เมื่อวันที่ 1 กันยายน 2567 เพจเฟซบุ๊ก "ประชาสัมพันธ์ กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช" โพสต์ข้อความระบุว่า #เรื่องไม่ลับฉบับนักวิจัย...ไข่นั้นสำคัญไฉน ? เมื่อนักวิจัยเปรียบเทียบ "ไข่ บะลาโกล" กับเสือเจ้าถิ่น

สถานีวิจัยดงพญาเย็น-เขาใหญ่ เปิดเผยเรื่องราว เสือโคร่งบะลาโกล ระบุ หลังเสือโคร่งบะลาโกลโลดแล่นไปมาระหว่างปางสีดากับทับลาน จนล่าสุดพิกัดจากปลอกคอ บอกให้รู้ว่ามันวนเวียนอยู่ในทับลาน ซึ่งมีข้อมูลว่ามีเสือสาวน้อยกำลังเติบโตอยู่ในพื้นที่ข้างเคียงพื้นที่เป้าหมายที่ทีมวิจัยได้เล็งไว้ให้บะลาโกลลงหลักปักฐาน

การยึดพื้นที่ตั้งรกรากเพื่ออาศัยหากินและขยายพันธุ์นั้นเป็นเป้าหมายที่สำคัญของชีวิตเสือหนุ่มทุกตัวรวมถึงบะลาโกลด้วย

การล่าหากินเป็นทักษะเฉพาะตัวที่จะเพิ่มพูนตามประสบการณ์ที่มันได้เก็บเกี่ยวในช่วงเวลาของการเติบโต เมื่อพื้นที่มีเหยื่ออาศัยอยู่มันก็สามารถดำรงชีวิตให้อยู่รอดได้

ส่วนเรื่องการขยายพันธุ์ที่เป็นเรื่องใหญ่และสำคัญที่สุดของการเกิดเป็นเสือโคร่งตัวผู้ ซึ่งเป็นเหตุให้เกิดการแก่งแย่งพื้นที่เพื่อครอบครองตัวเมียให้ได้มากที่สุด ที่สามารถสื่อถึงความแข็งแกร่งของตัวผู้เองด้วย

สำหรับบะลาโกลแล้ว การยึดพื้นที่เพื่ออาศัยและหากินคงไม่ใช่เรื่องที่ลำบากยากเข็ญนัก เพราะว่าทับลานยังมีพื้นที่ว่างที่ไม่มีเสือโคร่งจับจองอาศัยอยู่

แต่ “คู่ครอง” ซึ่งเป็นเป้าหมายสูงสุดของชีวิตตัวผู้นั้น สำหรับบะลาโกลคงต้องใช้เวลาอีกพอสมควร เมื่อพิจารณาจากขนาดของ “ไข่” คู่ที่พกติดตัวออกไปจากป่าฝั่งตะวันตก

ลำพังคำบรรยายคงไม่สามารถจะทำให้เกิดภาพมโนในความคิดได้ ทางเพจสถานีวิจัยฯ จึงได้นำภาพไข่คู่ของ TLT102 ซึ่งเป็นว่าที่ พ่อตาในจินตนาการของบะลาโกล มาให้เห็นความแตกต่างที่ชัดเจน ของความยิ่งใหญ่ในความเป็นตัวผู้เต็มวัย ที่เสือสาวไหนๆคงยากที่จะปฏิเสธ

ย้อนมองที่โคนหางบะลาโกล คู่นั้น มันยังมีขนาดที่ไม่เป็นที่ต้องตาต้องใจของเสือสาวๆไหน ฉะนั้น คงต้องให้เวลาบะลาโกล ได้เติบโตในทุกๆมิติ จนกระทั่งในวันหนึ่ง ที่ถึงพร้อมทั้งความสมบูรณ์ของร่างกายและความอวบอูมของไข่คู่ คงจะได้รู้ว่าสาวไหนจะได้ครองใจบะลาโกล

ขอบคุณ : สถานีวิจัยสัตว์ป่าดงพญาเย็น-เขาใหญ่

- 006