เผยความความจริงพระถูกรถชนมรณภาพกลางถนนที่แท้ "หลวงพ่อ" ขับรถยนต์ชนมอเตอร์ไซค์บาดเจ็บ 2 รายตกใจปิดไฟหน้ารถแล้วซิ่งหนี แต่เนื่องจากถนนมืดเกิดรถเสียหลักตกลงไปในคลอง คาดหนีตายขึ้นมาสลบกลางถนนถูกรถชนมรณภาพ แจ้งใครเป็นญาติติดต่อด่วน
วันนี้ (7 ก.ย.67) ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้าจากกรณีรถเก๋งชนพระภิกษุมรณภาพกลางถนน เหตุเกิดบนถนนนิตโย หมายเลข 22 สายอุดรสกล ขาเข้าตัว จ.อุดรธานี ก่อนถึงบ้านม่วง ต.หนองหาน อ.หนองหาน จ.อุดรธานี จนเป็นเหตุให้พระอุปคุปต์ อายุ 61 ปี อยู่ตามบัตรประชาชนอยู่บ้านคำสีดา หมู่ 3 ต.นาชุมแสง อ.ทุ่งฝน จ.อุดรธานีเสียชีวิต ใกล้ศพพบเหรียญ 5 บาทและแว่นตาคาดว่าเป็นของหลวงพ่อตกใกล้ที่เกิดเหตุ
ต่อมาตำรวจและแพทย์เวร รพ.หนองหาน ชันสูตรศพพบว่ามีร่องรอยถูกรถชนจนมรณภาพ แต่ยังไม่แน่ชัดว่าใครเป็นคนขับรถชนหรือพระเดินถนนให้รถชน ทั้งกู้ภัย ตำรวจพากันงงพระมรณภาพปริศนาถูกรถชน หลังชันสูตรได้นำศพไปไว้ที่ รพ.หนองหาน เพื่อให้ญาติติดต่อมารับศพต่อไป เหตุเกิดเมื่อเวลา 20.00 น.คืนวันที่ 6 ก.ย.67 ที่ผ่านมา
โดยนายพรชัย อายุ 48 ปี ชาว ต.ทุ่งแก อ.เจริญศิลป์ จ.สกลนคร คนขับรถเก๋งมิตซูบิชิมิราจ สีขาว บอกว่า ตนและภรรยากำลังขับรถเจ้าตัวเมืองอุดรธานี พอมาถึงที่เกิดเหตุเห็นพระนอนอยู่กลางถนน แต่บอกตรงๆ ตอนแรกไม่คิดว่าเป็นพระ นึกว่าเป็นสิ่งของหล่นหรือสุนัข จึงหักรถหลบ ทำให้รถเก๋งเสียหลักลงข้างทาง ตนและภรรยาไม่ได้รับบาดเจ็บ พอตั้งสติได้รีบออกมาจากรถพอมาดูตกใจแทบช็อคพบว่ามีพระภิกษุมรณภาพแล้ว ยืนยันไม่ได้ชนจนทำให้ท่านมรณภาพเพราะมีคนขับรถมาก่อนบอกว่าเห็นพระนอนกลางถนนอยู่แล้ว
ส่วนชาวบ้านก็พากันงง ช่วงนี้เป็นเข้าพรรษา พระท่านมาเดินในถนนกลางค่ำกลางคืนได้อย่างไร ยังพากันสงสัยพระท่านมาจากไหน แล้วท่านมาที่ตรงนี้ได้อย่างไร แถมชาวบ้านเหน็บหน่วยงานแขวงการทางหนองหาน 2 ตรงนี้มืดมากๆ แขวงการทาง อ.หนองหาน 2 พากันติดตั้งไฟส่องสว่างทางตลอดเส้นทางหนองหาน-อุดรธานียกเว้นจุดนี้จุดเดียว ที่ผ่านมามีอุบัติเหตุและมีวัยรุ่นปาก้อนหินในรถชาวบ้านเกิดขึ้นบ่อยครั้งอยากให้พิจารณาติดตั้งไฟส่องสว่างถนนเพิ่มด้วย
ล่าสุดเช้าวันนี้ (7ก.ย.67) ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า กู้ภัยส่งเสริมธรรมจุดบริการ อ.หนองหาน รับแจ้งจากชาวบ้านพบรถกระบะยี่ห้อ Toyota Mighty X สีบรอนซ์ทองทะเบียน อุดรธานีตกลงไปคลอง ร่องน้ำลึกประมาณ 3 เมตร ฝั่งตรงข้ามกับพระที่มรณภาพกลางถนน โดยด้านท้ายกระบะมีเครื่องอัฐบริขารทั้งบาตรพระสบง พัดลมและเครื่องใช้ต่างๆของพระภิกษุ และบริเวณด้านหน้าด้านซ้ายของรถกระบะมีร่องรอยถูกชนด้วย
ส.อ.เอกพันธ์ลายกิ่ง หัวหน้ากู้ภัยส่งเสริมธรรมจุดบริการหนองหาน บอกว่า เมื่อเช้านี้มีชาวบ้านมาพบรถกระบะตกลงข้างคลองคาดว่าเป็นของพระอุปคุปต์ที่มรณภาพถูกรถชนเมื่อคืนที่ผ่านมา โดยก่หนหน้านี้ประมาณ 1 ทุ่ม กู้ภัยก็ได้รับแจ้งมีอุบัติเหตุรถกระบะชนรถจักรยานยนต์มีผู้ได้รับบาดเจ็บ 2 ราย จากนั้นคนขับรถกระบะได้ปิดไฟหน้าขับรถหนีมุ่งหน้ามาทางหนองหานและคาดว่าเป็นพระภิกษุรูปนี้ที่ขับรถ แต่เนื่องด้วยท่านขับรถเองเห็นว่าขับมาไกลจากทางภาคเหนือ พอชนรถ จยย.หลวงพ่อจึงปิดไฟหน้าขับรถหนี ประกอบกับถนนมือจึงทำให้รถเสียหลักตกลงไปคลองข้างถนน
จากนั้นพระท่านได้คลานออกมาจากรถและได้รับบาดเจ็บด้วย เดินข้ามถนนเพื่อไปขอความช่วยเหลือกับคนที่ใช้รถสัญจรผ่านไปมา แต่คาดว่าท่านอาจจะได้รับบาดเจ็บและทราบว่าป่วยเป็นโรคแขนขาอ่อนแรง จึงทำให้นอนสลบกลางที่มืดๆ ทำให้คนขับรถที่สัญจรผ่านไปมามองไม่เห็นชนพระมรณภาพดังกล่าว ทราบว่าท่านจำพรรษาอยู่ที่ภาคเหนือและขับรถมาเองเพื่อมารักษาอาการแขนขาอ่อนแรงที่วัดคำสีดา ต.นาชุมแสง อ.ทุ่งฝน ที่ท่านเคยจำวัดอยู่แต่พอมาถึงที่เกิดเหตุเกิดรถไปชนกับรถจักรยานยนต์จึงทำให้พระตกใจปิดไฟหน้าซิ่งหนีดังกล่าว
โดยตอนนี้ยังไม่มีญาติติดต่อมาเรื่องศพหลวงพ่อ ทางกู้ภัยจึงประกาศตามหาญาติด่วน! ชื่อ พระชาญณรงค์ พันธุ์ยาง เปลี่ยนชื่อพระเป็น อุปคุปต์ พันธุ์ยาง อายุ 61 ปี บ้านเดิมอยู่บ้านเลขที่ 848 ม.1 อ.คลองขลุง จ.กำแพงเพชร และอีก 1 ที่อยู่ 160/1 ม.0 ซอยลาดพร้าว121 (สีวะรา) ต.คลองจั่น เขตบางกะปิ กรุงเทพมหานคร เพิ่งมาจำวัดที่วัดศรีดาราม อ.ทุ่งฝน จ.อุดรธานี ทางญาติ ติดต่อกลับมาเบอร์ 0899420431 ได้ตลอดเวลา - 003
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี