DSI ออกหมายเรียก 5 คนใกล้ชิดก๊วนCEO คดีโกงหุ้นสตาร์ค รับทราบข้อกล่าวหาฟอกเงิน พร้อมสอบปากคำเข้ม ปมเอี่ยวรับโอนเงินช่วยไซฟ่อนกว่า 250 ล้านบาท 20-22 ส.ค.นี้
16 สิงหาคม 2567 พ.ต.ต.วรณัน ศรีล้ำ ผอ.กองคดีธุรกิจการเงินนอกระบบ และในฐานะโฆษกกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) เปิดเผยว่า ขณะนี้กรมสอบสวนคดีพิเศษ ได้มีการดำเนินคดีอาญากับผู้กระทำความผิดกรณีคดีหุ้นสตาร์ค (STARK) เพิ่มเติม ในความผิดฐานฟอกเงินซึ่งเป็นความผิดต่อเนื่องเกี่ยวพัน โดยรับเป็นคดีพิเศษที่ 32/2567
อีกทั้ง พ.ต.ต.ยุทธนา แพรดำ รักษาการอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ ได้สั่งการให้ พ.ต.ท.จักรกฤษณ์ วิเศษเขตการณ์ ผอ.กองคดีการเงินการธนาคารและการฟอกเงิน ซึ่งเป็นหัวหน้าคณะพนักงานสอบสวนคดีพิเศษกรณีดังกล่าว ดำเนินการออกหมายเรียกผู้ต้องหา 5 ราย ซึ่งเป็นคนใกล้ชิดกับกลุ่มผู้ต้องหาในคดีมูลฐาน โดย 1 ใน 5 เป็นคนที่มีความสัมพันธ์ใกล้ชิดกับนายศรัทธา ส่วนอีก 4 รายเป็นพนักงานในบริษัทสตาร์คฯ ที่มีบทบาทในเรื่องเส้นทางการเงิน เนื่องจากจำนวนเงินที่ปรากฏในคดีหุ้นสตาร์คมีประมาณ 14,000 ล้านบาท จึงต้องสืบสวนสอบสวนขยายผลว่าเงินที่ได้มาจากการกระทำ ความผิดในคดีอาญาของกลุ่มผู้บริหารได้ถูกจำหน่าย จ่าย โอน ไปยังบุคคลใดบ้าง
เบื้องต้นพบว่าเชื่อมโยงกับคนทั้ง 5 รายนี้ โดยพนักงานสอบสวนได้นัดหมายให้ผู้ต้องหาเข้าพบและรับทราบข้อกล่าวหา ระหว่างวันที่ 20 - 22 ส.ค.นี้ ในความผิดฐานร่วมกันฟอกเงิน นอกจากนี้ ดีเอสไอยังได้ดำเนินการแจ้งข้อมูลไปยังสำนักงาน ปปง. เพื่อดำเนินการติดตามทรัพย์สินของบุคคลดังกล่าว
พ.ต.ต.วรณัน เผยอีกว่า สำหรับจำนวนเงินที่ผู้ต้องหาทั้ง 5 รายดังกล่าว รับโอนจากกลุ่มผู้ต้องหาในคดีมูลฐาน เฉลี่ยรายละประมาณ 50 ล้านบาท อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ยังไม่พบว่าทั้ง 5 รายได้มีการไซฟ่อนเงินไปยังต่างประเทศแต่อย่างใด ส่วนประเด็นที่พนักงานสอบสวนจะใช้สอบปากคำ อาทิ อธิบายความเป็นมาของเส้นทางการเงินดังกล่าวว่าเป็นการรับโอนจากธุรกรรมใด วันเวลาการรับโอนเงิน บัญชีที่ใช้ในการรับโอนเงิน จำนวนเงิน และเข้าไปมีบทบาทเกี่ยวข้องอย่างไร ทั้งนี้ ผู้ต้องหามีสิทธิตามกฎหมายหากจะแจ้งความประสงค์ขอยื่นเอกสารชี้แจงแก้ข้อกล่าวหา
นอกจากนี้ ในเรื่องการติดตามยึดและอายัดทรัพย์สินในคดีแพ่ง ดีเอสไอได้ทำงานร่วมกับ ปปง. อย่างต่อเนื่อง ทราบล่าสุดว่า ปปง. ได้ยึดทรัพย์ของผู้กระทำความผิดในคดีมูลฐานไปแล้ว 3,200 ล้านบาท และหากพบเจอรายการทรัพย์สินใดที่ถูกซุกซ่อนหรือแปลงสภาพ ก็จะทำรายงานส่งให้ ปปง. ได้ตรวจสอบและดำเนินการตามกฎหมาย พ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน พ.ศ. 2542 เพิ่มเติมต่อไป
สำหรับคดีดังกล่าวสืบเนื่องจากพ.ต.ต.ยุทธนา แพรดำ รองอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ รักษาราช การแทนอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ และในฐานะหัวหน้าคณะพนักงานสอบสวนคดีพิเศษที่ 57/2566 กรณีคดีหุ้นสตาร์ค (STARK) ได้ดำเนินการสืบสวนสอบสวนและแจ้งข้อกล่าวหาต่อผู้กระทำความผิด จำนวน 11 ราย คือ นายชนินทร์ อดีตประธานกรรมการบริษัท สตาร์คคอร์เปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) (STARK) พร้อมพวก ในความผิดตาม พ.ร.บ.หลักทรัพย์และตลาด หลักทรัพย์ พ.ศ. 2535 ฐานตกแต่งบัญชีและงบการเงิน และฐานฉ้อโกงประชาชนฯ ข้อหายักยอกทรัพย์และข้อหาฟอกเงิน ตาม พ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน พ.ศ. 2542 ซึ่งได้สรุปสำนวนส่งฟ้องพนักงานอัยการคดีพิเศษเพื่อสั่งฟ้องต่อศาลอาญา และหลังจากนี้ดีเอสไอจะขยายผลตรวจสอบติดตามเรื่องทรัพย์สินที่ได้มาจากการกระทำความผิดในคดีหุ้นสตาร์ค โดยจะรับเป็นอีกหนึ่งคดีพิเศษในความผิดฐานฟอกเงิน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี