คณะพนักงานสอบสวน หอบสำนวนคดีเป้รักผู้การ กว่า 2 หมื่นแผ่นส่งอัยการปราบปรามทุจริตฯ พร้อมความเห็นสั่งฟ้อง อดีตผู้การเมืองชลฯกับพวกรวม 31 คน -นัดฟังคำสั่ง 26 ก.ย. รองวัชรินทร์ ลั่นไม่เคยกลัวตาย ชายแดนใต้ก็ลุยมาแล้วมทำงานสร้างความเป็นธรรมให้สังคม ดักคอวิ่งเต้นล้มคดีไม่น่ามี จะโดนข้อหาเพิ่ม
วันที่ 28 สิงหาคม 2567 ที่ห้องประชุม 100 ปี สำนักงานอัยการสูงสุด นายวัชรินทร์ ภาณุรัตน์ รองอธิบดีอัยการ สำนักงานการสอบสวน หัวหน้าชุดคณะทำงานตรวจสอบหรือกำกับการสอบสวน และคณะพนักงานสอบสวน นำสำนวนพร้อมความเห็นสมควรสั่งฟ้อง 31 ผู้ต้องหา คดีเจ้าหน้าที่รัฐเบียดบังเรียกรับเงิน 140 ล้านบาท คดีเป้ รักผู้การฯ พร้อมสำนวนการสอบสวน จำนวน 31 กล่อง จำนวนกว่า 2 หมื่นแผ่น มาส่งมอบให้พนักงานอัยการสำนักงานปราบปรามทุจริต พิจารณาสั่งคดี
นายวัชรินทร์ ภาณุรัตน์ รองอธิบดีอัยการ สำนักงานการสอบสวน ในฐานะรองโฆษกสำนักงานอัยการสูงสุด เปิดเผยว่า คดีนี้ใช้เวลากว่า 1 ปี ในการสรุปสำนวน ซึ่งคณะทำงานได้เปิดโอกาสให้ฝ่ายผู้ต้องหาได้ชี้แจงอย่างเต็มที่ กระทั่งมีการสรุปสำนวน เห็นควรสั่งฟ้องผู้ต้องหา 31 คน จากทั้งหมด 35 คน แบ่ง เป็น ตำรวจ 19 นายและพลเรือน 12 คน ซึ่งจำนวนนี้พบว่าหลบหนี 1 คนคือนายต้น พัทยา
โดยมีการตั้งข้อหาแบ่งเป็น กลุ่มตำรวจตัวการ ข้อหาเรียกรับผลประโยชน์ มาตรา 149 ละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ มาตรา157 พ.ร.บ.ป.ป.ช.และพ.ร.บ.อุ้มหาย 16 คน
สำหรับกลุ่มที่ 2 เป็นพลเรือน ข้อหาสนับสนุนให้เจ้าหน้าที่ละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ เรียกรับผลประโยชน์ และพ.ร.บ.อุ้มหาย 3 คน
ส่วนกลุ่มที่ 3 เป็นพลเรือน ข้อหาสนับสนุนให้เจ้าหน้าที่ละเว้นการปฏิบัติหน้าที่และพ.ร.บ.อุ้มหาย 10 คน
กลุ่มที่ 4 เป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจไซเบอร์ 2 นาย กรณีการเข้าจับกุมแต่ไม่ได้อยู่ในกลุ่มของผู้เรียกรับผลประโยชน์
โดยคณะสอบสวนมีความเห็นสั่งไม่ฟ้องผู้ต้องหา 3 ราย คือ ตำรวจ 2 นาย และ พลเรือน อีก 1 คน ที่ถูกกล่าวหาว่า แต่งกายเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจสังกัด บก.ภจ.ชลบุรี ซึ่งเป็นการจับผิดตัว
สำหรับผู้ต้องหาทั้ง 31คนอัยการนัดให้ ทั้งหมดเดินทางมาฟังคำสั่งคดีวันที่ 26 กันยายนนี้ เวลา 10.00 น. ที่สำนักงานอัยการสูงสุด ถนนรัชดาภิเษก
ทั้งนี้ นายวัชรินทร์ กล่าวเพิ่มเติมว่า เรื่องวิ่งเต้นก็คงไม่กล้าวิ่งเต้นเพราะว่าที่เขาโดนข้อหาไปทุกวันนี้ก็หลายข้อหาแล้ว ถ้าจะมาวิ่งเต้นอีกก็จะเดี๋ยวโดนข้อหาแถม ก็ส่วนเรื่องกลัวตาย ตนไม่กลัวเพราะว่าคนเราเกิดมาครั้งเดียวตายครั้งเดียว คดีที่เสี่ยงภัยมากกว่านี้ก็ทําแล้วใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ก็ลงไปทําแล้ว เรื่องกลัวตายคงไม่กลัว
ผู้สื่อข่าวถามว่า หากเข้าสู่กระบวนการแล้ว ศาลยกฟ้อง อัยการทําใจได้หรือไม่ นายวัชรินทร์ เผยว่า ทําใจได้เพราะอัยการไม่ได้ถูกสร้างมาเพื่อเอาคนเข้าคุก อัยการถูกสร้างมาให้ความเป็นธรรมกับคนและสังคม อัยการไม่ได้เป็นเหมือนอาชีพที่จะต้องไปเข้าข้างผู้ต้องหา หรือว่าเอาเป็นเอาตายกับผู้ต้องหา อัยการจะดูตามพยานหลักฐาน ว่าถ้าพยานหลักฐานถึงใครผิดเราก็ดําเนินคดี แต่สุดท้ายศาลจะยกฟ้องหรือไม่นั้นเป็นดุลพินิจของศาล ถ้าเกิดว่ามีการยกฟ้องก็เรื่องปกติ .
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี