สทนช. ลงพื้นที่ติดตามสถานการณ์น้ำ เพื่อบูรณาการบริหารจัดการน้ำ พื้นที่ภาคเหนือ ลุ่มน้ำยม-น่าน ก่อนผันน้ำบางส่วนเข้าทุ่งบางระกำโมเดล ในพื้นที่จังหวัดพิษณุโลก เน้นเร่งการสื่อสารสร้างการรับรู้ให้พี่น้องเกษตรกร  ในส่วนพื้นที่รับน้ำเร่งเก็บเกี่ยว และเตรียมขยายสิ่งกีดขวางทางน้ำในเส้นทางเดินรถไฟ

เมื่อวันที่ 23 สิงหาคม 2567 ดร.สุรสีห์ กิตติมณฑล เลขาธิการสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (สทนช.) และคณะ ลงพื้นที่ติดตามสถานการณ์น้ำและบูรณาการบริหารจัดการน้ำ พื้นที่ภาคเหนือในพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบ ในเส้นลุ่มน้ำยมและลุ่มน้ำน่าน โดยมี นายบุญเหลือ บารมี รองผู้ว่าราชการจังหวัดพิษณุโลก กล่าวต้อนรับและนำเสนอมาตรการรับมือสถานการณ์น้ำ ซึ่งมี นางพิศมัย เลิศอิทธิบาท ประชาสัมพันธ์จังหวัดพิษณุโลก/ผู้แทนกรมประชาสัมพันธ์ ผู้แทนกรมชลประทาน ผู้แทนกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย กรมอุตุนิยมวิทยา หน่วยงานท้องถิ่น และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ร่วมประชุม  ณ ห้องประชุมสำนักงานชลประทานที่ 3 อำเภอเมือง จังหวัดพิษณุโลก พร้อมด้วย ผู้แทนจากหน่วยงานในพื้นที่จังหวัดน่าน จังหวัดพะเยา จังหวัดแพร่ และจังหวัดลำปาง เข้าร่วมประชุมผ่านระบบออนไลน์ จากนั้น เลขา สทนช. และคณะ ได้ลงพื้นที่ตรวจติดตามความพร้อมรับสถานการณ์น้ำพื้นที่เสี่ยงจุดต่างๆ บริเวณลุ่มน้ำยม-น่านตอนล่าง และ ประตูระบายน้ำบางแก้ว บริเวณ บางระกำโมเดล โครงการแก้ไขปัญหาอุทกภัยระยะเร่งด่วนในพื้นที่เจ้าพระยาใหญ่ และช่วงบ่ายจะเดินทางไปติดตามสถานการณ์ที่จังหวัดแพร่

ทั้งนี้ สทนช. และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้มีการติดตามสภาพภูมิอากาศอย่างใกล้ชิด และวิเคราะห์คาดการณ์ฝน One Map พบว่า ในช่วงปลายเดือนสิงหาคมถึงเดือนกันยายนนี้ ในพื้นที่ภาคเหนือตอนล่างจะมีปริมาณฝนเพิ่มมากขึ้น ส่งผลให้มีปริมาณน้ำเพิ่มขึ้นในพื้นที่ลุ่มน้ำยม ซึ่งไม่มีโครงการแหล่งน้ำขนาดใหญ่ที่จะช่วยกักเก็บน้ำไว้ได้ ส่งผลให้พื้นที่จังหวัดพิษณุโลกมีความเสี่ยงที่จะต้องรับสถานการณ์น้ำหลาก

ดร.สุรสีห์ กิตติมณฑล เปิดเผยว่า วันนี้ สำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ หรือ สทนช. ได้รับมอบหมายจาก นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี ปฏิบัติหน้าที่นายกรัฐมนตรี ให้มาประชุมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในพื้นที่ภาคเหนือตอนบน โดยเฉพาะจังหวัดที่ประสบปัญหาอุทกภัย ในส่วนของจังหวัดน่าน บทสรุปขณะนี้ ยังมีน้ำท่วมได้รับกระทบในเรื่องของระบบประปา สิ่งที่สำคัญจะต้อง ดูแลน้ำดื่มให้กับพี่น้องประชาชนในพื้นที่เหล่านั้น ซึ่งได้มอบหมายให้กรมทรัพยากรน้ำและกรมน้ำบาดาล ไปให้บริการในเรื่องของน้ำดื่ม หลังจากนั้น ถ้าเข้าสู่ภาวะปกติน้ำที่ยังขังอยู่ในพื้นที่ ต่างๆ จะระดมหน่วยงานที่เกี่ยวข้องลงพื้นที่สูบน้ำออก ในขณะเดียวกันที่เชียงรายและพะเยาก็เช่นเดียวกัน ต่อจากนี้ จะดูที่จังหวัดแพร่ โดยเฉพาะในเรื่องของน้ำดื่ม ซึ่งน้ำในจังหวัดแพร่น่าจะเข้าสู่ภาวะปกติใน 1-2 วันนี้ ในพื้นที่ยังท่วมขังอยู่ก็ยังใช้หลักการเดียวกันโดยใช้เครื่องสูบน้ำสูบออก

สิ่งที่สำคัญที่สุดที่ประชุมวันนี้ จะเป็นการบริหารจัดการน้ำระหว่างลุ่มน้ำยมกับลุ่มน้ำน่าน เพราะปริมาณน้ำที่จังหวัดแพร่ กำลังทยอยมาที่จังหวัดสุโขทัย หลักการคือต้องการป้องกันพื้นที่เศรษฐกิจ โดยเฉพาะตัวเมืองสุโขทัย จะมีการผันน้ำไปทางลุ่มน้ำน่าน โดยคลองยม-น่าน ปัญหาอุปสรรคของคลองยม-น่าน บริเวณทางรถไฟ เป็นส่วนที่กีดขวางทางน้ำระดับหนึ่ง โดยมีข้อสรุปจะขยายบริเวณทางรถไฟจุดนั้น ให้มีการระบายน้ำได้มากขึ้น  เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพเรื่องของการบริหารจัดการน้ำในส่วนนี้ โดยทาง สทนช. จะรีบประสานกระทรวงคมนาคมในส่วนของการรถไฟในพื้นที่เหล่านั้น เพื่อจะขอในเรื่องของการขุดเจาะขยายทางน้ำ เพื่อจะเร่งระบายน้ำออกไป และให้ทางการรถไฟมีมาตรการที่จะรองรับ ช่วงนี้อาจจะต้องหยุดในเรื่องของการบริการรถไฟสายนั้น ในขณะเดียวกันก็มีการพูดคุยวางแผนเพื่อผันน้ำเข้าทุ่งบางระกำ ในช่วงนี้จะเป็นการผันน้ำเข้าส่วนหนึ่งเท่านั้น เพื่อให้มีพื้นที่เหลือไว้รองรับในเดือนกันยายนที่จะถึงนี้  ซึ่งคาดว่าจะมีปริมาณน้ำเข้ามาอีก เราจะได้มีพื้นที่รองรับการบริหารจัดการน้ำ เพื่อดูแลพี่น้องประชาชนได้อย่างเต็มที่.