้าที่หน่วยป้องกันรักษาป่าที่ ชม.13 สนธิกำลังบุกยึดไม้เถื่อนประกอบด้วยไม่ชิงชันแปรรูป ไม้ประดู่แปรรูป และปมประดู่มูลค่า 10 ล้านบาทในโกดังกลางบ้านถวาย อ.หางดง แหล่งท่องเที่ยวชื่อดังเตรียมส่งออกต่างประเทศ หลังเจ้าหน้าที่ฝั่ง GPS ไว้กับไม้ที่ถูกแปรรุปกลางป่าก่อนสะกดรอย ขบวนการลักลอบค้าไม้เถื่อนมาพักไว้ในโกดัง เตรียมส่งขายให้กับนายทุนชาวต่างชาติ
กำลังเจ้าหน้าที่ชุดปฏิบัติการพิเศษตำรวจสอบสวนกลาง พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ชุดพญาเสือ เจ้าหน้าที่ตำรวจตระเวนชายแดน 33 เจ้าหน้าที่ตำรวจหน่วยปฏิบัติการพิเศษ กก.สืบสวนภาค 5 และเจ้าหน้าที่หน่วยป้องกันรักษาป่าที่ ชม.13 นำหมายศาลเข้าตรวจค้นโรงงานไม่มีเลขที่ ท้องที่บ้านหนองแก๋ว ต.หนองแก๋ว อ.หางดง ย่านบ้านถวาย ซึ่งแหล่งท่องเที่ยวจำหน่ายผลิตภัณฑ์สินค้าหัตถกรรมชื่อดัง จากการตรวจค้นเจ้าหน้าที่พบไม้ชิงชันแปรรูป ขนาด 12x12 นิ้ว และขนาด 8x8 นิ้วรวมทั้งหมด 65 ท่อน และไม้ประดู่แปรรูป 70 นิ้ว หนา 3 นิ้ว และขนาด 13 นิ้วหนา 1 นิ้ว 115 แผ่น นอกจากนี้ยังพบปมไม้ประดู่ทั้งหมด 20 ชิ้น น้ำหนักกว่า 1 ตัน กองอยู่ภายในโกดัง จากการตรวจสอบพบว่าพบร่องรอยการขนไม้เข้า ออกจากโกดังได้ไม่นาน
ขณะเข้าตรวจค้นเจ้าหน้าที่พบนางดาว (นามสมมุติ) ชาวจังหวัดแม่ฮ่อสอน คนดูแลโกดังจึงนำตัวมาสอบปากคำทราบว่าตนเป็นเพียงคนดูและโกดัง อาศัยอยู่ที่นี่มานานนับ 10 ปีที่ช่วงเดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมา เจ้าของโกดังได้ให้กลุ่มคนขับรถบรรทุกเช่าโกดัง ซึ่งมีการนำไม้แปรรูปมาพักไว้ในโกดังแต่ตนไม่ทราบว่าไม้แปรรูปเป็นไม้ที่ผิดกฎหมาย ซึ่งตนมีหน้าที่เพียงคอยเปิด ปิดประตูโกดังขณะที่มีการขนไม้เข้าออกเท่านั้น ล่าสุดมีการขนไม้ออกจากโกดังเมื่อเช้ามืดที่ผ่านมาก่อนที่เจ้าหน้าที่จะเข้าตรวจยึดไม้เถื่อนทั้งหมด ทำให้ตนรู้สึกตกใจมากไม้คิดว่าไม้ทั้งหมดที่อยู่ในโกดังจะเป็นไม้เถื่อน
หลังจากสอบปากคำนางดาว เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ได้แจ้งกล่าวหา 1.ร่วมกันทำไม้หรือกระทำด้วยประการใดๆ แก่ไม้หวงห้ามในป่าโดยไม่ได้รับอนุญาต 2.ภายในเขตควบคุมการแปรรูปไม้ ร่วมกันมีไม้หวงห้ามชนิดอื่นแปรรูปมีปริมาตรเกินกว่า 0.20 ลูกบาศก์เมตรไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต 3.ภายในเขตควบคุมการแปรรูปไม้ ร่วมกันมีไม้ชิงชันแปรรูปไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต 4.รับไว้ด้วยประการใด ซ่อนเร้น จำหน่าย หรือช่วยพาเอาไปเสียให้พ้น ซึ่งไม้หรือของป่า ซึ่งตนรู้อยู่แล้วว่าเป็นไม้หรือของป่าที่มีผู้ได้มาโดยการกระทำความผิดกฎหมายตามพระราชบัญญัติป่าไม้ฯ และพระราชบัญญัติป่าสงวนแห่งชาติฯ ฐาน 1.ในเขตป่าสงวนแห่งชาติ ร่วมกัน ทำไม้ หรือกระทำด้วยประการใดๆ อันเป็นการเสื่อมเสียแก่สภาพป่าสงวนแห่งชาติโดยไม่ได้รับอนุญาตจากพนังานเจ้าหน้าที่ 2.รับไว้ด้วยประการใด ซ่อนเร้น จำหน่าย หรือช่วยพาเอาไปเสียให้พ้น ซึ่งไม้หรือของป่า ซึ่งตนรู้อยู่แล้วว่าเป็นไม้หรือของป่าที่มีผู้ได้มาโดยการกระทำความผิดกฎหมายตามพระราชบัญญัติป่าสงวนแห่งชาติฯ หลังจากนั้นเจ้าหน้าที่ชุดจับกุมได้นำตัวผู้ต้องหาส่งพนักงานสอบสวน สภ.หางดง ดำเนินคดีต่อไป
ร.ต.อ.จิรายุ อิ่นแก้ว รอง สว.(สอบสวน) กก.4 บก.ปทส.ช่วยราชการ กก.4 บก.ป. หัวหน้าชุดจับกุมเปิดเผยว่า พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผู้บัญชาการ กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลางได้ให้นโยบายเจ้าหน้าที่ฯ ในสังกัดได้เร่งรัดปราบปรามการกระทำความผิดด้านทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม โดยเฉพาะอย่างยิ่งในพื้นที่จังหวัดภาคเหนือ จึงได้มีการสนธิกำลังเจ้าหน้าที่หลายหน่วยงานประสานข้อมูลในการสืบสวนสอบสวนผู้กระทำความผิดรายดังกล่าว ก่อนหน้านี้เจ้าหน้าที่ได้ออกลาดตระเวนในพื้นที่สุ่มเสี่ยงที่มีการลักลอบตัดไม้ทำลายป่าพื้นที่ จ.เชียงใหม่และได้พบมีการแปรรูปไม้กลางป่าในพื้นที่ อ.แม่ริม พบกองไม้ประดู่ถูกแปรรูปไว้กลางป่า จึงได้มีการวางแผนนำเครื่องติดตาม GPS ไว้กับไม้แปรรูปล็อตดังกล่าว หลังจากนั้นขบวนการลักลอบค้าไม้เถื่อนจึงได้ลำเลียงไม้แปรรูปออกจากพื้นที่ป่า เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมจึงได้สะกดรอยตามพบว่าไม้เถื่อนล็อตดังกล่าวถูกนำมาเก็บไว้ในโกดัง บริเวณดังกล่าวหลังจากนั้นเจ้าหน้าที่จึงได้ขอหมายศาลเข้าตรวจค้นและตรวจยึดไม้แปรรูปทั้งหมด
ร.ต.อ.จิรายุ กล่าวเพิ่มเติมว่าจากการสืบสวนข้อมูลเชิงลึก ไม้ประดู่และไม้ชิงชัน ล็อตดังกล่าวได้มีการเตรียมส่งขายให้นายทุนชาวต่างประเทศ ด้วยการปะปนอำพรางกับสินค้าหัตถกรรม ส่งออกไปยังต่างประเทศทางเรือ ซึ่งไม้ชิงชันและไม้ประดู่เป็นที่นิยมในกลุ่มชาวต่างชาติ เชื่อว่าเป็นไม้มงคล ทำให้มีความต้องการและมีราคาสูง ส่วนราคาไม้ชิงชันหากสามารถนำออกไปต่างประเทสได้จะมีราคากิโลกรัมล่ะ 1,500 บาท ส่วนไม้ประดู่ราคากิโลกรัมล่ะ 300 บาท ขณะที่ปมประดู่ ซึ่งเป็นต้นไม้ที่มีลักษณะพิการ จะมีราคาสูงถึงกิโลกรัมล่ะ 2 พันบาท ซึ่งหากไม้เถื่อนล้อตดังกล่าวหากหลุดรอดส่งไปยังต่างประเทศได้จะมีมูลค่าไม่ต่ำกว่า 10 ล้านบาทเลยทีเดียว ทำให้มีการลักลอบตัดไม้ประดู่ และไม้ชิงชันเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งพื้นที่ อ.ฮอด อ.แม่แจ่ม และอ.อมก๋อย จ.เชียงใหม่ และบางพื้นที่ของ จ.แม่ฮ่อสอน ซึ่งเจ้าหน้าที่สามารถตรวจจับขบวนการลักลอบขนไม้เถื่อนได้บ่อยครั้ง ซึ่งหลังจากนี้เจ้าหน้าที่จะได้ขยายผลติดตามจับกุมขบวนการค้าไม้เถื่อนข้ามชาติกลุ่มนี้มาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป - 003
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี