สทนช.ลุยนครพนม ติดตามเฝ้าระวัง‘น้ำโขง’สูง สั่งเร่งระบาย‘น้ำชี-มูล’ เตรียมรองรับมวลน้ำกรณีมีฝนตกซ้ำ มั่นใจเอาอยู่ คาดไม่เกิน 7 วันกลับสู่ภาวะปกติ
ที่ห้องประชุมโครงการชลประทานนครพนม วันที่ 24 สิงหาคม 2567 นายไพฑูรย์ เก่งการช่าง รองเลขาธิการสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (สทนช.) ในฐานะโฆษก สทนช. พร้อมคณะ และเจ้าหน้าที่เกี่ยวข้องกับการบริหารจัดการน้ำ ลงพื้นที่ประชุมติดตาม สถานการณ์น้ำโขง รวมถึงลำน้ำสาขาสายหลักในพื้นที่ภาคอีสาน รวมถึง จ.นครพนม เพื่อประเมินสถานการณ์ ร่วมกับนายวันชัย จันทร์พร ผู้ว่าราชการจังหวัดนครพนม , นายสันติพันธุ์ พันธุขันธ์ หัวหน้าโครงการชลประทานนครพนม และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อประสานความร่วมมือเตรียมพร้อมวางแนวทางป้องกันแก้ไขปัญหาน้ำท่วม และเร่งช่วยเหลือพี่น้องประชาชนที่ได้รับผลกระทบ หลังจากช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา หลังจากปริมาณน้ำโขงในพื้นที่ภาคเหนือ รวมถึงอีสาน และ จ.นครพนม ระดับน้ำจ่อจุดวิกฤตล้นตลิ่ง ทำให้ลำน้ำสาขาสายหลักเอ่อประชุมท่วมพื้นที่ลุ่ม เริ่มส่งผลกระทบต่อพี่น้องประชาชน
ภายหลังการประชุม นายไพฑูรย์ นำคณะลงพื้นที่ตรวจสอบติดตามระดับน้ำโขง ในเขตเทศบาลเมืองนครพนม พบว่า มีปริมาณสูงประมาณเกือบ 10 เมตร ห่างจากจุดวิกฤตล้นตลิ่ง 2 เมตร คือ ระดับที่ 12 เมตร ทำให้ลำน้ำสาขาสายหลัก ลำห้วยไหลระบายลงแม่น้ำโขงช้า บางจุดต้องมีการติดตั้งเครื่องสูบน้ำเพื่อเร่งช่วยระบาย หากมีฝนตกซ้ำลงมาก็ยังสามารถรองรับได้อีกจำนวนมาก
นอกจากนี้ยังได้เดินทางไปยัง ประตูระบายน้ำปากอูน ในเขตพื้นที่บ้านปากอูน อ.ศรีสงคราม จ.นครพนม ถือเป็นพื้นที่ลุ่มน้ำท่วมซ้ำซากทุกปี เนื่องจากเป็นจุดรวมน้ำที่ลำน้ำอูน ไหลมาบรรจบแม่น้ำสงคราม ก่อนไหลระบายลงน้ำโขง แต่ในช่วงนี้น้ำโขงหนุนสูง และมีปริมาณน้ำเท่ากัน ทำให้ลำน้ำสงคราม มีสภาพนิ่งไม่สามารถไหลลงแม่น้ำโขงได้ จึงเอ่อท่วมพื้นที่ข้าวนาปี และจากการสำรวจของสำนักงานเกษตรและสหกรณ์ฯ มีนาข้าวไม่ต่ำกว่า 14,000 ไร่ที่ได้รับผลกระทบ ส่วนความเสียหายอยู่ราว 11,000 ไร่ ขณะนี้กำลังเร่งสำรวจเพื่อให้การช่วยเหลือตามระเบียบทางราชการ
นายไพฑูรย์ เปิดเผยว่า สำหรับปัจจัยน้ำท่วมในพื้นที่ภาคเหนือ ณ ขณะนี้ เกิดจากมีปริมาณน้ำฝนสูงต่อเนื่อง ทำให้ลำน้ำสาขาไหลระบายลงน้ำสายหลักไม่ได้จึงส่งผลกระทบหนัก โดยได้รับมอบหมายจากทางรัฐบาล เร่งบริหารจัดการน้ำเข้าสู่ลำน้ำสายหลัก และเขื่อนเก็บกักน้ำ เพื่อให้ปริมาณน้ำท่วมขังลดโดยเร็วที่สุด มั่นใจว่าอีกไม่กี่วันระดับน้ำจะเข้าสู่ภาวะปกติในพื้นที่ภาคเหนือ ส่วนพื้นที่ภาคกลางรวมถึงกรุงเทพมหานคร ยืนยันว่ามวลน้ำจากภาคเหนือไม่กระทบ จนทำให้เกิดน้ำท่วม ขอให้พี่น้องประชาชนแถบลุ่มน้ำเจ้าพระยาสบายใจได้
นอกจากนี้ในส่วนของภาคอีสาน รวมถึง จ.นครพนม ช่วงนี้ระดับน้ำโขงสูงต่อเนื่อง หลังมีมวลน้ำไหลมาจากภาคเหนือ ทาง สนทช. ได้ประสานทุกหน่วยงานเตรียมพร้อมรับมือ เฝ้าระวังติดตามสถานการณ์ต่อเนื่อง ชนิดชั่วโมงต่อชั่วโมง ส่วนแนวทางการรับมือ จะมีการบริหารจัดการน้ำแบบกลุ่ม ในพื้นที่อีสานเป็นการบริหาร โขง ชี มูล คือ มีการประสานชลประทาน ในพื้นที่อีสานตอนล่าง จ.อุบลราชธานี ระบายลำชี ลำมูล เพื่อรองรับน้ำโขงให้มากที่สุด
อย่างไรก็ตามแจ้งประชาชน ติดตามเฝ้าระวัง แต่ไม่ควรตระหนก เพราะจากการตรวจสอบข้อมูล ด้านพยากรณ์อากาศ รวมถึงปัจจัยความเสี่ยง เชื่อมั่นว่า สามารถบริหารจัดการน้ำได้แน่นอน คาดการณ์ระดับน้ำโขง จะเพิ่มขึ้นในช่วงอีก 7 วัน ไม่เกิน 50 เซนติเมตร จากนั้นก็จะทรงตัว และลดระดับต่อเนื่อง เพราะใกล้จะหมดฤดูฝน ที่สำคัญปีนี้น้ำโขงสูงเกิดจากปัจจัย มวลน้ำที่มาจากฝนตกหนักในพื้นที่ ภาคเหนือ และประเทศลาวเป็นหลัก นอกจากนี้ทาง สนทช. ได้ประสานคณะกรรมาธิการแม่น้ำโขง หารือกับทางรัฐบาลจีน ให้ชะลอการปล่อยน้ำจากเขื่อน เพื่อลดผลกระทบอีกด้วย มั่นใจอีกไม่กี่วันสถานการณ์น้ำท่วมในพื้นที่ภาคเหนือจะเข้าสู่ภาวะปกติ ///-005
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี