เผยไทม์ไลน์คลัสเตอร์ยาดองมรณะ 6 ศพ ที่แท้สองพี่น้องมือต้มเหล้าเถื่อน ติดหนี้ไม่มีเงินไปจ่ายเซลล์ที่ขาย"เอทานอล"กว่า 1  หมื่นบาท เลยหันไปใช้สูตรสยองนำ"เมทานอล"มาเป็นส่วนผสมแทน หวังลดต้นทุน ทำให้สิงห์ยาดองเสียชีวิต 6 ศพ

30 ส.ค.67 ที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) พล.ต.ต.นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ รอง ผบช.น.กล่าวถึงกรณีคลัสเตอร์ยาดองมรณะเสียชีวิต 6 ศพ ว่า นับตั้งแต่วันที่ 22 ส.ค.ที่ผ่านมา มีผู้เสียชีวิต 6 ราย ป่วย 43 ราย รักษาหายแล้ว 27 ราย รักษาอยู่โรงพยาบาล 6 แห่ง 10 ราย หลังเกิดเหตุ  ผบช.น.สั่งตั้งคณะพนักงานสืบสวนสอบสวน จากการสอบปากคำพยานบุคคล ผู้เกี่ยวข้อง รวมถึงผู้ต้องหา เจ้าหน้าที่กรมสรรพสามิต กองพิสูจน์หลักฐาน (พฐ.) และแพทย์ชันสูตรพลิกศพ สรุปไทม์ไลน์ดังนี้

บช.น.ตรวจสอบ 18 ซุ้มยาดอง พื้นที่มีนบุรี คลองสามวา ลาดกระบัง หนองจอก คันนายาว ประเวศ ได้ทำการตรวจยึดและนำพยาน (ผู้จำหน่ายปลายทาง)  มาสอบปากคำ ยืนยันว่ารับยาดองมาจาก เจ๊ปู จากการขยายผลทราบว่า รับสุราขาวมาจากนายสุรศักดิ์ หรือเอส อายุ 46 ปี และนายสุรชัย หรืออาร์ท อายุ 43 ปี สองพี่น้องมือต้มเหล้า  จึงทราบว่าเป็นคนที่รับเอทิลแอลกอฮอล์ (เอทานอล) มาผสม เพื่อให้เป็นสุราขาวก่อนนำไปขายให้ เจ๊ปู มีการทำมาอย่างต่อเนื่องเกือบปึ

โดยจับกุมตัวนายเอส และนายอาร์ท ได้ที่บ้านไม่มีเลขที่ ม.10 ต.บ่อตาโล่ อ.วังน้อย จ.พระนครศรีอยุธยา โดยทั้งสองถูกออกหมายจับในข้อเดียวกันคือ "ร่วมกันพยายามฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา ร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา , ร่วมกันปลอมปนอาหาร ยา หรือเครื่องอุปโภคบริโภคอื่นใดเพื่อบุคคลอื่นเสพหรือใช้ และการปลอมปนนั้นน่าจะเป็นเหตุให้เกิดอันตรายแก่สุขภาพ หรือจำหน่าย หรือเสนอขายสิ่งเช่นว่านั้นเพื่อบุคคลเสพหรือใช้จนเป็นเหตุให้ผู้อื่นได้รับอันตรายสาหัส และเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย และร่วมกันผลิตและจำหน่ายสุราโดยไม่ได้รับอนุญาต”

จากการสอบสวนทราบว่า สองพี่น้องไปรับเอทิลแอลกอฮอล์จากบริษัทแห่งหนึ่งที่ อ.บางเสาธง จ.สมุทรปราการ ส่วนผสมคือใช้เอทิลแอลกอฮอล์ 3 ถังแกลลอน ถังละ 20 ลิตร รวมแล้ว 60 ลิตร ผสมน้ำเปล่า 7 ถัง ถังละ 20 ลิตร รวม 140 ลิตร เอทิลแอลกอฮอล์กับน้ำเปล่ารวมกันได้ 200 ลิตร วัดความเข้มข้นให้ได้ 35 เปอร์เซ็นต์ เสร็จแล้วแบ่งใส่ 6 ถุง ถุงละ 30 ลิตร ส่งให้ เจ๊ปู ก่อนที่ เจ๊ปู จะนำมาผสมกับสมุนไพรที่ต้มไว้ขายให้ 18 ซุ้มยาดอง

พล.ต.ต.นพศิลป์ กล่าวต่อว่า ลอตที่มีปัญหาคือลอตที่รับมาในช่วงวันที่ 3, 11, 12 ส.ค. เป็นการไปรับเอทิลแอลกอฮอล์จาก อ.บางเสาธง ผสมจำหน่ายให้ เจ๊ปู ปรากฏว่า เจ๊ปู ได้สั่งเพิ่มในวันที่ 18, 20 ส.ค. ลอตดังกล่าว นายเอส กับ นายอาร์ท ไม่สามารถไปซื้อเอทิลแอลกอฮอล์จากบริษัทได้ เนื่องจากติดค้างเงินเซลล์ ประมาณ 10,000 บาท จึงไปจัดซื้อจัดหาเมทิลแอลกอฮอล์ (เมทานอล) มาทดแทน จนกลายเป็นจุดเริ่มต้นของเรื่องนี้ ตำรวจตรวจยึดถังที่บ้านของ นายเอส กับ นายอาร์ท พบเมทิลแอลกอฮอล์ค้างถังอยู่ ประมาณ 10 กว่าถัง

รวมทั้งเจอน้ำซึ่งอยู่ในขวด 500 มิลลิลิตร มีส่วนผสมของเมทิลแอลกอฮอล์ 13,075 มิลลิกรัม ไปค้นบ้าน เจ๊ปู เจอขวดมีส่วนผสมของเมทิลแอลกอฮอล์ 300 มิลลิลิตร มีความเข้มข้น 12,385 มิลลิกรัม รับมาจาก นายเอส กับ นายอาร์ท เชื่อได้ว่าลอตวันที่ 18 ส.ค. มีส่วนผสมของเมทิลแอลกอฮอล์ แล้วนำไปจำหน่ายให้ 18 ซุ้มยาดองในวันที่ 19 ส.ค. ลอตถัดมารับวันที่ 20 ส.ค. ไปจำหน่าย 21-22 ส.ค. มีคนเริ่มป่วย 22 ส.ค.

ต่อมา  บก.สส.บช.น.สามารถจับกุม นายเอส กับ นายอาร์ท นำตัวไป สน.มีนบุรี อยู่ระหว่างสอบสวนขยายผลว่า ไปซื้อเมทิลแอลกอฮอล์ลอตวันที่ 18 ส.ค.จากที่ไหน ขณะนี้รู้ต้นทางและกลางทางแล้ว ส่วนปลายทางทั้งหมด 18 จุด เร่งสอบปากคำ ขณะนี้ บช.น.สั่งการฝ่ายสืบสวนและปราบปราม ตรวจแหล่งจำหน่ายเหล้ายาดองพื้นที่กรุงเทพฯ ทั้งหมดทุกจุด พบจุดใดจับกุมตรวจยึดทำการตรวจสอบ

ทั้งนี้ จากเหล้าขาวและยาดองที่ยึดมาจากพื้นที่ต่าง ๆ จาก 6 เขต ในพื้นที่กรุงเทพมหานคร พบว่าค่าเมทานอลเกินค่ามาตรฐาน 5 จุด จุดแรกที่บ้านพักของ 2 พี่น้อง ในซอยกาญจนาภิเษก 25 พบค่าเมทานอล ประมาณ 13,075 มิลลิกรัมต่อลิตร, บ้านของนางสาวภัสส์รศา หรือ เจ๊ปู ผู้ผลิตยาดอง 12,385 มิลลิกรัมต่อลิตร ส่วนซุ้มหทัยราษฎร์ 33/ ซุ้มคลองสามวา 1 และซุ้มคลองสามวา 11/1 พบค่าเมทานอลเกิน 100,000 มิลลิกรัมต่อลิตร ซึ่งเดิมนั้นมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม (พ.ศ.2516) กำหนดไว้ว่าปริมาณเมทานอลในสุราทุกประเภท จะต้องไม่มีอยู่เลย

สำหรับสาเหตุที่ทำให้ค่าเมทานอลจากบ้านพักของ2 พี่น้อง ต่างจากซุ้มยาดองอาจเป็นไปได้ว่า เมทานอลที่พบจากบ้านพักของ 2 พี่น้อง เป็นเมทานอลที่ค้างอยู่ในถังอาจทำให้เกิดการเจือจาง สำหรับผลการตรวจเลือดของผู้เสียชีวิตและผู้ป่วยจากการดื่มสุราเถื่อน พบว่าค่าเมทานอลสูงสุดอยู่ที่ 124 มิลลิกรัมต่อลิตร ซึ่งเป็นผู้ป่วย ที่อยู่ระหว่างการรักษาและมีประวัติเคยดื่มยาดองจากซุ้มหทัยราษฎร์ 33