เมื่อวันที่ 15 สิงหาคม 2567 ที่ห้องประชุม สภ.เชียงแสน จ.เชียงราย พล.ต.ท.ธัชชัย ปิตะนีละบุตร ผช.ผบ.ตร.ได้ประชุมบูรณาการร่วมหน่วยงานความมั่นคงชายแดน แก้ไขปัญหาอาชญากรรมทางเทคโนโลยี ไทย-สปป.ลาว-เขตเศรษฐกิจพิเศษสามเหลี่ยมทองคำ โดยมีเจ้าหน้าที่กองบัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี ด่านตรวจคนเข้าเมือง (ตม.) ฝ่ายปกครอง ทหาร คณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) โดยมี ท่านคำเพ็ง กุมพัน หัวหน้าห้องว่าการเมืองต้นผึ้ง ท่านบุญถี ยัดทะวง รองหัวหน้ากองบัญชาการ ปกส.(ตำรวจ) เมืองต้นผึ้ง ท้าวอุ่นเรือน วิไซพัน หัวหน้าห้องการเทคโนโลยีและการสื่อสารเมืองต้นผึ้ง และท่านดาวเพ็ด วันมะแสง หัวหน้าหน่วยงานประสานชายแดนเมืองต้นผึ้ง เข้าร่วมแลกเปลี่ยนในการประชุมด้วย ซึ่งที่ประชุมมีการหารือเรื่องเดียวคือการปราบปรามขบวนการหลอกลวง หรือแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ในเขตเศรษฐกิจพิเศษสามเหลีย่มทองคำ เมืองต้นผึ้ง ร่วมกัน
โดยมีมติร่วม 2 ข้อ คือ 1.ทางการ สปป.ลาว จะไม่ยินยอมให้มีขบวนการหลอกลวง หรือแก๊งคอลเซ็นเตอ์ในเขตเศรษฐกิจพิเศษสามเหลี่ยมทองคำโดยเด็ดขาด โดยหลังจากวันที่ 25 ส.ค.เป็นต้นไปหากพบผู้เข้าไปลักลอบตั้งแก๊งคอลเซ็นเตอร์รวมถึงคนไทยจะถูกดำเนินคดีตามกฎหมายของ สปป.ลาว อย่างเช้มงวด 2.เพื่อให้มีการแก้ไขปัญหาอย่างต่อเนื่องจึงจะมีการศึกษาและกำหนดแนวทางในการตั้ง "คณะทำงานปราบปรามแก๊งคอลเซ็นเตอร์ตามเขตแนวชายแดนระหว่างไทย-สปป.ลาว" ซึ่งในส่วนของฝ่ายไทยทาง พล.ต.ท.ธัชชัย ได้มอบหมายให้ตำรวจไซเบอร์และ ภ.5 ได้ศึกษาในการตั้งคณะกรรมการ โดยหากมีการแจ้งความดำเนินคดีในฝ่ายไทยก็จะมีการแจ้งข้อมูลต่อให้กับคณะกรรมการถ้าเป็นคนไทยก็นำมาลงโทษในประเทศไทยหรือหากมีหมายจับก็จะควบคุมดำเนินคดีตามกฎหมาย
พล.ต.ท.ธัชชัย กล่าวว่า การหารือครั้งนี้มีเพียงเรื่องการปราบปรามแก๊งคอลเซ็นเตอร์โดยเฉพาะ เพราะถือเป็นปัญหาใหม่สำหรับการพูดคุยหารือกันระหว่างประเทศเพราะเราต้องการความมั่นใจว่าต่อไปนี้จะต้องไม่มีพื้นที่ให้แก๊งคอลเซ็นเตอร์ตามแนวชายแดนและมาหลอกลวงคนไทยอีก หลังจากที่ก่อนหน้านี้ทางเจ้าหน้าที่ไทยได้มีการตัดสัญญานอินเตอร์เน็ตที่ส่งไปยังประเทศเพื่อนบ้าน ผลคือมีการใช้สัญญานโทรศัพท์จากฝั่งประเทศเพื่อนบ้านมากขึ้นจนเกิดการโทรศัพท์ที่มีหมายเลขจำนวนมาหาคนไทย แสดงให้เห็นว่าแก๊งนี้ทำไม่ได้เหมือนเดิม และในช่วง 2 - 3 สัปดาห์ที่ผ่านมา แก๊งที่ตั้งอยู่ในประเทศกัมพูชาหลบหนีเข้ามายังฝั่งไทยที่ จ.ชลบุรี ซึ่งถูกตำรวจไทยจับกุมดำเนินคดีได้แล้วที่ อ.ศรีราชา ในที่สุด
โดยตั้งแต่ช่วงปลายเดือน ก.ค.2567 ศปอส.ตร.ร่วมกับ กสทช.และหน่วยงงานที่เกี่ยวข้องได้ตรวจสอบและตัดสัญญานโทรศัพท์และอินเตอร์เน็ตความเร็วสูงพื้นที่ชายแดนพื่อป้องกันการลักลอบส่งสัญญานไปให้กับแก๊งคอลเซ็นเตอร์ โดยมีการตัดสัญญานโทรศัพท์มือถือมากกว่า 2 ล้านเล็กหมาย ระงับการส่งสัญญาณโทรคมนาคมและถอดสายสัญญาณและอุปกรณ์ (ล้มเสา) จำนวน 179 จุด ใน 11 อำเภอ 9 รวมถึงสามเหลียมทองคำด้วย โดยเรียกปฏิบัติการนี้ว่า "ระเบิดสะพานโจร" กระทั่งร่วมมือกับทางการ สปป.ลาว เพื่อหวังจะปราบปรามอย่างเด็ดขาด
- 006
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี