นักวิชาการถล่ม
รุมค้าน‘กาสิโน’
ซัด‘ตีเช็คเปล่า’
ส่อเอื้อกลุ่มทุน
นักวิชาการ ภาคประชาสังคม ชำแหละร่างพ.ร.บ.เอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ “ไม่ตรงปก-ตีเช็คเปล่า-เอื้อกลุ่มทุน”ถามดังๆประเทศไทยต้องพึ่ง“กาสิโน”กู้เศรษฐกิจแล้วหรือ ด้าน“เพื่อไทย”จ่อถก“ภูมิใจไทย-พรรคร่วมรัฐบาล”เคลียร์ข้อสงสัย “สมคิด” เชื่อ ไร้ปัญหา พร้อม ทำความเข้าใจพรรคร่วมรัฐบาล เดินหน้าร่วมกัน จากกรณีที่ประชุมพรรคภูมิใจไทย (ภท.) เมื่อวันที่ 13 สิงหาคม มีมติไม่เห็นด้วยกับการร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) การประกอบธุรกิจสถานบันเทิงครบวงจร พ.ศ.. หรือเอนเตอร์เทนเมนท์คอมเพล็กซ์นั้น
เมื่อวันที่ 14 สิงหาคม 2567 นายสมคิด เชื้อคง รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง เปิดเผยถึงร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) การประกอบธุรกิจสถานบันเทิงครบวงจร (เอ็นเตอร์เทนเมนต์ คอมเพล็กซ์) พ.ศ. ….
ว่า ปัจจุบันยังอยู่ระหว่างการหารือ ซึ่งรัฐบาลจะมีการพิจารณาร่วมกันเพื่อหาทางออก เพราะพระราชบัญญัติฉบับดังกล่าวผ่านการพิจารณาของคณะกรรมาธิการของสมาชิกรัฐสภาแล้ว
“สำหรับพรรคภูมิใจไทยที่มีความเห็นไม่ตรงกับรัฐบาลในหลายประเด็นนั้น เชื่อว่าไม่น่ามีปัญหาอะไร เพราะหน่วยงานที่รับผิดชอบพร้อมชี้แจงในรายละเอียดทุกอย่าง รวมทั้งจะต้องมีการหารือเป็นการภายในกับพรรคร่วมรัฐบาลทุกพรรค เพื่อนำเสนอข้อมูลทุกด้านที่ยังคงมีความเคลือบแคลงสงสัย เชื่อว่าหลังจากที่ได้มีการพูดคุยกันจะได้ข้อยุติอย่างแน่นอน ทั้งนี้ความเห็นที่แตกต่างคือข้อดีของการร่วมรัฐบาลเพราะหากมีการพูดคุยก็จะเห็นในทิศทางเดียวกันอย่างแน่นนอน” นายสมคิด กล่าว
เครือข่ายนักวิชาการ ภาคประชาสังคม เด็กและเยาวชน และสื่อมวลชน จัดเวทีวิพากษ์ “ร่าง พรบ.การประกอบธุรกิจสถานบันเทิงครบวงจร พ.ศ. ...” ที่โรงแรมเอเชีย กรุงเทพ หลังจากที่กระทรวงการคลังเปิดรับฟังความคิดเห็นออนไลน์ ระหว่าง 2–18ส.ค. 2567และประชาชนส่วนใหญ่ไม่ได้รับรู้ข้อมูลอย่างทั่วถึง
นายธนากร คมกฤส เลขาธิการมูลนิธิรณรงค์หยุดพนันว่า มีข้อสังเกตต่อร่าง พ.ร.บ.นี้ 3ประเด็น คือ 1.ไม่ตรงปก-ที่บอกว่าจะเป็นเมกะโปรเจกต์ แบบสิงคโปร์ มีศูนย์ประชุมขนาดใหญ่ โรงแรมระดับห้าดาว และห้างสรรพสินค้าครบวงจร มีหน่วยงานกำกับดูแลที่มั่นใจได้ และมีการป้องกันเยียวยาและลดผลกระทบ แต่เนื้อหาใน ร่าง พ.ร.บ. นี้กลับตัดหรือลดทอน รายละเอียดต่างๆลงไปมาก มีแค่ห้างและ โรงแรมเล็กๆก็ได้ไม่ต้อง 5 ดาว ศูนย์การประชุมนานาชาติไม่ต้องมี ที่สำคัญคือที่เคยบอกว่าจะมีหน่วยงานและมาตรการดูแลเพื่อลดปัญหาลดผลกระทบ กลับว่างไปหมวดกองทุนที่กมธ.ศึกษาเสนอไว้ก็ถูกตัดทิ้งทั้งหมวด
2.ตีเช็คเปล่า-ร่างนี้ให้อำนาจคณะกรรมการนโยบาย หรือ Super Board อย่างล้นฟ้า รวบอำนาจอย่างเบ็ดเสร็จ จะออกใบอนุญาตให้ใคร ตั้งที่ไหน พื้นที่ขนาดเท่าไร จ่ายภาษีกี่เปอร์เซ็นต์ และขจัดกฎหมายที่เป็นอุปสรรคได้แทบทั้งหมด ที่สำคัญร่าง พรบ. นี้ตัดมาตรว่าด้วยการรับฟังความเห็นประชาชนผู้เป็นเจ้าของพื้นที่ออกไป เอื้อทุนใหญ่
3.เอื้อกลุ่มทุน โดยกำหนดว่าผู้รับใบอนุญาตต้องมีทุนจดทะเบียนที่ชำระแล้ว 10,000 ล้านบาท โดยไม่ต้องประมูล สัญญายาวไป 30 ปี เป็นทุนต่างด้าวก็ได้รับข้อยกเว้น แถมเปิดช่องให้ข้อยกเว้นทุกอย่างอยู่ภายใต้การอนุมัติของซุปเปอร์บอร์ด ที่น่าตกใจคืออนุญาตให้กาสิโนปล่อยเงินกู้ได้ด้วย ใครที่เข้ามาเล่นกาสิโนแล้วหมดตัวก็กู้ได้ด้วย แถมเป็นหนี้ที่ถูกต้องตามกฎหมาย ร่าง พ.ร.บ.จึงนับว่ายังมีจุดอ่อนอยู่มาก ยังไม่สมควรผ่านให้นำไปบังคับใช้
นายวิเชษฐ์ พิชัยรัตน์ สื่อมวลชนอาวุโส กล่าวว่าการที่รัฐบาลผลักดันให้เกิดร่าง พ.ร.บ.กาสิโนถูกกฎหมาย อาจเพราะคิดว่ารายได้จากธุรกิจกาสิโนนี้จะสร้างเม็ดเงินให้เศรษฐกิจและการท่องเที่ยวของประเทศ อีกทั้งนักการเมืองบางส่วนก็อาจจะอยากให้พื้นที่ของตนเองมีธุรกิจกาสิโนไปตั้ง เพราะเป็นการสร้างมูลค่าให้พื้นที่ตน จึงอยากจะใช้เวทีนี้ ถามกลับไปยังรัฐบาลว่า กาสิโนถูกกฎหมาย ช่วยกระตุ้นนักท่องเที่ยว กระตุ้นการลงทุนในประเทศ พัฒนาสังคมได้จริงหรือ เพราะหากต้องการกระตุ้นเศรษฐกิจ และการท่องเที่ยวเมืองไทยเรามีศิลปวัฒนธรรม แหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติ วิถีชีวิต และ Street Food ที่มีแรงดึงดูดมาก โดยไม่ต้องไปตั้งอยู่ในสถานบันเทิงครบวงจรเลย และที่สำคัญร่าง พ.ร.บ.นี้มีการเปิดรับฟังความคิดเห็นแค่ทางออนไลน์ ดูเป็นการเร่งรีบทำมากกว่า ที่จะเปิดโอกาสให้สาธารณชนได้เข้ามามีส่วนร่วมในการรับรู้อย่างแท้จริง จึงอยากจะฝากให้เครือข่ายภาคประชาชน นักวิชาการ ผู้นำทางศาสนา เครือข่ายเด็กเยาวชน และผู้หญิง ได้ออกมาแสดงบทบาท เคลื่อนไหว แสดงความคิดเห็นต่อ ร่าง พรบ. นี้อย่างเต็มที่
ด้าน ผศ.ดร.ชิดตะวัน ชนะกุล นักวิชาการด้านเศรษฐศาสตร์ ตั้งคำถามต่อว่า “รัฐบาลต้องการอะไรจากการผลักดันให้กาสิโนถูกฎหมาย ถ้าจะส่งเสริมการท่องเที่ยวให้เกิดความยั่งยืน ข้อมูลจากองค์การอนามัยโลก (WHO) ระบุการพัฒนาการท่องเที่ยวที่ยั่งยืน ต้องมีการพัฒนาทั้ง 3 มิติ คือ เศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อม ทั้งในระยะสั้นและระยะยาว วารสารวิชาการของสหรัฐอเมริกา ตีแผ่ข้อเท็จจริงว่า “พื้นที่ใดที่มีแหล่งพนันถูกฎหมาย ประชากรในพื้นที่นั้นจะมีปัญหามากที่สุด ทั้ง หนี้ครัวเรือน สถาบันครอบครัวล่มสลาย อาชญากรรมเต็มเมือง”
นอกจากนี้ ผศ.ดร.ชิดตะวัน ยังระบุอีกว่ามูลค่าที่เกิดจากกาสิโนได้ไม่คุ้มเสีย !!! เพราะ 1 ดอลลาร์ที่ได้จากภาษีกาสิโน รัฐ USA ต้องเสีย 3 ดอลลาร์ในการเยียวยาลดผลกระทบ และที่สำคัญในประเทศที่ยังมีปัญหาด้านคอร์รัปชั่นรุนแรง การบังคับใช้กฎหมายที่หย่อนยาน การให้มีกาสิโนจะทำให้เกิดหายนะที่ยิ่งใหญ่เป็นทวีคูณ จึงอยากจะถามไปยังรัฐบาลว่าประเทศไทยเราพร้อมแล้วหรือที่จะมีกาสิโนถูกฎหมาย เพราะส่วนตัวเห็นว่าเมืองไทยยังไม่มีความพร้อมใด ๆ เลย ณ ขณะนี้
รศ.ดร.นวลน้อย ตรีรัตน์ ผอ.ศูนย์ศึกษาปัญหาการพนัน กล่าวว่า ร่าง พ.ร.บ.นี้ เริ่มต้นจะเป็นสถานบันเทิงครบวงจร แต่เนื้อหาส่วนใหญ่ของ พรบ.กลับพูดถึง แต่ธุรกิจกาสิโน พอดูถึงเอกสาร“บัญชีแนบท้าย”ประเภทของธุรกิจสถานบันเทิง ที่พยายามลดขนาด และมาตรฐานของธุรกิจอื่นๆ ทั้งห้างสรรพสินค้า โรงแรม ให้มาตรฐานลดลงและการยกเลิกกองทุนลดผลกระทบทางสังคม โดยไม่มีการตั้งหน่วยงานชัดเจนเข้ามาดูแลจริงจัง กลับปล่อยให้เป็นผู้ประกอบการ ซึ่งเป็นผู้สร้างผลกระทบ มาเป็นผู้ดูแลผลกระทบเองซึ่งขัดต่อหลักการบริหารจัดการที่ดี อีกทั้งค่าธรรมเนียมต่างๆ ที่เรียกเก็บ ก็กำหนดไว้หลวมๆเพื่อให้สามารถปรับเปลี่ยนได้ตลอดเวลา เพื่อเอื้อผลประโยชน์กับพรรคพวกของตนเอง เข้าข่ายการตีเช็คเปล่า
“ร่าง พ.ร.บ. ฉบับนี้ดูจะคาดหวังให้เป็นคนในประเทศมาเล่นมากกว่านักท่องเที่ยว จึงอยากจะฝากไปยังผู้เกี่ยวข้องให้ระมัดระวัง การทำธุรกิจกาสิโนต้องป้องกันไม่ให้คนในประเทศมาเล่นพนันจนเต็มเมือง เพราะสุดท้ายกรรมจะตกอยู่ที่ชาวบ้านและชุมชน ที่สำคัญ ถ้าจะยึดแบบสิงคโปร์โมเดล ในประเทศสิงคโปร์มีความเข้มงวดเรื่องการบังคับใช้กฎหมาย และไม่มีปัญหาคอร์รัปชั่น ส่วนประเทศไทยเรายังมีปัจจัยที่เป็นปัญหาเหล่านี้อยู่ การมีกาสิโนถูกฎหมายจึงเป็นการซ้ำเติมประเทศมากกว่าการพัฒนาเศรษฐกิจและการท่องเที่ยวแน่นอน” ผอ.ศูนย์ศึกษาปัญหาการพนัน กล่าว
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี