โคราช-อุโมงค์มรณะไร้ปาฏิหาริย์..พบเพิ่มอีก 2 ศพแรงงานจากเหตุอุโมงค์รถไฟความเร็วสูงถล่ม ไม่ห่างจากจุดพบแรงงานศพแรก อนุทิน บินด่วนลงพื้นที่อีกรอบ ขณะที่การนำร่างคนงานชาวจีน 2 ศพ ร่างไร้วิญญาณถึงห้องเก็บศพ รพ.มหาราชเพื่อตรวจพิสูจน์ ขณะที่ไทยมุงยืนดูร่างไร้วิญญาณ 2 ร่างด้วยความเศร้า
วันที่ 30 สิงหาคม 2567 ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้า การค้นหาและช่วยเหลือผู้ประสบภัย 3 คน จากเหตุการณ์ดินถล่มภายในอุโมงค์ก่อสร้างรถไฟความเร็วสูงไทย-จีน ช่วงคลองขนานจิต อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา ตั้งแต่วันที่ 24 ส.ค. 67 ที่ผ่านมา ซึ่งได้มีการระดมกำลังเจ้าหน้าที่ค้นหาเพื่อช่วยเหลือผู้ประสบภัยทั้ง 3 คนต่อเนื่อง จนกระทั่งเวลา 11.00 น. วันนี้ (29 ส.ค. 2567) เจ้าหน้าที่ได้ค้นพบแรงงานชาวเมียนมาเสียชีวิตแล้ว 1 ราย ซึ่งพบร่างเสียชีวิตอยู่บริเวณใต้ท้องรถบรรทุก ตามที่มีการนำเสนอข่าวไปก่อนหน้านี้
ล่าสุด นายชัยวัฒน์ ชื่นโกสุม ผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา ได้ยืนยันว่าทีมกู้ภัยได้ค้นหาพบคนงานที่ติดอยู่ในอุโมงค์เพิ่มอีก 2 คน โดยคนงานทั้ง 2 คนเสียชีวิตแล้ว โดบพบร่างคนงานทั้ง 2 คนเมื่อช่วงกลางดึกที่ผ่านมา จุดที่พบศพอยู่ไม่ห่างจากจุดที่พบศพคนงานรายแรกประมาณ 3 เมตร ซึ่งขณะนี้เจ้าหน้าที่ได้นำศพคนงานทั้ง 2 รายออกมาจากที่เกิดเหตุ และนำส่งตรวจชันสูตรที่โรงพยาบาลมหาราชนครราชสีมา ขณะที่เจ้าหน้าที่กู้ภัย และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง ได้ถอนกำลัง และรื้อเต้นท์ศูนย์บัญชาการช่วยเหลือออกแล้ว
ต่อมา นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.มหาดไทย ได้เดินทางมาติดตามสถานการณ์ และได้ให้สัมภาษณ์ว่า ภารกิจกู้ภัยกู้ชีวิตได้สิ้นสุดลงแล้ว ต่อไปส่วนสถานการณ์ภาพรวมล่าสุด ได้พบร่างผู้ประสบภัยทั้ง 3 ครบแล้ว ซึ่งได้นำร่างทั้ง 3 รายออกมาจากจุดเกิดเหตุหมดแล้ว และได้รับการยืนยันทางการแพทย์เบื้องต้นว่าทั้งหมดเสียชีวิตจากการขาดอากาศหายใจ ส่วนผลอย่างเป็นทางการจะต้องให้แพทย์ รพ.มหาราชนครราชสีมาทำการชันสูตรพลิกศพ แล้วรายงานผลให้ทราบอีกครั้ง ซึ่งถือเป็นเหตุการณ์ไม่คาดคิด ที่ไม่มีใครอยากให้เกิดเหตุการณ์แบบนี้ขึ้น และจากการติดตามเฝ้าดูการปฏิบัติงานค้นหาช่วยเหลือของเจ้าหน้าที่ฯ ตนยืนยันว่า ผู้ปฏิบัติงานทุกคนไม่ว่าจะเป็นภาครัฐ ภาคเอกชน รวมทั้งอาสาสมัคร ทุกคนทุ่มเทสรรพกำลังและระดมทรัพยากรที่มีอยู่ เข้ามาช่วยเหลือกันอย่างเต็มที่ แต่ด้วยสภาพพื้นที่เกิดเหตุ โครงสร้างต่างๆ ทั้งทางธรรมชาติและที่ก่อสร้างขึ้นมาก็ดี เป็นอุปสรรคต่อการปฏิบัติงานอย่างมาก ดังนั้น จึงต้องดำเนินการค้นหากู้ภัยอย่างระมัดระวังตามขั้นตอนที่วางแผนเอาไว้ เพื่อให้เกิดความปลอดภัยสูงสุดแก่ทุกๆ คน โดยมีหลายหน่วยงานมาให้คำแนะนำปรึกษาเพื่อให้การทำงานเป็นไปอย่างปลอดภัย บรรลุเป้าหมาย ซึ่งแม้ผลที่ออกมาจะไม่สามารถช่วยชีวิตผู้ประสบภัยทั้ง 3 ได้ ทุกคนต่างก็รู้สึกเศร้าเสียใจอย่างมาก ในส่วนของการเยียวยาดูแลครอบครัวคนงานทั้ง 3 ได้ให้กรมสวัสดิการคุ้มครองแรงงาน รวมทั้งสำนักงานประกันสังคม เข้ามาดูแลในเรื่องนี้แล้ว ต้องขอขอบคุณทุกๆ หน่วยงานที่เข้ามาร่วมปฏิบัติการค้นหาช่วยเหลือในครั้งนี้
ส่วนเรื่องการค้นหาร่างผู้เสียชีวิต รายแรก พบเสียชีวิตอยู่ข้างรถดั๊มพ์บรรทุกดิน รายที่ 2 และ 3 พบร่างลึกเข้าไปในอุโมงค์ห่างจากรายแรก เบื้องต้นจากการชันสูตรพลิกศพในที่เกิดเหตุ คาดว่า รายที่ 2 น่าจะเสียชีวิตในที่เกิดเหตุก่อนรายที่ 3 จะต้องรอผลการชันสูตรที่ชัดเจนอีกครั้งจาก รพ.มหาราชฯ ซึ่งจุดที่พบร่างผู้เสียชีวติรายแรก ดินที่ถล่มลงมา ถูกรถดั๊มพ์ฯ บังเอาไว้ ทำให้รายแรกสามารถออกมาจากรถหลังจากดินถล่มลงมาได้ แล้วไปนั่งรอความช่วยเหลืออยู่บริเวณใกล้ๆติดกับผนังถ้ำ ส่วนคนที่ 2 และ 3 ยังไม่แน่ชัด ว่าก่อนเกิดเหตุอยู่ในลักษณะไหน แต่ตอนที่พบร่างไม่ได้ถูกดินทับหรือดินอัดร่างเอาไว้ จุดที่พบร่างอาจจะเป็นช่องโพรงที่มีโครงอุโมงค์ค้ำอยู่หรือมีรถแบ็คโฮค้ำอยู่ ตอนนี้ยังไม่แน่ชัดเพราะยังมีดินปกคลุมอยู่พื้นที่โดยรอบอยู่
อย่างไรก็ตาม ผลการชันสูตรยืนยันแน่ชัดว่า รายแรกเสียชีวิตเพราะขาดอากาศหายใจแน่นอน ส่วนรายที่ 2 และ 3 ต้องรอผลการชันสูตรที่ชัดเจนก่อน และบริษัทฯ ผู้รับจ้างก็ยืนยันว่า มีคนงานติดอยู่ในอุโมงค์แค่ 3 รายเท่านั้น ไม่มีมากกว่านี้ เพราะได้ตรวจเช็ครายชื่อและตรวจสอบยืนยันแล้ว ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ตำรวจและ รฟท.ก็จะขอตรวจสอบหลักฐานต่างๆ อย่างละเอียดจากบริษัทผู้รับจ้าง แล้วจึงแถลงข่าวผลการตรวจสอบให้ทราบอีกครั้ง
ส่วนผู้ที่มาร่วมปฏิบัติการค้นหา ก็จะต้องรีบคืนพื้นที่โดยเร็ว เพราะสภาพพื้นที่ไซต์ก่อสร้างอุโมงค์ฯ ยังถือว่าเป็นพื้นที่อันตรายเขตก่อสร้าง ทางผู้รับเหมาจะได้เร่งเข้าไปซ่อมแซมความเสียหายและแก้ไขไม่ให้เกิดปัญหาขึ้นซ้ำ ในขณะที่เรื่องการเยียวยาทั้ง 3 ราย ทางหน่วยงานจะเข้าไปช่วยเหลือเรื่องการนำร่างกลับไปประกอบศาสนกิจด้วย เราให้ความร่วมมืออยู่แล้ว
นายอนุทินฯ กล่าวเพิ่มเติมว่า สำหรับจุดเกิดเหตุที่มีดินถล่มลงมา จะอยู่เลยถัดจากจุดกึ่งกลางอุโมงค์ไปแล้ว ค่อนไปทางปลายอุโมงค์ ซึ่งผู้รับเหมากำลังดำเนินการก่อสร้างโครงอุโมงค์ ไล่ไปเรื่อยๆ ซึ่งจุดที่ถล่มลงมา ยังเป็นส่วนที่มีโครงเหล็กค้ำยันชั่วคราวเอาไว้ ซึ่งก็ต้องมาตรวจสอบดูว่า ได้ดำเนินงานตามขั้นตอนการก่อสร้างที่ถูกต้องหรือไม่ เพราะโครงสร้างต่างๆ ตามหลักวิศวกรจะต้องพิสูจน์ได้ เมื่อตรวจสอบดูแล้วก็จะทราบสาเหตุว่าเพราะเหตุใดการก่อสร้างอุโมงค์ในจุดนั้นจึงถล่มลงมา จะมีการลัดขั้นตอนใดๆหรือไม่ ตนยังไม่ทราบ และคาดหวังว่าจะไม่มีการกระทำอย่างนั้น ซึ่งจะต้องให้ รฟท. กับหลายหน่วยงานร่วมกันสืบสวนหาสาเหตุที่แท้จริง
ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า ต่อมาเวลา 11.30 น. ที่ห้องเก็บศพ หรือห้องดับจิต ถนนประปา ด้านหลังโรงพยายาบาลมหาราชนครราชสีมา เจ้าหน้าที่ตำรวจจราจร สภ.เมืองนครราชสีมา พร้อมเจ้าหน้าที่ห้องดับจิต เจ้าหน้าที่ รปภ.โรงพยาบาลมหาราชนครราชสีมา ได้มายืนรอที่หน้าประตูทางเข้าห้องเก็บศพ ในเวลา 11.35 น.ขบวนรถรถตู้ฉุกเฉินของหน่วยกู้ภัยสว่างเมตตาธรรมสถาน มูลนิธิหลักเสียงเสี่ยงตึ้ง นครราชสีมา โดยมีรถเจ้าหน้าที่ตำรวจจราจร สภ.เมืองนครราชสีมานำขบวน ซึ่งรถตู้หน่วยกู้ภัยสองคันนำร่างชาวจีน 2 คน คือ นายหูเสียงหมิ่น ผู้ควบคุมงาน และนายตงชิ่นหลิน คนขับรถแบคโฮ ที่เสียชีวิตในเหตุการณ์ดังกล่าว โดยคันแรก หมายเลขทะเบียน ขท-6333 นครราชสีมา ได้ถอยหลังนำร่างผู้เสียชีวิตเข้าจุดเก็บร่างก่อน พอขับออกไปหลังจากนั้นคันที่สอง ทะเบียน นค-4888 นครราชสีมาก็ถอยนำร่างที่สองเข้าห้องเก็บศพ โรงพยาบาลมหาราชนครราชสีมาซึ่งร่างทั้งสองเป็นชาวจีน ซึ่งร่างทั้งสองรายถูกบรรจุด้วยถุงมีซิพสีขาวห่อหุ้มมิดชิด มีเจ้าหน้าที่มูลนิธิสว่างเมตตาฯ ลำเลียงศพเข้าห้อง โดยไม่อนุญาตให้เข้าไปถ่ายภาพ หรือบันทึกภาพ เพื่อตรวจพิสูจน์ที่โรงพยาบาลมหาราชนครราชสีมา
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า โดยขณะที่หน่วยกู้ภัยสว่างเมตตาฯนำศพเข้าไปยังห้องดับจิตมีบรรดาชาวบ้านที่เดินทางเข้าไปยัง รพ.มหาราชนครราชสีมา รวมทั้งญาติผู้ป่วย ญาติๆที่มารอรับศพต่างให้ความสนใจยืนดูเหตุการณ์อยู่ห่างๆ พร้อมกับพูดคุยสอบถามเหตุการณ์ในเรื่องอุโมงค์ถล่มทำให้มีผู้เสียชีวิตทั้งหมด 3 ศพ ซึ่งต่างพูดถึงเรื่องการช่วยชีวิตช่วงแรก และเรื่องเครื่องสแกนสัญญาณชีพ และคนทที่ติดตามข่าวต่างก็ลุ้นและส่งกำลังใจไปช่วยให้รอดชีวิต แต่สุดท้ายก็มาเสียชีวิตทั้งหมด ซึ่งทุกคนก็ต่างแสดงความเสียใจให้เหตุการณ์นี้
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี