‘ทักษิณ’ย้ำ!สู้คดี‘ม.112’ อัยการเตรียมพยาน 10 ปากสืบมัด ส่วนทนายเตรียมพยาน 14 ปาก แก้ต่าง เตรียมงัดคลิปสัมภาษณ์ตัดต่อเข้าสู้ ยันจงรักภักดีสถาบัน พร้อมมาศาลทุกนัด ไม่หวั่น ป.ป.ป.เรียกสอบ‘แพทย์-ราชทัณฑ์’เอื้อประโยชน์ พร้อมปฏิบัติตามกฎ กติกาสังคม ศาลนัดสืบพยานโจทก์นัดแรก 1 ก.ค.ปีหน้า
19 สิงหาคม 2567 ความคืบหน้าภายหลังนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี เดินทางมาตามศาลอาญานัดตรวจพยานหลักฐานในคดีที่พนักงานอัยการสำนักงานคดีอาญายื่นฟ้องในความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112 กรณีให้สัมภาษณ์กับเดอะโชซอนมีเดีย (The ChosunMedia) ของเกาหลีใต้เมื่อปี2558 มีเนื้อหาพาดพิงสถาบันเมื่อวันที่ 18 มิ.ย.ที่ผ่านมา
ภายหลังการตรวจพยานหลักฐานนานกว่า 2 ชั่วโมงเศษแล้วเสร็จ กระทั่งเวลา 11.35 น. นายทักษิณเดินออกจากอาคารศาลอาญา โดยถวายความเคารพพระบรมฉายาลักษณ์สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ด้านหน้า
จากนั้นผู้สื่อข่าวพยายามสอบถามบรรยากาศในการนัดตรวจพยานหลักฐานว่าเป็นอย่างไร นายทักษิณได้กล่าวเพียงสั้นๆ ด้วยสีหน้ายิ้มแย้มว่า “ก็ไม่มีอะไร” พร้อมโบกมือ ก่อนขึ้นรถกลับทันที
ต่อมานายวิญญัติ ชาติมนตรี ทนายความของนายทักษิณ กล่าวว่า ในการตรวจพยานหลักฐานวันนี้ ศาลได้สอบคำให้การของนายทักษิณจำเลยอีกครั้ง โดยนายทักษิณให้การปฏิเสธพร้อมกับนำพยานฝ่ายจำเลยจำนวน 14 ปาก และพยานเอกสารอื่นๆซึ่งจะแสดงต่อศาลในชั้นพิจารณาคดีต่อไป โดยใช้เวลาสืบพยาน 4 นัด
ส่วนฝ่ายอัยการโจทก์มีพยานทั้งสิ้น 10 ปาก ใช้เวลาสืบ 3 นัด เชื่อว่ามีการสอบสวนไปแล้ว และฝ่ายโจทก์ไม่ได้อ้างพยานเพิ่มเติม เนื่องจากอาจจะเห็นว่าเป็นพยานที่ไม่มีประโยชน์หรืออาจเป็นพยานที่ไม่สามารถพิสูจน์ความผิดของฝั่งจำเลยได้
นอกจากนี้ ยังมีพยานผู้เชี่ยวชาญเพื่อตรวจสอบข้อมูลทางอิเล็กทรอนิกส์ตามคลิปที่ปรากฏในระบบคอมพิวเตอร์ ทั้งนี้คลิปที่มีการส่งตรวจตั้งแต่แรก เป็นการรวบรวมจากระบบอินเทอร์เน็ตลงในแผ่นซีดี ไม่ใช่หลักฐานจากสถานที่จริง เจ้าหน้าที่ที่ตรวจสอบคลิปที่เป็นประเด็น ยืนยันว่าคลิปดังกล่าวไม่สามารถตรวจพิสูจน์ได้ถึงความเป็นต้นฉบับ การตัดต่อและการแปลความเป็นภาษาไทยก็ไม่สมบูรณ์ ในเรื่องนี้มีภาษาอังกฤษเพียงคำเดียวที่เป็นปัญหาและนำไปสู่การกล่าวหานายทักษิณ ซึ่งสอดคล้องกับที่ตนได้เคยแถลงก่อนหน้านี้ว่าหลักฐานของฝ่ายโจทก์เป็นเพียงการรวบรวมคลิปเท่านั้น
สำหรับเรื่องคลิปภาพการให้สัมภาษณ์ที่ไม่ได้มาจากต้นฉบับจะนำมาเป็นข้อต่อสู้ของจำเลยได้อย่างไรนั้นยังไม่สามารถลงรายละเอียดในเวลานี้ได้ หลังจากนี้จะเป็นการพิสูจน์ความจริงต่อศาล ขึ้นอยู่กับศาลจะรับฟังพยานหลักฐานฝ่ายจำเลยและมีคำวินิจฉัยอย่างไร อย่างไรก็ตามมองว่าเรื่องนี้ นายทักษิณถูกกระทำจากระบบการกล่าวหา ซึ่งตนเองมองว่าระบบการกล่าวหาของประเทศไทยยังมีปัญหา หากมีโอกาสก็ควรมีการแก้ไข
ส่วนการสืบพยาน โดยฝ่ายโจทก์มีพยาน 10 ปาก ศาลนัดสืบวันที่ 1, 2,และ 3 กรกฎาคม 2568 นัดสืบพยานฝ่ายจำเลย 14 วันที่ 15, 16, 22 และ 23 กรกฎาคม 2568 หลังจากนั้นศาลจะจัดทำคำพิพากษาของศาลต่อไป
ในส่วนที่มีการนัดสืบพยานในปีหน้านั้นเนื่องจากศาลอาญาเป็นศาลใหญ่ มีคดีจำนวนมาก ต้องนัดสืบพยานไปตามลำดับของคดี ส่วนจะเกี่ยวข้องกับกฎหมายนิรโทษกรรมหรือไม่นั้น ตนเองไม่มีความเห็น
เมื่อถามถึงกรณีที่ฝ่ายจำเลยจะขอยื่นสืบพยานลับหลังจำเลยหรือไม่ นายวิญญัติ กล่าวว่า ได้รับการยืนยันจากนายทักษิณว่าพร้อมที่จะมาสืบพยานทุกนัด เพื่อพิสูจน์ความบริสุทธิ์ด้วยตัวเองและพิสูจน์ว่าที่ผ่านมาไม่มีเจตนาที่จะก้าวล่วงสถาบันพระมหากษัตริย์ และพร้อมที่จะได้แสดงความจงรักภักดีเพื่อให้เห็นเป็นที่ประจักษ์ ซึ่งประชาชนคนไทยก็เห็นได้อยู่แล้ว แต่ทั้งนี้หากศาลอนุญาตให้สืบพยานลับหลังได้ นายทักษิณอาจจะไม่ต้องเดินทางมาด้วยตนเอง
ส่วนนายทักษิณจะมีกำหนดการเดินทางไปต่างประเทศอีกหรือไม่นั้น ขณะนี้ยังไม่ถึงเวลา และในการต่อสู้คดีนี้ นายทักษิณมีความมั่นใจ ไม่ได้กำชับอะไรเป็นพิเศษ
สำหรับกรณีที่คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ (กสม.) ยื่นเรื่องให้คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ตรวจสอบเจ้าหน้าที่รัฐของเรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานคร และเจ้าหน้าที่ของรพ.ตำรวจ ที่เอื้อประโยชน์ให้นายทักษิณรักษาตัวที่ชั้น 14 รพ.ตำรวจนั้น นายวิญญัติกล่าวว่า นายทักษิณ ไม่ได้กังวล ซึ่งตนเองขอยืนยันว่า นายทักษิณป่วยจริง และตนก็เป็นทนายเพียงคนเดียวที่ไปเยี่ยมนายทักษิณ
ผู้สื่อข่าวถามว่าหาก ป.ป.ช.เรียกนายทักษิณ ไปให้ปากคำ จะพร้อมเข้าให้ข้อมูลหรือไม่ นายวิญญัติ ระบุว่า อยู่ที่ว่านายทักษิณเกี่ยวข้องอะไร เพราะไม่ใช่เจ้าหน้าที่รัฐ แต่ก็ขึ้นอยู่กับ ปปช.จะพิจารณาว่าคดีมีมูลหรือไม่มีมูล และจะไต่สวนนายทักษิณหรือไม่ แต่หากมีการไต่สวนนายทักษิณก็ยินดี เพราะนายทักษิณกลับเข้ามาในประเทศ ก็พร้อมที่จะปฏิบัติตามกติกาของสังคม โดยเฉพาะกฎหมาย ไม่เช่นนั้นนายทักษิณคงไม่เข้าสู่กระบวนการ
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี