‘ปภ.’เตือน64จังหวัดฝนหนัก

เสี่ยงท่วมฉับพลัน

กระทบทั่วไทยช่วง6-9กันยายน

ฤทธิ์‘ยางิ’ถล่มเหนือ-อีสาน

เชียงรายเรือจมสูญหาย2คน

ปภ.เตือน 64 จังหวัดฝนตกหนัก ระวังน้ำท่วมฉับพลัน-น้ำป่าไหลหลาก 6-9 กันยายนนี้ ด้านกรมอุตุฯ ชี้ทั่วไทยยังมีฝน ส่วนเหนือ-อีสาน ระวังฤทธิ์พายุ “ยางิ” ขณะที่เชียงราย เรือประมงจม รอด 3 สูญหาย 2 ราย

เมื่อวันที่ 5 กันยายน นายไชยวัฒน์จุนถิระพงศ์ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) เปิดเผยว่า กองอำนวยการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยกลาง (กอปภ.ก.) ติดตามสภาวะอากาศและพิจารณาปัจจัยเสี่ยง ประกอบกับกรมอุตุนิยมวิทยามีประกาศฉบับที่ 6 (165/2567) ลงวันที่ 4 กันยายน 2567แจ้งว่าพายุไต้ฝุ่น “ยางิ” บริเวณทะเลจีนใต้ตอนบน กำลังเคลื่อนตัวทางทิศตะวันตกค่อนทางเหนือเล็กน้อย คาดว่าช่วงวันที่ 6–7 กันยายน 2567 จะเคลื่อนผ่านเกาะไหหลำ สาธารณรัฐประชาชนจีน และขึ้นฝั่งบริเวณประเทศเวียดนาม จากนั้นจะอ่อนกำลังลงตามลำดับ ประกอบกับร่องมรสุมกำลังปานกลางพาดผ่านภาคเหนือตอนล่าง ภาคกลาง และภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และมรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังค่อนข้างแรงพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ภาคใต้ และอ่าวไทย ทำให้ประเทศไทยจะมีฝนเพิ่มขึ้น ฝนตกหนักถึงหนักมาก และลมกระโชกแรงในบางพื้นที่

สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยตอนบนมีกำลังค่อนข้างแรง โดยทะเลอันดามันมีคลื่นสูง 2-3 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงกว่า 3 เมตร ส่วนอ่าวไทยตอนบนมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงกว่า 2 เมตร โดยมีพื้นที่แจ้งเตือนสถานการณ์ระหว่างวันที่ 6 - 9 กันยายน 2567 ดังนี้พื้นที่เฝ้าระวังฝนฟ้าคะนองและลมกระโชกแรงภาคเหนือ 15 จังหวัด และภาคตะวันออกเฉียงเหนือ 7 จังหวัดพื้นที่เฝ้าระวังน้ำท่วมฉับพลัน และน้ำป่าไหลหลากภาคเหนือ 17 จังหวัด ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ 18 จังหวัด ภาคกลาง 18 จังหวัด และภาคใต้ 11 จังหวัด

ทั้งนี้ กอปภ.ก.ได้ประสานแจ้ง 64 จังหวัดภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง และภาคใต้ รวมถึงศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเขตในพื้นที่เสี่ยงภัยจัดเจ้าหน้าที่ติดตามปริมาณฝนและเฝ้าระวังสถานการณ์น้ำอย่างใกล้ชิดตลอด 24 ชั่วโมง โดยเฉพาะพื้นที่มีฝนตกหนักและพื้นที่มีฝนตกติดต่อกันเป็นเวลานาน พื้นที่จุดเสี่ยงที่เคยเกิดน้ำท่วมเป็นประจำ และพื้นที่ชุมชนเมืองที่เคยเกิดน้ำท่วมขังระบายไม่ทัน สำหรับสถานที่ท่องเที่ยวธรรมชาติ โดยเฉพาะถ้ำน้ำตก ถ้ำลอด

นอกจากนี้ขอให้เตรียมความพร้อมของเครื่องจักรกลสาธารณภัย รถปฏิบัติการ และเจ้าหน้าที่ชุดเผชิญสถานการณ์วิกฤต (ERT) พร้อมเข้าเผชิญเหตุและช่วยเหลือผู้ประสบภัยทันทีที่เกิดสถานการณ์ขึ้น รวมทั้งให้จังหวัดประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนติดตามข้อมูลสภาวะอากาศและข่าวสารจากทางราชการอย่างใกล้ชิด และแจ้งเตือนประชาชนที่อยู่ในพื้นที่เสี่ยงภัยทราบล่วงหน้าเพื่อให้เตรียมพร้อมรับมือสถานการณ์โดยปฏิบัติตามคำแนะนำจากทางราชการอย่างเคร่งครัด

ด้านกรมอุตุนิยมวิทยา พยากรณ์อากาศว่า ภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง ภาคตะวันออก และภาคใต้ฝั่งตะวันตกมีฝนตกหนักบางแห่ง ขอให้ประชาชนในบริเวณดังกล่าวระวังอันตรายจากฝนตกหนักและฝนที่ตกสะสม ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลาก โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่านและพื้นที่ลุ่ม รวมถึงระวังอันตรายจากลมกระโชกแรงที่อาจจะเกิดขึ้นทั้งนี้เนื่องจากมรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังค่อนข้างแรงพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทยและอ่าวไทย

สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยตอนบนมีกำลังค่อนข้างแรง โดยมีคลื่นสูง 2-3 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงกว่า 3 เมตร ส่วนอ่าวไทยตอนล่าง มีคลื่นสูง 1-2 เมตร ห่างฝั่งและบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงกว่า 2 เมตร ขอให้ชาวเรือในบริเวณดังกล่าวเดินเรือด้วยความระมัดระวังและหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง ส่วนเรือเล็กบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยตอนบนควรงดออกจากฝั่งจนถึงวันที่ 8 กันยายนนี้

อนึ่ง พายุไต้ฝุ่น “ยางิ” (YAGI) ปกคลุมบริเวณทะเลจีนใต้ตอนบน คาดว่าจะเคลื่อนผ่านเกาะไหหลำ ประเทศจีน และขึ้นฝั่งบริเวณประเทศเวียดนามตอนบน ช่วงวันที่ 6-7 กันยายน 2567 หลังจากนั้นจะอ่อนกำลังลงเป็นพายุโซนร้อน และพายุดีเปรสชันตามลำดับ ลักษณะเช่นนี้จะทำให้ภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบนมีฝนตกหนัก และลมกระโชกแรงบางแห่งช่วงวันที่ 7-8 กันยายน 2567

พยากรณ์อากาศสำหรับประเทศไทย ภาคเหนือ มีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 40 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง บริเวณ จ.น่าน ตาก และเพชรบูรณ์ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ มีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ40ของพื้นที่และมีฝนตกหนักบางแห่ง บริเวณ จ.นครพนม มุกดาหาร ยโสธร อำนาจเจริญ นครราชสีมา และอุบลราชธานี ภาคกลางมีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 60 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง บริเวณ จ.อุทัยธานี ลพบุรี สระบุรี และกาญจนบุรี ส่วน กทม.และปริมณฑล มีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 60 ของพื้นที่ภาคตะวันออก มีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ70ของพื้นที่และมีฝนตกหนักบางแห่ง บริเวณ จ.นครนายก ปราจีนบุรี จันทบุรี และตราด

ภาคใต้ (ฝั่งตะวันออก) มีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ60ของพื้นที่ ส่วนมากบริเวณ จ.เพชรบุรี ประจวบคีรีขันธ์ ชุมพร และสุราษฎร์ธานี ตั้งแต่ จ.สุราษฎร์ธานีขึ้นมา ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 20-35กม./ชม.ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร ห่างฝั่งและบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงกว่า 2 เมตร ตั้งแต่ จ.นครศรีธรรมราชลงไป ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-35 กม./ชม.ทะเลมีคลื่นสูง 1-2 เมตร ห่างฝั่งและบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงกว่า 2 เมตร ภาคใต้ (ฝั่งตะวันตก) มีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 70 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง บริเวณ จ.ระนอง พังงา และภูเก็ต

ที่ จ.เชียงราย วันเดียวกัน นายอุดม ปกป้องบวรกุล นายอำเภอเชียงของ รับแจ้งจากกำนัน ต.เวียง ว่ามีชาวบ้าน5 คน ซึ่งออกเรือหาปลาในแม่น้ำโขง ช่วงเวลา 05.00 น.โดยออกจากพื้นที่บ้านดอนมหาวัน ต.เวียง อ.เชียงของ จากนั้นได้ประสบเหตุเรือล่มกลางแม่น้ำโขง บริเวณท่าดูดทราย ฝั่งประเทศลาว ซึ่งเป็นพื้นที่เชื่อมต่อกับพื้นที่ ต.ศรีดอนชัย อ.เชียงของ และบ้านแจ่มป๋องต.หล่ายงาว อ.เวียงแก่น จ.เชียงราย อย่างไรก็ตาม เหตุที่เกิดขึ้น พบว่ามีผู้รอดชีวิต 3 ราย คือนายธนวัตร คำวิเศษ อายุ 29 ปี นายบุญรัตน์ เลิศตระกูล อายุ 36 ปี และนายสัมฤทธิ์ บุบผาอายุ 29 ปี ทั้งหมดถูกนำส่ง รพ.เชียงของ โดยยังมีผู้สูญหายอีก 2 ราย ทราบชื่อคือนายนัฐวัฒน์ภิชัย อายุ 29 ปี และนายอัสนัย สมปานวาง อายุ 42 ปี

ทั้งนี้ ภายหลังเกิดเหตุนายอุดม ได้ประสานงานหน่วยเรือรักษาความสงบเรียบร้อยตามลำน้ำโขง (นรข.) เชียงของ พร้อมด้วยกู้ภัย ลงพื้นที่จุดเกิดเหตุ เพื่อเร่งค้นหาผู้ที่ยังสูญหาย โดยพบว่าพื้นที่ดังกล่าวเป็นจุดที่มีน้ำเชี่ยวและน้ำวนหลายแห่ง รวมถึงน้ำมีความลึกมากทำให้ยากต่อการค้นหา

นายอุดม กล่าวว่า หลังจากเข้าตรวจสอบเหตุ เบื้องต้นได้รายงานให้กับ ผวจ.เชียงราย ทราบแล้วพร้อมทั้งประสานทาง นรข.และตำรวจน้ำ ซึ่งประจำการในพื้นที่ อ.เวียงแก่น จ.เชียงราย เร่งค้นหาผู้สูญหาย และประสานขอสนับสนุนชุดกู้ภัยทางน้ำ นำเรือจาก อ.เมือง จ.เชียงราย มาสแตนบายในพื้นที่ เพื่อร่วมค้นหาผู้สูญหายด้วยหลังจากนี้จะร่วมกับทางตำรวจสอบปากคำผู้ที่รอดชีวิตเกี่ยวกับสาเหตุที่เกิดเหตุดังกล่าว