สำนักงานปรมาณูเพื่อสันติ (ปส.) จัดสัมมนาระดับชาติ ระดมความคิดจากหลากหลายหน่วยงาน กว่า 30 หน่วยงาน เพื่อเปิดโอกาสให้ทุกภาคส่วนได้มีส่วนร่วมในการกำหนดทิศทางการดำเนินงาน รวมทั้งหาแนวทางติดตามและประเมินผลแผนปฏิบัติการด้านการพัฒนาพลังงานนิวเคลียร์ของประเทศ ระยะที่ 2 (พ.ศ. 2566 – 2570) ให้เกิดผลเป็นรูปธรรม นำไปสู่การปฏิบัติได้อย่างมีประสิทธิภาพและเป็นไปในทิศทางเดียวกัน พร้อมบรรลุตามวิสัยทัศน์ “ประเทศไทยมีการพัฒนาพลังงานนิวเคลียร์แบบบูรณาการอย่างปลอดภัยและมีศักยภาพการแข่งขันในระดับนำของกลุ่มประเทศอาเซียน” ซึ่งเป็นส่วนสำคัญในการผลักดันให้เศรษฐกิจของไทยเติบโตอย่างมั่นคงและยั่งยืนในระยะยาว โดยมี นายเพิ่มสุข สัจจาภิวัฒน์ ปลัดกระทรวง อว. เป็นประธาน ณ ห้องแกรนด์บอลรูม 1 โรงแรมรามาการ์เด้นส์ กรุงเทพฯ พร้อมบรรยายพิเศษในหัวข้อ “ทิศทางการพัฒนาด้านพลังงานนิวเคลียร์ของประเทศไทยสู่เป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน (SDGs)”
รศ.ดร.พาสิทธิ์ หล่อธีรพงศ์ เลขาธิการ ปส.เปิดเผยว่า การพัฒนาแผนพลังงานนิวเคลียร์ของประเทศเป็นส่วนสำคัญในการเสริมสร้างศักยภาพการแข่งขันของประเทศไทยในเวทีโลก โดยเฉพาะในกลุ่มประเทศอาเซียน ซึ่งแผนปฏิบัติการฯ ระยะที่ 2 นี้จะมีบทบาทสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจและสังคมของประเทศอย่างยั่งยืน ไม่เพียงแต่การพัฒนาเทคโนโลยีและนวัตกรรมด้านพลังงานนิวเคลียร์เท่านั้น แต่ยังครอบคลุมถึงการสร้างงาน การพัฒนาทักษะ ตลอดจนเสริมความรู้ให้กับบุคลากร
“การสัมมนาครั้งนี้จะเป็นเวทีสำคัญในการเสริมสร้างความร่วมมือระหว่างหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งทางตรงและทางอ้อม เพื่อให้ทุกภาคส่วนมีส่วนร่วมในการขับเคลื่อนและติดตามผลการปฏิบัติงาน และร่วมมือกันในการนำแผนปฏิบัติการฯ ระยะที่ 2 ไปสู่การปฏิบัติอย่างมีประสิทธิภาพ และผลักดันให้ประเทศไทยก้าวขึ้นเป็นผู้นำด้านพลังงานนิวเคลียร์ในกลุ่มประเทศอาเซียน นับเป็นการวางรากฐานที่มั่นคงให้กับเศรษฐกิจและสังคมของประเทศในการเผชิญกับความท้าทายในอนาคต” เลขาธิการ ปส. กล่าว
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี