6 กันยายน 2567 เมื่อกลางดึก 5 กันยายนที่ผ่านมา ร.ต.ท.เกรียงไกร ศรีไม้ ร้อยเวรสอบสวน สภ.คลองหลวง ได้รับแจ้งมีอุบัติเหตุรถเก๋งชนกันหลายคันทำให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิต บริเวณถนนบางขัน-หนองเสือ (บนสะพานข้ามแยกวัดพระธรรมกาย) ต.คลองสอง อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี จึงไปที่เกิดเหตุพร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ตำรวจจราจรสภ.คลองหลวง แพทย์นิติเวชโรงพยาบาลธรรมศาสตร์ เฉลิมพระเกียรติ รถกู้ชีพเทศบาลเมืองท่าโขลง เจ้าหน้าที่มูลนิธิร่วมกตัญญู

ที่เกิดเหตุพบเจ้าหน้าที่กู้ภัยกำลังปฐมพยาบาลผู้ได้รับบาดเจ็บเป็นผู้ชายกับผู้หญิง ทราบชื่อนางสาวผาติรัชต์ อายุ 35 ปี และนายอัยการ อายุ 32 ปี ซึ่งทั้งสองคนมากับรถเก๋ง ยี่ห้อฮอนด้าซีวิค สีขาว หมายเลขทะเบียน 2 กข 8582 กรุงเทพมหานคร สภาพด้านหน้าพังยับเยิน เจ้าหน้าที่มูลนิธิร่วมกตัญญูจึงนำผู้ได้รับบาดเจ็บทั้งสองคนส่งโรงพยาบาลไปก่อน

และภายในรถเก๋งมาสด้า หมายเลขทะเบียน 2 ขจ 2608 กรุงเทพมหานคร สภาพพังยับเยินพบผู้เสียชีวิตเป็นหญิง 1 ราย ทราบชื่อนางสาวนราทิพย์ อายุ 28 ปี ต.คลองควาย อ.สามโคก จ.ปทุมธานี สภาพศพเสียชีวิตอยู่ที่เบาะนั่งคนขับ และมีรถเก๋งยี่ห้อมาสด้า 2 หมายเลขทะเบียน กบ 380 สระบุรี ถูกชนพังเสียหายอีก 1 คัน โดยมีนายสุขสันต์ อายุ 31 ปี เป็นคนขับได้รับบาดเจ็บเล็กน้อย

จากการสอบถามนายสุขสันต์ สุขประเสริฐ อายุ 31 ปี คนขับรถเก๋งยี่ห้อมาสด้า 2 บอกว่าตนเองขับรถมาจากคลองห้ามุ่งหน้าถนนพหลโยธินเมื่อมาถึงที่เกิดเหตุ รถเก๋งฮอนด้าซีวิคได้เสียหลักข้ามเลยมาชนกับรถเก๋งมาสด้า ที่มีผู้เสียชีวิตขับอยู่ด้านหน้าตน จากนั้นรถเก๋งซีวิคก็หมุนมาชนรถของตนอีก 1 คัน

ส่วนนายทิวากร  อายุ 27 ปี แฟนผู้เสียชีวิตบอกว่า แฟนตนเองไปหาเพื่อนที่คลองหกกำลังจะกลับบ้านแถวตลาดพูลทรัพย์ โดยแฟนโทรศัพท์บอกว่ากำลังจะกลับแล้วจากนั้นก็เงียบหายไป หลังจากนั้นตนก็โทรศัพท์หาแฟนอีกครั้งว่าทำไมนานแล้วยังไม่ถึง จากนั้นก็มีกู้ภัยรับสายจึงทราบว่าแฟนของตนประสบอุบัติเหตุเสียชีวิต

ด้าน ร.ต.ท.เกรียงไกร ศรีไม้ ร้อยเวรสอบสวน สภ.คลองหลวง หลังจากตรวจสอบที่เกิดเหตุแล้วจึงบันทึกภาพไว้เป็นหลักฐานและจากการดูภาพกล้องหน้ารถของรถเก๋ง ยี่ห้อฮอนด้าซีวิค แล้วพบว่าขับมาด้วยความเร็ว 162 กิโลเมตรต่อชั่วโมง และเกิดเสียหลักชนรถของผู้เสียชีวิต จากนั้นก็หมุนไปชนรถอีก 1 คัน ส่วนผู้เสียชีวิตได้ให้เจ้าหน้าที่มูลนิธิร่วมกตัญญูนำส่งนิติเวชโรงพยาบาลธรรมศาสตร์ เฉลิมพระเกียรติและจะได้เชิญคนขับรถเก๋งกับคนนั่งข้างมาสอบปากคำอีกครั้งหนึ่ง