โคราช-พบศพคนงานรายแรกที่ติดภายในอุโมงค์รถไฟความเร็วสูงที่ถล่มแล้ว เร่งช่วยคนงานที่เหลืออีก 2 ชีวิตอย่างเร่งด่วน ขณะที่ร่างไร้วิญญาณถึงห้องเก็บศพ รพ.มหาราชเพื่อตรวจพิสูจน์

วันที่ 29 สิงหาคม 2567  ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้าปฏิบัติการค้นหา และช่วยเหลือแรงงาน 3 คน จากเหตุการณ์ดินถล่มภายในอุโมงค์ก่อสร้างรถไฟความเร็วสูงไทย-จีน ช่วงคลองขนานจิตร อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา ตั้งแต่เมื่อกลางดึกวันที่ 25 สิงหาคม 2567 ที่ผ่านมา ซึ่งการระดมสรรพกำลังเข้าไปช่วยเหลือผู้ประสบภัยทั้ง 3 คนยังดำเนินการไปอย่างต่อเนื่อง

ล่าสุดเวลา 11.00 น. เจ้าหน้าที่ได้รับแจ้งยืนยันจากทีมกู้ภัยภายในอุโมงค์ว่า พบคนงานคนแรกที่ติดอยู่ภายในอุโมงค์เสียชีวิตแล้ว เป็นแรงงานชาวเมียนมา ไม่ทราบชื่อ ซึ่งขณะนี้เจ้าหน้าที่กู้ภัยได้นำศพแรงงานชาวเมียนมาออกมาจากภายในอุโมงค์ได้แล้ว และได้นำศพส่งไปตรวจพิสูจน์ที่โรงพยาบาลมหาราชนครราชสีมา

ทั้งนี้ตลอดระยะเวลาปฏิบัติการช่วยเหลือคนงานทั้ง 3 ราย เจ้าหน้าที่กู้ภัยต้องเผชิญกับอุปสรรคมากมายในช่วงหลายวันที่ผ่านมา ทั้งจากปัญหาดินสไลด์ลงมาจากด้านบนอุโมงค์อย่างต่อเนื่อง ทำให้ต้องใช้เวลาในการขุดดินนานขึ้น รวมถึงมีก้อนหินขนาดใหญ่ขวางทางขุด อย่างไรก็ตามเจ้าหน้าที่ยังคงทำงานกันอย่างหนักตลอด 24 ชั่วโมง เพื่อเร่งค้นหาคนงานที่เหลือติดอยู่ภายในอุโมงค์อีก 2 คน โดยตั้งว่าจะสามารถช่วยเหลือคนงานอีก 2 คนให้ได้ภายในวันนี้

นายชัยวัฒน์ ชื่นโกสุม ผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา เปิดเผยว่า ขณะนี้เจ้าหน้าที่กู้ภัยยืนยันพบร่างแรงงานรายแรกที่ติดอยู่ภายในอุโมงค์เสียชีวิตแล้ว เบื้องต้นทราบว่าเป็นแรงงานชาวเมียนมา ไม่ทราบชื่อ ซึ่งทีมกู้ภัยได้นำร่างแรงงานชาวเมียนมาออกมาจากอุโมงค์ได้แล้ว และได้นำศพส่งไปตรวจพิสูจน์ที่โรงพยาบาลมหาราชนครราชสีมาเพื่อหาสาเหตุของการเสียชีวิตอย่างละเอียด พร้อมกันนี้ทีมกู้ภัยได้เร่งวางแผนช่วยเหลือแรงงานที่ติดอยู่ภายในอุโมงค์ที่เหลืออีก 2 คน ให้ได้โดยเร็วที่สุด

ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า ต่อมาเวลา 13.10 น. ที่ห้องเก็บศพ หรือห้องดับจิต ด้านหลังโรงพยายาบาลมหาราชนครราชสีมา เจ้าหน้าที่ตำรวจจราจร สภ.เมืองนครราชสีมา พร้อมเจ้าหน้าที่ รปภ.โรงพยาบาลมหาราชนครราชสีมา รถตู้ฉุกเฉินโรงพยาบาลมหาราชนครราชสีมาซึ่งรับผู้เสียชีวิตชาวพม่า เดินทางนำร่างไร้วิญาณโดยมีการห่อคุมผ้ายางสีส้มลงจากรถตู้แล้วนำเข้าห้องเก็บศพ โดยทางเจ้าหน้าที่บริษัทฯ ซึ่งเดินทางมาด้วยมีการแจ้งให้ทาง รปภ.รพ.มหาราชนครราชสีมาไม่อนุญาตให้มีการถ่ายภาพ บันทึกภาพ เพื่อตรวจพิสูจน์ที่โรงพยาบาลมหาราชนครราชสีมา โดยระหว่างการนำศพไปยัง รพมหาราชนครราชสีมามีรถตำรวจนำขบวนตลอดเส้นทาง