เด็ก 14 ฉุนเพื่อนรุ่นน้องวัย 12 แซวชื่อพ่อแม่ คว้าน้ำมันสาดจุดไฟเผาจนบาดเจ็บ โชคดีไหวตัวโดนลงสระน้ำทัน คาดรู้เท่าไม่ถึงการณ์ เจ้าตัวเผยพร้อมให้อภัยเพื่อนรัก ส่วนค่าใช้จ่ายเป็นเรื่องของผู้ใหญ่จะคุยกัน หลังผู้ปกครองฝ่ายผู้เสียหายเข้าแจ้งความไว้เป็นหลักฐานแล้ว

กรณีเกิดเหตุการณ์เด็กชายจำนวน 4 คน อายุระหว่าง 12-14 ปี ชักชวนกันไปเล่นตกปลาที่สระน้ำแห่งหนึ่ง ในพื้นที่บ้านนาโสก หมู่ 10 ต.เวินพระบาท อ.ท่าอุเทน จ.นครพนม จะด้วยความคึกคะนอง หรือรู้เท่าไม่ถึงการณ์ เมื่อเด็กชายวัย 14 ปี นำน้ำมันเบนซินที่ดูดออกมาจากถังรถจักรยานยนต์ใส่ขวดพลาสติก มาราดใส่เสื้อน้องวัย 12 ปีแล้วจุดไฟแช็คเผา เคราะห์ดีที่น้องมีไหวพริบวิ่งโดดลงสระน้ำ ทำให้บาดแผลพุพองบริเวณหน้าอก และเพื่อนได้นำตัวมานอนดูอาการในห้องพัก แต่น้องผู้บาดเจ็บร้องดิ้นโอดโอยปวดแสบปวดร้อนนานนับชั่วโมง กว่าจะมีเจ้าของบ้านมาพบ และรีบนำตัวส่งโรงพยาบาลนครพนม เหตุเกิดเมื่อประมาณ 17.30 น. วันที่ 6 กันยายน 2567 ที่ผ่านมา

ล่าสุด วันที่ 7 กันยายน 2567 ผู้สื่อข่าวเดินทางไปตรวจสอบข้อเท็จจริง ยังจุดที่เกิดเหตุพบน้องทิกเกอร์ (นามสมมติ) อายุ 14 ปี นักเรียนชั้น ม.3 โรงเรียนแห่งหนึ่งในเขตเทศบาลเมืองนครพนม และเป็นลูกชายเจ้าของสระน้ำ พร้อมกับเพื่อนคู่หูชื่อน้องนนท์ (นามสมมติ) อายุ 13 ปี นักเรียนชั้น ม.2 โรงเรียนประจำ ต.อาจสามารถ อ.เมืองนครพนม โดยทั้งคู่เป็นผู้อยู่ในเหตุการณ์ดังกล่าว โดยน้องทิกเกอร์ เล่าว่า คนที่บาดเจ็บจากการถูกเพื่อนเอาน้ำมันราดคือน้องนะโม อายุ 12 ปี เป็นเพื่อนที่อยู่บ้านห้อม หมู่ 1 ต.อาจสามารถ อ.เมืองนครพนม ส่วนคนที่เป็นมือราดน้ำมันชื่อน้องปาล์มมี่ อายุ 14 ปี เป็นคนตำบลเดียวกับน้องนะโมคนเจ็บ

น้องทิกเกอร์ บอกว่า ที่รู้จักกัน ทั้งที่อยู่คนละหมู่บ้าน เพราะมีเขตติดต่อกันห่างเพียงแค่ 4-5 กิโลเมตรเท่านั้น เนื่องจากชื่นชอบการเล่นฟุตบอลเหมือนกัน และมักจะชวนไปเล่นฟุตบอลในทีมเดียวกันบ่อยๆ จึงมีความสนิทสนม โดยกลุ่มเพื่อนจะชอบมาเล่นที่สระน้ำแห่งนี้ เพราะนอกจากได้เล่นพักผ่อนแล้ว ยังนำเบ็ดมาตกปลาก่อไฟปิ้งกินกันด้วยเสมอ

ก่อนเกิดเหตุในช่วงเช้าน้องปาล์มมี่ขี่รถจักรยานยนต์มากับน้องนะโม ขณะที่น้องทิกเกอร์และน้องนนท์ในฐานะเจ้าบ้าน ก็พากันไปตกปลาในสระที่อยู่ท้ายหมู่บ้านนาโสกเหมือนที่ผ่านมา ซึ่งน้องทิกเกอร์ยอมรับว่า มีการสูบบุหรี่กันด้วย โดยจะแอบไปสูบในห้องส้วม ที่ไม่มีหลังคาปกคลุม ครั้งนี้ก็เช่นกันหลังเหนื่อยจากตกปลา ก็มานั่งล้อมวงสูบบุหรี่ พูดคุยกันหลายเรื่อง จู่ๆน้องปาล์มมี่ก็ลุกออกไปสักพัก กลับเข้ามาอีกครั้งในมือถือถือขวดพลาสติก คล้ายขวดนมเปรี้ยวยี่ห้อหนึ่ง ซึ่งไม่รู้ว่าในนั้นเป็นอะไร น้องปาล์มมี่ได้สาดน้ำในขวดใส่ตัวน้องนะโม แล้วใช้ไฟแช็คจุด ไฟก็ลุกพรึ่บที่เสื้อน้องนะโม ซึ่งน้องนะโมมีสติรีบลุกวิ่งไปโดดน้ำที่สระ ก่อนจะคลานขึ้นมายังฝั่ง พร้อมกับร้องครวญครางว่าเจ็บที่หน้าอก พวกตนจึงนำตัวไปนอนพักในห้อง โดยน้องนะโมร้องดิ้นทุรนทุราย กระทั่งพ่อของตนกลับมาจากทำงาน เห็นสภาพน้องนะโมแล้วก็ตกใจรีบนำตัวส่งโรงพยาบาลทันที โดยน้องทิกเกอร์ยืนยันว่าทั้งน้องปาล์มมี่ผู้ก่อเหตุ กับน้องนะโมคนเจ็บเป็นเพื่อนรักกัน ไม่เคยมีเรื่องบาดหมางแต่อย่างใด

ด้าน นายสุริยนต์ วารี อายุ 44 ปี พ่อของทิกเกอร์และเป็นเจ้าของสระน้ำที่มีเนื้อที่กว้างประมาณ 10 ไร่ เปิดเผยว่า ที่ตรงนี้ปลูกบ้านหลังเล็กๆไว้สำหรับพักผ่อน ในสระมีปลาหลายชนิดมาก และให้เพื่อนฝูงรวมถึงลูกหลานมาตกปลาผ่อนคลายความเครียด และไม่คิดว่าจะเกิดเหตุการณ์เช่นนี้ เพราะเด็กทั้งหมดสนิทกัน ชอบนัดรวมตัวมาเล่นที่นี่ประจำ จนกลับจากเลิกงานตอนเย็น เห็นน้องนะโมนอนห่มผ้าร้องด้วยความเจ็บปวด ถามใครก็ไม่มีใครตอบ พวกเด็กคงจะกลัวความผิด ตนจึงไปเปิดผ้าห่มเห็นแผลพุพองที่อกก็ตกใจ รีบนำตัวส่งโรงพยาบาล และติดต่อพ่อแม่ของคนเจ็บให้ไปดูอาการ ส่วนน้องปาล์มมี่คนก่อเหตุมีสีหน้าตื่นตระหนก ลุกลี้ลุกลนตลอดเวลา  หลังทราบว่าเพื่อนปลอดภัยก็หลบหายไป เชื่อน้องเขาคงกลัวความผิด

ต่อมา ผู้สื่อข่าวไปเยี่ยมอาการบาดเจ็บของน้องนะโม ที่หอผู้ป่วยศัลยกรรมเอื้ออารีย์ ตึก 62 ปี โรงพยาบาลนครพนม พบนายสนั่น พันแดง อายุ 56 ปี ได้คอยเฝ้าดูอาการของลูกชาย เปิดเผยว่า ตนมีอาชีพหาปลาน้ำโขง มีลูกชายเพียงคนเดียว เรียนหนังสืออยู่ชั้น ป.6 โรงเรียนเอกชนในเขตเทศบาลเมืองนครพนม ไม่คิดว่าเพื่อนจะเล่นรุนแรงถึงขนาดนี้ อีกทั้งก็ยังไม่เห็นคู่กรณีมาเยี่ยม หรือแสดงความรับผิดชอบอะไร ซึ่งตนได้ไปแจ้งความกับพนักงานสอบสวน สภ.ท่าอุเทน ไว้เป็นหลักฐานแล้ว

ทางด้านน้องนะโมที่นอนอยู่บนเตียงคนไข้ ที่หน้าอกมีผ้าปิดแผลแผ่นใหญ่ปิดไว้ ซึ่งยังคงมีอาการปวดตึงที่แผลและมีไข้ต่ำๆ แต่พอจะเล่าถึงสาเหตุได้ว่า เกิดจากการล้อชื่อพ่อชื่อแม่กันไปมา ไม่คิดว่าปาล์มมี่เพื่อนรักจะอารมณ์ฉุนเฉียว เอาน้ำมันเบนซินมาสาดใส่แล้วจุดไฟเผา  เมื่อถามว่าโกรธไหมน้องนะโมพยักตอบ แต่พร้อมที่ให้อภัยเพื่อน ส่วนเรื่องค่ารักษาก็ให้เป็นเรื่องของผู้ใหญ่คุยกัน