จากเหตุการณ์หนุ่มแต่งกายคล้ายทหารอ้างตัวเป็นรปภ.ศาลแขวงนนทบุรี ขับรถ จักรยานยนต์เฉี่ยวชนกับรถเก๋ง ของนายทรรศนพัศ อายุ 72 ปี อดีตช่างกรมอู่ทหารเรือ หลังเกิดเหตุได้มีการโต้เถียงกันก่อนที่หนุ่มรปภ.จะเดินเข้ามาทำร้ายด้วยการผลักลุง 72 ปี จนล้มแขนหัก พลเมืองดีขี่รถ จยย.ผ่านมาประสบเหตุเข้าช่วยเหลือ ทำให้หนุ่มรปภ.ไม่พอใจ หยิบมีดพกออกมาจี้คอพลเมืองดีและจะทำร้าย จนเกิดการชกต่อยกัน ก่อนจะมีคนที่เห็นเหตุการณ์เข้ามาช่วยห้าม เหตุเกิดในซอยหลังปั้มน้ำมันแห่งหนึ่ง ถนนติวานนท์ ต.บางกระสอ อ.เมืองนนทบุรี เวลา 18.00 น. วันที่ 18 ส.ค.ที่ผ่านมา เหตุการณ์นี้มีคลิปกล้องหน้ารถและคลิปมือถือของภรรยาพลเมืองดีถ่ายเอาไว้ได้ ทีมข่าวเดินทางไปสอบถามเรื่องราวที่เกิดขึ้นกับ นายทรรศนพัศ หลังออกจาก รพ.มาพักรักษาตัวที่บ้าน
นายทรรศนพัศ กล่าวว่า สาเหตุที่ตนถูกทำร้ายจนแขนหัก มาจากรถจักรยานยนต์ของคู่กรณีที่ขี่มาด้วยความเร็วแล้วมาเฉี่ยวชนกับรถยนต์ของตนที่ขับออกจากปั้มน้ำมันเพื่อกลับบ้าน จนล้มลง ตนจึงเปิดประตูรถลงไปถามคู่กรณีว่า “เป็นอะไรไหม” แต่กลับถูกคู่กรณีลุกขึ้นมา เข้ามาต่อว่าตนว่าขับรถไม่ดูทางพร้อมกับชักมีดพกออกมา เหมือนจะเข้ามาทำร้าย ก่อนจะผลักตนล้มลงไป ทางคู่กรณีก็พยายามจะเข้ามาใช้มีดแทงอีก ทางรปภ.ของหมู่บ้านได้เข้ามาห้าม จนกระทั่งมีพลเมืองดีที่เห็นเหตุการณ์ ได้ตะโกนถามว่าทำอะไรลุง คู่กรณีจึงหันไปชักมีดจี้ใส่พลเมืองดี ระหว่างที่ทั่งคู่ยืนโต้เถียงกันนั้น ตนได้หนีขึ้นรถแล้วล็อคประตู เพื่อรอเจ้าหน้าที่ตำรวจมาช่วยเหลือ ตอนนั้นรู้สึกเจ็บที่แขนเหมือนกระดูกหัก
นายทรรศนพัศ กล่าวอีกว่า หลังเดินทางไป รพ.หมอตรวจแล้วพบว่ากระดูกแขนซ้ายหัก หมอได้ใส่เฝือกอ่อนเอาไว้ให้และนัดให้ไปฟังผลในวันที่ 23 ส.ค.เพื่อตรวจอย่างละเอียดอีกครั้ง ยืนยันว่าไม่เคยรู้จักคู่กรณี ตนอาศัยอยู่ในหมู่บ้านนี้มาเกือบ 40 ปีไม่เคยมีเรื่องกับใคร เคยแค่เรื่องรถเฉี่ยวชนก็สามารถพูดคุยกันได้ หรือเรียกประกันภัยมาดู แต่คู่กรณีรายนี้ทั้งเมาทั้งกร่างและยังอ้างตัวเป็น รปภ.ของศาลแขวงนนทบุรี ซึ่งพฤติกรรมแบบนี้ตนคิดว่าไม่เหมาะสมที่จะทำงานกับศาล แม้จะเป็นตำแหน่ง รปภ.ก็ตาม
ทีมข่าวได้พูดคุยกับนายประวิทย์ อายุ 45 ปี พลเมืองดีที่เข้าไปช่วยจนได้รับบาดเจ็บ กล่าวว่า ขณะเกิดเหตุตนขับรถออกจากปั๊ม เห็นลุงลงไปนอนอยู่กับพื้นข้างทาง เห็นผู้ก่อเหตุเดินตรงไปจะทำร้ายลุงอีก ตนจึงตะโกนบอกว่าให้คุยกันดีๆ เพราะผู้ก่อเหตุกำลังเดินถือมีดเข้าหาลุงอีก พอลุงลุกขึ้นได้ก็พยายามเดินหนีไปอีกทาง แต่ผู้ก่อเหตุยังตามไปผลักลุงจนล้มลงเป็นรอบที่สอง ตนจึงโวยวายให้ผู้ก่อเหตุหยุด พฤติกรรม แต่ถูกตะโกนสวนกลับมาว่า มึงเสือกอะไรด้วย จากนั้นผู้ก่อเหตุได้เดินถือมีดเดินตรงเข้ามาหาตนและใช้มีดจี้ที่คอ ตนจึงป้องกันตัวด้วยการต่อยใส่ผู้ก่อเหตุไป จากนั้นก็ชกต่อยกันตามคลิปที่เห็น ตนได้รับบาดเจ็บที่ตาข้างซ้ายเนื่องจากผู้ก่อเหตุพยายามเอานิ้วจิ้มที่ลูกตาของตน หลังจากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจก็มาที่เกิดเหตุแล้วนำตัวไปที่ สภ.รัตนาธิเบศร์
ตนอาศัยอยู่ตรงนี้สองปีไม่เคยรู้จักเขามาก่อน ที่ตนเข้ามาช่วยเหลือลุงเมื่อวานนี้เพราะเห็นว่าลุงอายุมากแล้ว แต่ถูกผู้ก่อเหตุทำร้ายจนไม่มีแรงจะวิ่งหนีและไม่มีทางสู้ ตนจึงเข้าช่วย แต่ผู้ก่อเหตุกลับอ้างตัวว่าเป็นรปภ. ของศาลแขวงจังหวัดนนทบุรี และเขาอ้างว่ากำลังจะไปเข้าเวรแต่มีการดื่มเหล้าจนเมาก่อนไปเข้าเวร ตนมองว่าเรื่องแบบนี้ไม่เหมาะสมเพราะแม้จะเป็น รปภ.ทำงานอยู่ที่ศาล ก็ตาม หลังเกิดเหตุผู้ก่อเหตุเอามีดไปซ่อนที่ร้านล้างรถ ซึ่งแฟนตนเห็นเหตุการณ์อยู่ จึงเรียกให้พนักงานร้านล้างรถนำเอามีดพกของกลางที่ใช้ก่อเหตุมาส่งคืนให้เจ้าหน้าที่ตำรวจเพื่อใช้เป็นหลักฐานในการดำเนินคดี
ทีมข่าวสอบถามไปทางพนักงานสอบสวนสภ.รัตนาธิเบศร์ ให้ข้อมูลว่า ผู้ก่อเหตุคือนายณัฐพงษ์ อายุ 49 ปี เป็นเจ้าหน้าที่ รปภ.ประจำศาลแขวงจังหวัดนนทบุรี หลังเกิดเหตุได้นำตัวมาตรวจวัดปริมาณแอลกอฮอล์ได้ 147 มิลลิกรัมเปอร์เซ็นต์เกินที่กฎหมายกำหนด เบื้องต้นได้แจ้งข้อหา ขับรถประมาทและขับรถขณะเมาสุรา ทำร้ายร่างกายผู้อื่นเป็นเหตุให้ได้รับบาดเจ็บสาหัส และพกพาอาวุธมีด ก่อนดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี