เขื่อนเจ้าพระยา เร่งระบายน้ำเพิ่ม เตือนพื้นที่ลุ่มท้ายเขื่อน เตรียมรับน้ำ ส่วน“พะเยา”ยังวิกฤตเขตเศรษฐกิจถูกท่วมหนัก ขณะที่“เลย”น้ำโขงทะลักท่วมบ้านเรือน น้ำป่าซัดถนนขาด ด้าน จ.ลำปาง น้ำป่าหลากท่วม อ.วังเหนืออ่วมหนัก ชาวบ้านถูกน้ำโอบล้อม กู้ภัยเร่งช่วยเหลือ พบกระทบแล้ว 3 อำเภอ 8 ตำบล
เมื่อวันที่ 29สิงหาคมผู้สื่อข่าวรายงานถึงสถานการณ์น้ำในลุ่มน้ำเจ้าพระยา ว่าเขื่อนเจ้าพระยา จ.ชัยนาท ยังคงทยอยปรับเพิ่มการระบายน้ำแบบขั้นบันไดอยู่ในอัตรา 900-1,400 ลูกบาศก์เมตร (ลบ.ม.)/วินาที ตามการแจ้งเตือนสถานการณ์น้ำฉบับที่ 5 ของกรมชลประทาน อย่างต่อเนื่อง เพื่อให้สอดคล้องกับปริมาณน้ำทางตอนบนและฝนที่ตกในระยะนี้ โดยเวลา 06.00น.วันเดียวกัน ปริมาณน้ำที่ไหลผ่านสถานีวัดน้ำ C.2 จ.นครสวรรค์ มีปริมาณ 1,270 ลบ.ม./วินาที น้ำเหนือเขื่อนเจ้าพระยา ที่ อ.เมือง จ.ชัยนาท มีปริมาณ 1,525 ลบ.ม./วินาที เพิ่มขึ้นจากเมื่อวันที่ 28 สิงหาคมที่ผ่านมา 187 ลบ.ม./วินาที กรมชลประทาน ได้ผันน้ำเข้าระบบชลประทานสองฝั่งเหนือเขื่อนเจ้าพระยา รวมกันในอัตรา 225 ลบ.ม./วินาที และระบายน้ำออกท้ายเขื่อนเจ้าพระยา ในอัตรา 1,300 ลบ.ม./วินาที ส่งผลให้ระดับน้ำเหนือเขื่อน ที่ อ.เมือง จ.ชัยนาท ลดลงอยู่ที่ระดับ 15.96 เมตร(รทก.) เพิ่มพื้นที่รับน้ำเหนือ แต่ระดับน้ำท้ายเขื่อน ที่ อ.สรรพยา สูงขึ้นอยู่ที่ระดับ 12.10 เมตร(รทก.) ต่ำกว่าตลิ่ง 4.24เมตร
ทั้งนี้ ตลอดทั้งวันจะมีการปรับเพิ่มการระบายน้ำแบบขั้นบันได ต่อเนื่องไปจนถึงอัตรา 1,400 ลบ.ม./วินาที ตามการแจ้งของกรมชลประทานก่อนหน้านี้ ซึ่งจะส่งผลให้ระดับน้ำบริเวณพื้นที่ลุ่มต่ำนอกคั้นกั้นน้ำบริเวณคลองโผงเผง จ.อ่างทอง คลองบางบาล จ.พระนครศรีอยุธยา และ ต.หัวเวียง อ.เสนา ต.ลาดชิด ต.ท่าดินแดง อ.ผักไห่ จ.พระนครศรีอยุธยา เพิ่มสูงขึ้นจากปัจจุบันอีกประมาณ 50เซนติเมตร-1.5 เมตร จึงขอให้ประชาชนที่อาศัยอยู่ริมแม่น้ำเจ้าพระยา และแม่น้ำน้อย เฝ้าระวังระดับน้ำที่เพิ่มสูงขึ้น และขอให้ติดตามสถานการณ์น้ำอย่างใกล้ชิด
ที่ จ.พะเยา วันเดียวกัน ผู้สื่อข่าวรายงานว่าสถานการณ์น้ำยังคงวิกฤติ น้ำป่าในหลายพื้นที่ยังโอบล้อมเข้าท่วมหมู่บ้านและชุมชนรอบกว๊านพะเยา ทำให้ปริมาณน้ำในกว๊านพะเยาเพิ่มสูงขึ้นและเข้าท่วมพื้นที่เศรษฐกิจและถนนเส้นหลักสูงขึ้นอีก ส่งผลให้ร้านค้าอาคารบ้านเรือนตึกรามบ้านช่องถนนได้รับความเสียหายจากน้ำท่วมกินเวลามากกว่า 3 สัปดาห์ ทำให้พื้นที่เศรษฐกิจเมืองพะเยาซบเซาและถนนเป็นอัมพาตถูกน้ำท่วมขังสูงกว่า 1เมตรสำหรับพื้นที่ จ.พะเยาช่วงนี้มีฝนตกทุกวันและน้ำป่าไหลยังคงไหลหลากท่วมแต่ละพื้นที่ทำให้น้ำในกว๊านพะเยาเพิ่มสูง กระทบต่อพื้นที่เศรษฐกิจและสถานที่ท่องเที่ยวซบเซา
ส่วนที่ จ.เลย น้ำป่ายังไหลหลากเข้าท่วมบ้านเรือน พื้นที่ทางการเกษตร และถนนหลายสาย ส่งผลให้ประชาชนได้รับผลกระทบอย่างหนัก โดยที่ถนน อ.วังสะพุง-ภูเรือ ถนนทางหลวงชนบทที่มีการใช้งานมาก โดยเฉพาะรถบรรทุกจากทางภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน ลัดขึ้นสู่ภาคเหนือ และเป็นทางลัดระหว่าง อ.ภูเรือ ไปยัง อ.วังสะพุง ถูกน้ำป่าที่ไหลลงแม่น้ำฮวย ล้นท่วม กัดเซาะถนนขาด บริเวณหน้าโรงเรียนบ้านนาซำแซง ต.เขาหลวง ซึ่งอยู่ระหว่างปรับปรุงรื้อถอนสะพาน มีการทำทางเบี่ยง จุดที่ถูกน้ำกัดเซาะจนขาด ไม่สามารถใช้สัญจรได้
ขณะที่สถานการณ์แม่น้ำโขง จากส่วนอุทกวิทยาที่ 2 เลย สำนักงานทรัพยากรน้ำที่ 3 (อุดรธานี) สถานีวัดระดับแม่น้ำโขง ต.เชียงคาน อ.เชียงคาน วัดได้ที่ระดับ 15.03 เมตร ระดับน้ำโขงเพิ่มขึ้นสูงขึ้น 0.12เมตรโดยระดับวิกฤตอยู่ที่ 16เมตร ซึ่งจะทำให้พื้นที่ทางการเกษตร ที่อยู่ริมแม่น้ำโขงใน อ.เชียงคาน และ อ.ปากชม อาจได้รับผลกระทบเป็นวงกว้าง สำหรับ อ.ปากชม มีตลิ่งต่ำกว่าพื้นที่ อ.เชียงคาน ระดับน้ำโขงได้เอ่อล้นตลิ่งที่บ้านคกไผ่ ซึ่งมีชาวบ้านตั้งร้านริมแม่น้ำโขง น้ำได้เอ่อเข้าท่วมกระต๊อบริมน้ำจมมิดหลังคาหลายหลัง และกำลังเอ่อท่วมถนนทางเดินริมน้ำ และท่วมบ้านเรือนประชาชน
นายยศวัฒน์ พัชระศักดิ์สกุล นายอำเภอปากชม เปิดเผยว่า ช่วงเช้าวันเดียวกันนี้ถ้าเปรียบเทียบกับระดับในช่วงเย็นวันที่ 28 สิงหาคมที่ผ่านมา ระดับน้ำยังคงทรงตัว ขณะนี้ได้รับการประสานจากเขื่อนไซยะบุรี ว่าน้ำจากต้นเขื่อนได้เริ่มลดลง ซึ่งจะส่งผลกับพื้นที่ อ.ปากชม เพราะระดับน้ำในแม่น้ำโขงน่าจะลดลง
ขณะเดียวกัน อบต.นครหงส์ ได้นำกระสอบทราย 1,200 ลูก เพื่อนำมาทำแนวกั้นในจุดที่คาดว่าระดับน้ำจะสูงขึ้นและอาจจะทะลักเข้ามา แต่บ้านเรือนประชาชนริมแม่น้ำโขง ไม่ได้รับผลกระทบมากเท่ากับพื้นที่ทางการเกษตร ส่วน ต.หาดคัมภีร์ ชาวบ้านที่อยู่ริมแม่น้ำโขง ได้ถูกน้ำท่วมแล้ว 1-2 หลัง โดยทางอำเภอได้นำเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง ช่วยขนย้ายข้าวของขึ้นที่สูง อย่างไรก็ตาม สิ่งที่น่ากังวลคือฝนที่ตกเพิ่ม ส่งผลให้ปริมาณน้ำไหลลงสู่แม่น้ำสาขา อาจจะทำให้สถานการณ์น้ำท่วมทวีความรุนแรงขึ้น
ที่ จ.ลำปาง ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากสถานการณ์น้ำป่าไหลหลากและน้ำท่วมฉับพลันในพื้นที่ อ.วังเหนือ จ.ลำปาง ซึ่งเป็นอำเภอทางตอนบนสุดติดกับ จ.เชียงราย และ จ.พะเยา นับตั้งแต่วันที่ 27 สิงหาคมที่ผ่านมา ขณะนี้สถานการณ์ยังคงรุนแรง ระดับน้ำในแม่น้ำวัง เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว โดยล้นทะลักท่วมพื้นที่ลุ่มต่ำ พื้นที่ทางการเกษตรริมแม่น้ำ ทำให้ชาวบ้าน 3 ราย ที่เข้าไปดูพื้นที่และโรงเลี้ยงสัตว์ ติดอยู่กลางน้ำไม่สามารถออกมาได้ เนื่องจากถูกน้ำโอบล้อม เจ้าหน้าที่ต้องรีบเข้าไปช่วยเหลือพาออกมาได้อย่างปลอดภัย
สำหรับพื้นที่ อ.วังเหนือ ถือว่าประสบภัยทางธรรมชาติหนักที่สุดในรอบหลายปี เนื่องจากฝนตกหนักทำให้เกิดน้ำป่าไหลหลาก และน้ำท่วมฉับพลันมา 2 วันติดต่อกันโดยเมื่อวันที่ 28 สิงหาคมที่ผ่านมา ถือว่าหนักที่สุดในฤดูฝนปีนี้ เพราะฝนถล่มหนักจนหลายหมู่บ้านในหลายตำบลของ อ.วังเหนือ ถูกน้ำท่วมเป็นวงกว้าง โดยสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย จ.ลำปาง สาขาวังเหนือสรุปว่ามีพื้นที่ได้รับผลกระทบ 10 หมู่บ้าน 5 ตำบล ประกอบด้วย ต.วังซ้าย ต.วังทองต.วังแก้วต.วังทรายคำ และ ต.ทุ่งฮั้ว
ส่วนโรงเรียนในพื้นที่ อ.วังเหนือ ที่ได้รับผลกระทบตามที่ได้รับรายงาน พบว่ามีโรงเรียนบ้านก่อ ต.วังทรายคำ และโรงเรียนบ้านแม่เย็น ซึ่งเป็นโรงเรียนระดับประถมศึกษาปี 1–6 สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาลำปาง เขต 3 ขณะนี้สถานการณ์น้ำป่าหลากเข้าท่วมโรงเรียนคลี่คลายแล้ว เหลือแต่เศษวัชพืช เศษสวะและดินโคลนที่ติดอยู่ภายในโรงเรียน โดยจะต้องเร่งฟื้นฟู ทำความสะอาด เพื่อให้สามารถกลับมาเปิดทำการเรียนการสอนได้ตามปกติ
ด้านนายชัชวาลย์ฉายะบุตร ผวจ.ลำปาง พร้อมด้วย น.ส.ตวงรัตน์ โล่ห์สุนทร นายกอบจ.ลำปาง และนางวณิชดา ไชยศิริ นายอำเภอวังเหนือ รวมถึงเจ้าหน้าที่จากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้ลงพื้นที่สำรวจความเสียหายและความเดือดร้อนของประชาชน ภายหลังสถานการณ์น้ำป่าไหลหลาก พร้อมกับมอบถุงยังชีพบรรเทาความเดือดร้อนและให้กำลังใจ ตลอดจนตรวจสอบพื้นที่ประสบภัย เพื่อหาแนวทางป้องกันปัญหาน้ำท่วมในระยะยาวต่อไป
ทั้งนี้ สำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย จ.ลำปาง สรุปสถานการณ์ช่วง 3วันที่ผ่านมา (วันที่ 27-29สิงหาคม2567) เกิดภัยพิบัติใน 3อำเภอ 8 ตำบล 19 หมู่บ้าน มีบ้านเรือนถูกน้ำท่วมกว่า 400หลังคาเรือน พื้นที่ทางการเกษตรเสียหายหลายพันไร่ ซึ่งจะได้สำรวจผลกระทบทางการเกษตรและปศุสัตว์ อย่างละเอียดต่อไป โดยพื้นที่ อ.วังเหนือ ถือว่าเป็นพื้นที่ซึ่งได้รับผลกระทบมากที่สุดใน 6ตำบลและ อ.งาวอีก 2 ตำบล รวมถึง อ.เถิน จ.ลำปาง
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี