วันที่ 2 กันยายน 2567 นางสาวเกตุสิริ  อายุ 30 ปีผู้เสียหายจากการถูกสามีทำร้ายร่างกายหลังแพ้พนันจนหมดตัวร้องนายเอกภพ เหลืองประเสิรฐ ผู้ก่อตั้งเพจสายไหมต้องรอด

นางสาวเกตุสิริ  เปิดเผยว่า เหตุเกิดเมื่อวันที่ 30 ส.ค. ตนมีปากเสียงกับสามี และจะเข้าห้องไปเก็บเสื้อผ้า แต่ฝ่ายชายไม่ให้ตนออกจากห้องก่อนจะตะโกนว่า"มึงจะไปใช่ไหม มึงจะไปใช่ไหม"และเริ่มทำร้ายตนทั้งเตะ ต่อย ตี บีบคอ โดยหลังจากนั้นตื่นได้ยกมือไหว้ และบอกให้พอแล้ว เจ็บแล้ว แต่ก็ยังไม่จบฝ่ายชายก็ยังกระทืบและตีตนไม่หยุด ตามเมื่อเห็นว่าตนเลือดออก ฝ่ายชายก็บอกว่า เห็นเลือดแล้วยิ่งชอบก่อนจะตีซ้ำอีกครั้งซึ่งตรไก้บอกไปอีกว่าพอแล้ว อย่ากลับบ้านไปหาแม่และลูก ไม่สงสารลูกบ้างเหรอ ก่อนที่ฝ่ายชายจะถือกระทะขึ้นมาขู่เพื่อที่จะทำร้ายตนอีกครั้ง

นางสาวเกตุสิริ เปิดเผยอีกว่า หลังจากนั้นตนไปนอนที่เตียงก็ไก้บอกฝ่ายชายว่า เจ็บมากไม่รู้ซี่โครงหักหรือเปล่า พาไปหาหมอหน่อย แต่ก็ไม่พาไป โดยฝ่ายชายบอกว่า ถ้าหักป่านนี้ตายไปแล้วไม่มานั่งแบบนี้หรอก พอกลับไปนอนที่เตียง ได้ยินเสียงกรนตนเลยคิดได้ว่าเขาน่าจะหลับสนิทแล้วจึงได้รีบหนีออกมาทางบันไดหนีไฟ ก่อนจะรีบวิ่งไปหานิติ และขอโทรศัพท์เพื่อโทรหาแม่ของตนก่อนจะบอกแม่ว่า "ไม่ไหวแล้ว พาไปหาหมอหน่อย" 

ในช่วงที่แอดมิทอยู่โรงพยาบาล 1 คืนก่อนจะหนีออกมาเพราะฝ่ายชายตามไปที่โรงพยาบาล และหลังจากที่ตนออกจากโรงพยาบาลป้าซึ่งอยู่เตียงข้างกันได้โทรมาหาแม่ของตนโดยบอกว่า มีผู้ชาย 2 คนมาถามหาตนก่อนรอสักพักนึงและได้เดินไปถามที่พยาบาลก่อนจะกลับไปเพราะตนได้ออกไปแล้ว

นางสาวเกตุสิริ เปิดเผยอีกว่า ตนคบกับสามีคนดังกล่าวมา 12 ปี ก่อนหน้าตนเคยโดนฝ่ายชายทำพฤติกรรมแบบนี้ครั้งนึงหลังแพ้พนันและก่อนหน้าตนได้เช็คการ์ดของสามีทำให้ทราบว่าเสียเงินไปกับการพนัน 1.6 ล้านบาทก่อนจะมีการขายบ้าน รถ และโทรศัพท์มือถือทั้งยังมีการยืมเงินตนกับแม่ แต่ก็ไม่คืน 

นางสาวเกตุสิริ กล่าวทิ้งท้ายว่า ตนรู้สึกกลัวไม่อยากให้เขาอยู่ข้างนอกเขาอาจกลับมาทำร้ายตนอีกจึงได้มาร้องสายไหมต้องรอดให้ช่วยเหลือในวันนี้ และขอร้องให้ฝ่ายชายหยุดเล่นพนัน หยุดทำร้ายครอบครัว กลับมามองคนที่บ้านบ้าง อย่ามองแต่ตัวเอง 

นายเอกภพ กล่าวว่า เนื่องจากเกิดเหตุในพื้นที่สนบางขุนเทียน และมีการแจ้งความไว้แล้ว ในวันนี้ต้นจะประสานทางผู้กำกับเพื่อขอให้เร่งสอบสวน เพราะตัวของผู้ก่อเหตุก็ยังตามหา ผู้เสียหาย ทั้งตัวผู้เสียหายเองก็รู้สึกกลัวมากเพราะฉะนั้นขอหยุดเถอะถ้าหากยังรักครอบครัว