วอดทั้งหลัง!! เพลิงไหม้โกดังเก็บสินค้าเบเกอรี่ดังวอดทั้งหลัง เจ้าของกุมขมับเผยตัวเลขเสียหายมูลค่ากว่า 10 ล้านบาท เจ้าหน้าที่สันนิฐานเกิดไฟฟ้าลัดวงจร เนื่องจากโกดังถูกปิด ไม่มีใครอยู่ภายใน
27 ส.ค.67 เมื่อเวลา 14.00 น. เจ้าหน้าที่ดับเพลิงจาก อบต.ดอนตะโก พร้อมด้วย เจ้าหน้าที่ดับเพลิงจากเทศบาลเมืองราชบุรี เจ้าหน้าที่บรรเทาสาธารณะภัยจังหวัดราชบุรี อาสาสมัครมูลนิธิปบมบรมราชานุสรณ์ พร้อมด้วยรถดับเพลิง จากเทศบาลเมืองราชบุรี อบต.ดอนตะโก อบต.เจดีย์หัก เทศบาลหลักเมือง รถดับเพลิงจากกองพันทหารช่างเครื่องมือพิเศษ กองพลพัฒนาที่ 1 กว่า 10 คัน พร้อมเจ้าหน้าที่กว่า 50 นาย ระดมฉีดน้ำเพื่อสกัดเพลิงที่กำลังลุกไหม้อาคารโกดังที่ใช้เก็บสินค้าอุปกรณ์ทำเบเกอรี่ น้ำมันพืช และ นำปลา ที่ตั้งอยู่ภายในชุมชนหมู่บ้านวังทอง 3 เลขที่ 83/69 ม.10 ต.ดอนตะโก อ.เมืองราชบุรี โดยเพลิงได้ลุกไหม้ภายในอาคารโกดังดังกล่าวอย่างหนัก ทำให้ตังอาคารเสียหายทั้งหลัง อีกทั้งบริเวณด้านข้างโกดังมีอาคารห้องแถวเช่า และ บ้านเรือนประชาชนหลายหลัง เจ้าหน้าที่จึงได้พยายามระดมฉีดน้ำเพื่อทำการสกัดเพลิง ซึ่งใช้เวลานานหว่า 3 ชม. จึงสามารถควบคุมเพลิงไว้ได้ในวงจำกัด
นายวสันต์ กลิ่นสุคนธ์ นายกอบต.ดอนตะโก ได้เดินทางเข้าตั้งหน่วยบัญชาการสถานะการณ์ นำอุปกรณ์เครื่องมือช่วยสนับสนุนการดับเพลิง ของ อบต.ดอนตะโก พร้อมประสานขอความช่วยเหลือหน่วยงานพื้นที่ใกล้เคียง ร่วมกับทาง ปภ.ราชบุรี และ อำเภอเมืองราชบุรี พร้อมทั้งเข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุพบเป็นโกดังปูนเก็บสินค้าประเภทอุปกรณ์ทำเบเกอรี เช่น น้ำมันพืช, นมกล่อง, นมกระป๋อง, แป้งทำขนม, ครีม, กล่องใส่ และ ถุงพลาสสติกใส่ขนม แก้วพลาสติกใส่น้ำ รวมไปถึงกล่องโฟม ซึ่งเป็นวัสดุที่เป็นเชื้อเพลิงอย่างดี เป็นเหตุทำให้เพลิงโหมลุกไหม้อย่างรวดเร็ว จนโครงเหล็กหลังคาด้านบนพังถล่มพังลงมา และกำแพงด้านข้างมีรอยร้าว บางช่วงยุบตัวใกล้ที่จะล้มพังลง จึงได้แจ้งให้เจ้าหน้าที่กันคนไม่เกี่ยวข้องออกจากพื้นที่
จากนั้นนำรถแบคโฮขนาดเล็กพังประตูและกำแพงเพื่อให้เจ้าหน้าที่สามารถน้ำและรำฉีดโฟมเข้าดับไฟที่ยังคงประทุขึ้นมาจนสามารถควบคุมเพลิงเอาไว้ได้ กว่า 90% ซึ่งนายวสันต์ กลิ่นสุคนธ์ นายกอบต.ดอนตะโก ในฐานะผู้บัญชาการสถานการณ์ ได้สั่งให้เจ้าหน้าที่ดับเพลิงของ อบต.ดอนตะโก คอยนำรถน้ำเข้าฉีดน้ำตลอดทั้งคืนเพื่อป้องกันไฟที่จะประทุขึ้นมาอีก แต่โชคดีที่เกิดฝนตกลงมาหย่างหนักจึงสามารถช่วยทำให้กองเพลิงมีความชุ่มน้ำและช่วยดับไฟได้ แต่ยังคงให้เจ้าหน้าที่คอยเฝ้าดูไปจนถึงรุ่งเช้า
นายไพศาล วุฒิกุล อายุ 60 ปี ชาวตำพิกุลทองเจ้าของโกดัง ดังกล่าว กล่าวว่า ตนได้เช่าโกดังไว้เก็บอุปกรณ์จำหน่ายเบเกอรี และวัตถุดิบ รวมไปถึงแก้วน้ำ ถุงพลาสติก เพื่อจำหน่ายภายในตลาดศรีเมือง ซึ่งอยู่ใกล้กับโกดัง โดยก่อนเกิดเหตุตนได้นำสิ้นค้าเพื่อเตรียมไว้จำหน่ายมาเก็บไว้ในโกดัง อาทิ กล่องโฟมลังโฟม ถ้วยแก้ว ถ้วยพลาสติกแป้ง ครีม น้ำตาล และ น้ำมันพืช รวมถึงสินค้าอื่นๆ รวมมูลค่ากว่า 10 ล้านบาท ส่วนสาเหตุตนยังไม่ทราบว่าเกิดจากอะไร คงต้องรอทางเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าตรวจสอบหาสาเหตุอีกครั้ง
จากการสอบถาม นายทวีวัฒน์ สิงลอ ผู้ใหญ่บ้าน เล่าว่าตนได้รับแจ้งจากชาวบ้าน และเห็นกลุ่มไฟลอยขึ้นจากพื้นที่ดังกล่าวจึงรีบเข้ามาดู และสอบถามคนงานที่เฝ้าโกดัง ทราบว่า ในขณะที่เกิดเหตุไม่มีใครอยู่ภายในโกดัง และประตูทางเข้าล็อคกุญแจไว้อย่างแน่นหนา อีกทั้งยังมีกล้องวงจรปิดติดโดยรอบโกดังนับ 10 ตัว โดยคนงานได้ยินเสียงไฟประทุจากข้างใน จึงรีบเข้ามาดูพบว่าไฟไหม้ และลุกลามอย่างรวดเร็วก่อนจะวอดไปทั้งหลัง จึงได้แจ้งให้ทางเจ้าหน้าที่ อบต.ทราบ เพื่อขอรถน้ำดับเพลิงเข้าดับเพลิงในที่เกิดเหตุ
ด้านนายวสันต์ กลิ่นสุคนธ์ นายกอบต.ดอนตะโก กล่าวว่าเบื้องต้นจากรายงานไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บ พร้อมทั้งสามารถควบคุมเพลิงให้อยู่ในวงจำกัดแล้ว และได้ให้ทางเจ้าหน้าที่เฝ้าดูแล คอยนำน้ำฉีดตลอดทั้งคืน จนให้มั่นใจว่าไฟดับสนิท ส่วนอาคารได้รับความเสียหายทั้งหมด ไม่สามารถใช้งานได้จึงกั้นพื้นที่ไว้ เพื่อให้ทางเจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐานได้เข้าตรวจสอบ ก่อนจะคืนพื้นที่ให้กับทางเจ้าของต่อไป ส่วนความเสียหายได้รับแจ้งจากทางเจ้าของโกดัง มีความเสียหายกว่าสิบล้านบาท
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี