เกือบ 2 เดือนเต็ม ที่กองทุนส่งเสริมการพัฒนาตลาดทุน (CMDF) ร่วมกับ สำนักงานบริหารและพัฒนาองค์ความรู้ (องค์การมหาชน) หรือ OKMD ดำเนินโครงการคาราวานความรู้ตลาดทุนรุกสู่ภูมิภาคและบ่มเพาะต้นแบบคนรุ่นใหม่ เข้าสู่ตลาดทุน หรือ Fin Lab ในพื้นที่ 8 จังหวัด 4 ภูมิภาคทั่วประเทศ เริ่ม kick off ที่แรก จ.ฉะเชิงเทรา เมื่อวันที่ 2 กรกฎาคม ต่อด้วย ลำปาง แม่ฮ่องสอน จันทบุรี ยะลา ภูเก็ต ขอนแก่น และ นครราชสีมา ที่เพิ่งปิดโครงการไปเมื่อวันที่ 21 สิงหาคม 2567 ที่ผ่านมา มีเยาวชนสนใจเข้าร่วมกิจกรรมทะลุหมื่นคน
“โครงการคาราวานความรู้สู่ตลาดทุนรุกสู่ภูมิภาค” เป็นโครงการที่มีเป้าหมาย มุ่งสร้างคนรุ่นใหม่ให้เป็นทรัพยากรมนุษย์ที่มีสมรรถนะและทักษะด้านการเงินการลงทุน โดยเน้นกลุ่มวัย 13-18 ปี เพื่อสร้างแรงบันดาลใจเพิ่มองค์ความรู้ด้านทักษะทางการเงิน การออม การลงทุนที่ถูกต้องเหมาะสม โดยเน้นการกระจายแหล่งเรียนรู้ด้านการลงทุนไปสู่ภูมิภาค
ดร.ทวารัฐ สูตะบุตร ผู้อำนวยการ OKMD ซึ่งเป็นผู้ที่จุดประกายให้เกิดกิจกรรมดีๆ ในครั้งนี้ กล่าวว่า กิจกรรมตลาดนัดความรู้ ช่วยเสริมสร้างและพัฒนาศักยภาพด้านการเงินการลงทุนผ่านตลาดทุนให้กับเด็กและเยาวชน “Fin Lab New Gen” เป็นโครงการที่ให้ความรู้กระจายสู่ภูมิภาค โดยเน้นเรื่องการวางแผนทางการเงิน เราพยายามที่จะสร้างแรงบันดาลใจ และส่งต่อความรู้ให้กับเยาวชนในภูมิภาคต่างๆ เพื่อให้เยาวชนได้เข้าถึงการเรียนรู้ทางด้านการออมและการลงทุน ผ่านกิจกรรมที่เน้นการเรียนรู้แบบ Active Learning จากองค์ความรู้พื้นฐานด้านทักษะทางการเงิน การออม การลงทุน ต่อยอดสู่ทักษะการเงินการลงทุนในอนาคต
“การวางแผนทางการเงินเป็นเรื่องสำคัญ เยาวชนต้องมีความรู้ความเข้าใจและสร้างแรงบันดาลใจด้วยตนเอง เพื่อให้เขามีรายได้พอที่จะดูแลครอบครัวเหลือจากนั้นก็ออม และเลือกลงทุนได้ และยังมีความรู้เท่าทันอาชญากรรมทางไซเบอร์ ที่มาเอาเงินเราผ่านระบบคอมพิวเตอร์ ซึ่งเป็นที่น่ายินดีว่าการจัดงานตลอดทั้งโครงการ มีเยาวชนเข้าร่วมกิจกรรมถึง 10,091 คน เกินกว่าที่เราตั้งเป้าไว้ครั้งแรกคือ 3,500 คน ถือเป็นการจุดประกายการเรียนด้านการออมและการลงทุนของเยาวชนได้อย่างดีเยี่ยม” ดร.ทวารัฐ กล่าว
ด้าน จักรชัย บุญยะวัตร ผู้จัดการกองทุนส่งเสริมการพัฒนาตลาดทุน กล่าวว่า โครงการนี้ได้ให้ความสำคัญกับการพัฒนาระบบนิเวศของตลาดทุนไทย ให้มีประสิทธิภาพ และเอื้อต่อการพัฒนา แข่งขัน และเติบโตของตลาดทุนไทยได้อย่างยั่งยืนผ่านการ เสริมสร้างความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับตลาดทุน การลงทุน และการพัฒนาตลาดทุนให้แก่เด็กและเยาวชนไทยทั่วประเทศ เนื่องจากขณะนี้สังคมไทยกำลังเผชิญกับความท้าทาย และการเปลี่ยนแปลง ทั้งภาคเศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อม และโดยเฉพาะภาคการเงิน อาทิ หนี้สินภาคครัวเรือนสูงเทียบเท่าประเทศกำลังพัฒนา ซึ่งอาจส่งผลให้เด็กและเยาวชนไทยที่จะเป็นแรงขับเคลื่อนสำคัญในอนาคต มีแนวโน้มที่จะขาดความรู้พื้นฐานทางการเงิน การบริหารเงินในโลกยุคใหม่ การใช้จ่ายและการลงทุนที่ขาดความรู้ความเข้าใจที่ดีพอ การสร้างภาระหนี้สินโดยไม่จำเป็น อีกทั้งขาดการวางแผนการออมระยะยาวที่ไม่ก่อให้เกิดการลงทุนต่อยอดจากทรัพย์สินดังนั้น การพัฒนาทักษะทางการเงินและการวางแผนการเงินจึงเป็นแนวทางสำคัญเพื่อบ่มเพาะเยาวชนคนรุ่นใหม่ให้มีความรู้ความเข้าใจมากขึ้น
สอดคล้องกับ เดือนเพ็ญ จันทร์ศิริศรี ผู้อำนวยการฝ่ายพัฒนาความรู้การเงินขั้นพื้นฐานตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ที่มองว่า โครงการดังกล่าวเป็นเวทีสำคัญที่จะช่วยให้เยาวชนมีความรู้ความเข้าใจและมีทัศนคติที่ดีต่อการลงทุน เราเชื่อมั่นว่า เยาวชนที่มีความเข้าใจเรื่องการเงินการลงทุนอย่างถูกต้อง จะใช้เงินเป็น หาเงินเลี้ยงตนเองและครอบครัวได้ พร้อมให้หลักคิดในการเสริมทักษะทางการเงินและการลงทุนให้เท่าทันใน 4 รู้คือ “รู้หา รู้เก็บ รู้ใช้ และรู้ขยายดอกผล” จะกลายเป็นนักออม และนักลงทุนที่มีคุณภาพในอนาคต
ขณะที่ เศรษฐพล ธรรมจินดา ผู้อำนวยการฝ่ายพัฒนาความรู้ผู้ลงทุน ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET) กล่าวว่า ตลาดหลักทรัพย์เล็งเห็นถึงความสำคัญของการส่งเสริมความรู้ด้านการเงินการลงทุนให้กับคนทุกช่วงวัยตลอดมา และโดยเฉพาะวัยเด็ก ถือเป็นการปูพื้นฐานที่สำคัญ ในการเตรียมความพร้อมในการเข้าสู่ตลาดทุนในอนาคต ซึ่งทางตลาดหลักทรัพย์ฯ เองเชื่อมันว่า การที่เด็กๆ สามารถเข้าถึงองค์ความรู้ด้านการเงินการลงทุนและมีความรู้ความเข้าใจที่ถูกต้องจะช่วยให้เขาสามารถต่อยอดความรู้กับการเรียนอาชีพและการสร้างรายได้ในอนาคตได้อย่างมีประสิทธิภาพ รวมทั้งเกิดการวางแผนการเงินและการลงทุนที่เหมาะสมกับช่วงวัย อันนำไปสู่การลดปัญหาทางการเงินส่วนบุคคลซึ่งส่งผลต่อสเถียรภาพของระบบเศรษฐกิจในภาพรวมได้
สำหรับกิจกรรมหลักของกิจกรรม ได้แก่ การจัดนิทรรศการในรูปแบบเกม Fantasy Battle ที่พาไปเรียนรู้เรื่อง 3 พลังมหัศจรรย์ คือ 1.เงินต้น 2.อัตราผลตอบแทน และ 3.ระยะเวลา นอกจากนี้ยังมีการจัดกิจกรรม Interactive Workshop ในรูปแบบคาราวานตลาดทุน มีการจัดเวิร์กช็อปที่เน้นการอบรมเชิงปฏิบัติการจำลองโลกของตลาดทุนผ่าน Mobile Gaming เน้นการมีส่วนร่วมของผู้เรียน ผ่านเกม Invest King จำลองโลกการเงินและการลงทุนเสมือนจริงไว้บนมือถือ ครอบคลุมเนื้อหาใน 8 ประเด็น ได้แก่ 1.การวางแผนทางการเงินตามวัฏจักรชีวิต (Life Cycle) 2.การกำหนดเป้าหมายและวางแผนการเงิน 3.รายได้รายจ่าย และเงินออม 4.อัตราส่วนความอยู่รอดและอัตราส่วนความมั่งคั่ง 5. 3 พลังมหัศจรรย์ (เงินต้น อัตราผลตอบแทน ระยะเวลา) 6.การลงทุน อัตราผลตอบแทน และความเสี่ยง 7.การบริหารหนี้ และพฤติกรรมที่ก่อให้เกิดหนี้ และ 8.ภัยจากการลงทุนและวิธีรับมือ
ขณะเดียวกัน กิจกรรม Knowledge Network Partners ได้ยกคาราวานภาคีเครือข่ายออกบูทให้ความรู้ด้านการเงินการลงทุนผ่านกิจกรรมที่น่าสนใจ เริ่มจาก 1.ธนาคารออมสิน ได้เข้าร่วมจัดบรรยายให้ความรู้ด้านการออมและการวางแผนทางการเงิน พร้อมทั้ง ออกบูธให้บริการเปิดบัญชีเงินฝาก แนะนำผลิตภัณฑ์ทางการเงินของธนาคาร และประชาสัมพันธ์แอปพลิเคชั่น “โค้ชออม” ตอบโจทย์ทุกวัตถุประสงค์การออม ที่จะช่วยจำลองวางแผนการออมอย่างมีเป้าหมาย สามารถทำได้ด้วยตัวเอง ทั้งการประเมินความรู้และระดับความเสี่ยง เพื่อเลือกแผนการออมที่เหมาะสมกับตนเอง ตัวช่วยวางแผนการออมสู่เป้าหมาย แหล่งความรู้ด้านเทคนิคการออม และการลงทุน 2.กองทุนการออมแห่งชาติ (กอช.) สอนการเริ่มต้นวางแผนออมเงินให้ลูกหลานได้ตั้งแต่อายุ 15 ปีขึ้นไป เริ่มออมได้ตั้งแต่ 50 บาท ไม่จำเป็นต้องออมเท่ากันทุกเดือน และยังได้สิทธิประโยชน์จากรัฐเข้ามาจ่ายเงินสมทบ การันตีผลตอบแทนจากการลงทุน และยังสามารถลดหย่อนภาษีได้ เราสอนให้ลูกหลานเริ่มออมตั้งแต่ตอนเรียน ดีกว่าให้เขามานึกเสียดายตอนโตว่าทำไมไม่เริ่มให้เร็วกว่านี้ 3.ธนาคารกรุงไทย มีการจัดกิจกรรมเสวนากล่าวถึงเรื่องการใช้เงินและบริหารเงิน ผลตอบแทนจากการลงทุน เพื่อให้มีเงินออมไว้ใช้ในยามเกษียณ 4.สมาคมยุวชนเพื่อการพัฒนาที่ยั่งยืนเพื่อไทย (YSDA) เสริมทักษะ ปลูกฝังความรู้ และสร้างภูมิคุ้มกันทางการเงินที่ดีให้แก่เยาวชน ผ่านความสนุกผสานสาระด้านการวางแผนทางการเงินด้วยบอร์ดเกม “Wishlist” ที่ผู้เล่นแต่ละคนจะได้รับบทบาทเป็นเด็กวัยรุ่นที่ใช้ชีวิตในช่วงปิดเทอม พร้อมกับรายการความฝัน Wishlist ที่แตกต่างกันออกไป ผู้เล่นจะต้องพยายามบริหารเงินจากทางบ้าน รวมถึงหารายได้เพิ่ม เพื่อเก็บสะสมสินค้าตามรายการความฝัน Wishlist ให้ได้มากที่สุด โดยเมื่อช่วงปิดเทอมจบลงผู้เล่นที่บริหารเงินเก่งจนทำแต้มจากรายการความฝัน Wishlist มากที่สุดจะเป็นผู้ชนะในเกมนี้ 5.ธนาคารแห่งประเทศไทย เสริมทักษะทางการเงินด้วยบอร์ดเกม “รู้ก่อน ทำก่อนรวยกว่า” โดยสอดแทรกทักษะด้านการเงินหลายเรื่อง ทั้งเรื่องการวางแผนทางการเงิน การออมและการลงทุน สภาวะเศรษฐกิจที่ส่งผลกระทบต่อการลงทุน ความเสี่ยงในการลงทุน เป็นต้น 6.สำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (คปภ.) เน้นให้ความรู้เรื่องการประกันภัย โดยเฉพาะควบคุมความเสี่ยงที่อาจจะเกิดขึ้นกับชีวิต ทรัพย์สิน และการเงิน ของเราในอนาคต เช่น อุบัติเหตุ ค่ารักษาพยาบาล อัคคีภัย วินาศภัย หมวดการประกันความเสี่ยงทั้งหมด เพื่อการวางแผนรองรับ
ทั้งนี้ โครงการคาราวานฯ ได้มีเสียงสะท้อนจากเยาวชนหลังเข้ารับการอบรม เริ่มที่ กรวิชญ์ ระกาสีนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 โรงเรียนเบญจมราชรังสฤษฎ์จ.ฉะเชิงเทรา ได้แบ่งปันประสบการณ์ โดยยอมรับว่าก่อนหน้าที่จะเข้าร่วมกิจกรรม ก็รู้เรื่องการออมบ้างแต่เรื่องลงทุนไม่เคยรู้ และคิดว่าเป็นความเสี่ยง แต่เมื่อครอบครัวประสบปัญหาทางการเงิน เลยรู้จักเก็บออมเพราะคิดว่าเราจะสามารถมีเงินช่วยแบ่งเบาได้ และเมื่อครูบอกว่ามีกิจกรรมเรื่องการลงทุน จึงสนใจเข้าร่วม และได้เรียนรู้ผ่านเกม การวางแผนชีวิตว่า เมื่อเราอยู่ มัธยมต้น เราควรทำงยังไง มัธยมปลายทำยังไง มหาวิทยาลัยทำยังไง รวมไปถึงเมื่อเข้าสู่วัยทำงานเราต้องวางแผนชีวิตแบบไหน เรียน ทำงานเที่ยวจึงอยากให้มีกิจกรรมดีๆ แบบนี้ ทำให้เรามีมุมมองใหม่ว่า การออมการลงทุนเป็นเรื่องใกล้ตัวและมันไม่ยากอย่างที่คิด ที่สำคัญเราจะรู้เท่าทันเล่ห์เหลี่ยมกลโกงด้วย
ฮุษณา เจ๊ะอามะ นักศึกษาชั้นปีที่ 1 คณะวิทยาการจัดการ สาขาการค้าชายแดนและโลจิสติกส์ มหาวิทยาลัยราชภัฏยะลา จ.ยะลา เล่าถึงประสบการณ์ทางการเงินของตัวเอง โดยส่วนตัวไม่เคยออมเงินเอง ไม่เคยวางแผนหรือจัดตารางการใช้เงิน มีเท่าไหร่ใช้หมด แต่หลังจากที่ได้รับการอบรม ทำให้ได้เรียนรู้การวางแผนค่าใช้จ่าย ได้รู้ว่าเราจะออมเงินอย่างไรไม่ให้ติดลบ จะใช้จ่ายกับอะไรบ้างเพื่อต่อยอดและเพิ่มมูลค่าให้กับเงิน เพื่อทำแผนการออมไว้ในอนาคตหลังเรียนจบ ทำให้ชีวิตเรามีเป้าหมายมากขึ้น
ศุภวิชญ์ พลฤทธิ์ นักเรียนชั้น ม.5 โรงเรียนขอนแก่นวิทยายน จ.ขอนแก่น ก็ได้ให้มุมมองในด้านการเงินไว้อย่างน่าสนใจว่า เด็กทุกคนควรต้องมีความรู้ทางด้านการเงิน เพราะเราต้องใช้เงินกันตั้งแต่เกิด หากได้เรียนรู้เรื่องการออมเงิน ก็จะเติบโตเป็นผู้ใหญ่ที่ดี มีเงินมากมายในการ
ใช้ชีวิต ส่วนตัวโชคดีที่พ่อให้ความรู้ด้านธุรกิจตั้งแต่เด็ก จึงรับรู้ได้เร็ว จึงอยากแนะนำเพื่อนๆ ว่าเรื่องการออมและการลงทุนไม่ใช่เรื่องไกลตัว หากเราเรียนรู้ตั้งแต่เด็กๆ เราจะสามารถวางแผนทางการเงิน เพื่อการออมและการลงทุนอย่างถูกวิธี เราก็จะมีเงินใช้อย่างสบายในอนาคต
ขณะที่ รชต แสงลี นักเรียนชั้น ม.5 โรงเรียนขอนแก่นวิทยายน ยอมรับว่า ส่วนตัวแทบไม่เคยได้เรียนรู้เรื่องการออมและการลงทุน ด้วยวิถีชีวิตพอเรียนเสร็จก็ซ้อมดนตรี แต่เมื่อมาได้อบรม ทำให้กลับมาตั้งหลักคิดว่า เราควรนำเงินที่ได้รายเดือนจากพ่อแม่ และรายได้จากการรับจ้างเล่นดนตรี มาแบ่งใช้จ่าย เก็บออม และลงทุนอย่างไร และจะเรียนรู้เพิ่มเรื่องการคำนวณภาษี และการลงทุน เพื่อพัฒนาคุณภาพชีวิตให้ดีขึ้น
ทุกเสียงที่สะท้อนเป็นเพียงส่วนหนึ่งของเยาวชนที่เข้ารับการอบรมในโครงการ แต่เสียงที่สะท้อนไปในทางเดียวกันคือ อยากให้จัดกิจกรรมดีๆ อย่างนี้อีก เพราะโลกเปลี่ยนแปลงเร็ว เราต้องก้าวให้ทัน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี