จีนเทา-ต่างชาติเทาหนีกระเจิงจาก “คิงส์โรมัน”เข้าไทยหลังทางการลาว-จีนปราบหนักแหล่งฉ้อโกงออนไลน์ เผยจับได้นับพัน-หนีกันพล่านเตรียมย้ายไปเมียวดี-กัมพูชา ใช้ไทยเป็นทางผ่าน ตำรวจสกัดได้บางส่วนพบโทรศัพท์กว่า 200 เครื่อง
เมื่อวันที่ 29 สิงหาคม 2567 แหล่งข่าวด้านความมั่นคงชายแดนไทย เปิดเผยว่า ภายหลังจากที่ทางการลาวร่วมกับทางการจีนดำเนินการทลายแหล่งอาชญากรรมโดยเฉพาะแก็งคอลเซ็นเตอร์ในบริเวณคิงส์โรมัน ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของเขตเศรษฐกิจพิเศษสามเหลี่ยมทองคำ เมืองต้นผึ้ง แขวงบ่อแก้ว สปป.ลาว ที่อยู่ตรงข้ามกับ อ.เชียงแสน จ.เชียงราย โดยเมื่อวันที่ 9 สิงหาคม นายทองจัน มะนีไช เจ้าแขวงบ่อแก้ว และ พลจัตวาวันทอน สุลิสัก รองหัวหน้ากรมใหญ่ตำรวจ กระทรวงรักษาความสงบ และคณะคุ้มครองเขตเศรษฐกิจพิเศษแขวงบ่อแก้ว คณะสภาบริหารเศรษฐกิจพิเศษสามเหลี่ยมคำ ได้มีการหารือกำหนดเป้าหมายธุรกิจที่มีการฉ้อโกงประชาชน 400 บริษัท
แหล่งข่าวกล่าวว่า ก่อนหน้านั้น ทางการลาวและจีนได้ปราบปรามจับกลุ่มขบวนการคอลเซ็นเตอร์มาแล้วถึง 9 ครั้ง สามารถปราบปรามไปแล้ว 240 บริษัท จับผู้ต้องหาได้ 1,398 คน เป็นคนจีน 1,211 คน เวียดนาม 145 คน อย่างไรก็ตามในการประชุมได้ขีดเส้นตายให้ขบวนการเหล่านี้เลิกกิจการและยอมมอบตัวระหว่างวันที่ 9-25 สิงหาคม หลังจากนั้นในวันที่ 26-27 สิงหาคม ได้มีปฎิบัติการจับกุม ปรากฏว่าสามารถจับกุมชาวจีนและชาวต่างชาติได้จำนวนหลายร้อยคน
แหล่งข่าวกล่าวว่า ในช่วงดำเนินการตามแผนปฎิบัติการระหว่างวันที่ 9-27 สิงหาคมที่ผ่านมา ปรากฏว่าเหล่าจีนเทาและชาวต่างชาติที่ทำงานผิดกฏหมายในคิงส์โรมันจำนวนมากได้หนีข้ามมายังฝั่งไทย และหาที่หลบซ่อนทำให้ห้องพักต่างๆในเมืองเชียงแสนเต็มเกือบหมด
“ชาวจีนและชาวต่างชาติที่หลบหนีเข้าประเทศไทย มักว่าจ้างเรือพาข้ามแม่น้ำโขง เมื่อมาถึงฝั่งไทยก็ใช้เส้นทางแม่น้ำรวกซึ่งเป็นลำน้ำกั้นชายแดนไทย-พม่าเข้ามายังแผ่นดินไทย ซึ่งช่องทางนี้ต่างเป็นที่รับทราบกันดีของคนวงใน และเจ้าหน้าที่ฝั่งไทยหลายหน่วยงานก็รู้ แต่ไม่มีใครเข้าไปดำเนินการจับกุมเพราะต่างก็ได้รับผลประโยชน์จากพวกจีนเทา”แหล่งข่าวกล่าว
แหล่งข่าวกล่าวว่า ในช่วงที่ทางการลาวและจีนปราบปรามอย่างจริงจัง ขบวนการฉ้อโกงออนไลน์จำนวนมากได้ขนย้ายอุปกรณ์เพื่อหลบไปยังแหล่งอาชญากรรมชายแดนไทยด้าน อ.แม่สอด-เมียวดี และด้านชายแดนไทย-กัมพูชา ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจไทยสามารถจับกุมดำเนินคดีได้จำนวนไม่น้อย
ทั้งนี้ วันที่ 27 สิงหาคมที่ผ่านมา ชุดสืบสวน ตรวจคนเข้าเมืองเชียงแสน จ.เชียงราย พร้อมหน่วยงานข้างเคียง ออกตรวจบริเวณบนถนนสาธารณะริมแม่น้ำแม่โขง บ้านเชียงแสนน้อย หมู่ที่ 7 ต.เวียง อ.เชียงแสน จ.เชียงราย และจับกุมนายเหยียน เทียน ฉิน อายุ 34 ปี สัญชาติจีน ชาวมณฑลหูหนาน และหลังจากนั้นได้ควบคุมตัว นายหวังเซียง (MR.HUANG XIANG) อายุ 34 ปี สัญชาติจีน ชาวมณฑลเจียงซีบริเวณบนถนนสาธารณะ ริมแม่น้ำแม่โขง บ้านสบรวก หมู่ที่ 1 ต.เวียง อ.เชียงแสน โดยทั้ง 2 คน ถูกตั้งข้อหา “เป็นบุคคลต่างด้าว เข้ามาและอยู่ในราชอาณาจักร โดยไม่ได้รับอนุญาต ตามพระราชบัญญัติคนเข้าเมือง พ.ศ.2522 ”
ก่อนหน้านี้เมื่อวันที่ 21 สิงหาคม ตชด. 327 ได้จับกุมผู้ต้องสงสัยได้จำนวน 9 คน ได้ที่บนถนนพหลโยธิน ห้าแยกพาน อ.พาน จ.เชียงราย โดยเป็นไทย 2 คนและเป็นคนต่างด้าวสัญชาติจีน 7 คน ซึ่งทั้งหมดเดินทางมาจากพื้นที่ชายแดนเชียงราย เพื่อเดินทางไปยัง อ.แม่สอด จ.ตาก ซึ่งจากการสอบสวน เป็นคนไทย 2 คน คือผู้ขับรถมารับได้รับค่าจ้าง 15,000 ต่อเที่ยว เจ้าหน้าที่ได้ตรวจค้นในรถยนต์ทั้งสองคันพบโทรศัพท์จำนวน 215 เครื่อง โน๊ตบุ๊ค ซิมการ์ด จำนวนหนึ่ง จึงได้ตรวจยึดไว้เพื่อดำเนินการตรวจสอบ
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี