ในช่วงปี 2023-2024 (2566-2567) ที่ผ่านมา ผู้เขียนได้มีโอกาสทำงานร่วมกับกระทรวงวัฒนธรรมในการจัดทำแผนขับเคลื่อน Soft power ในมิติด้านวัฒนธรรมของประเทศ จึงอยากสรุปสาระสำคัญให้ผู้อ่านได้ทราบถึงแนวทางการขับเคลื่อนโดยแผนฉบับนี้มีการศึกษาข้อมูลอย่างเป็นระบบ โดยกรอบแนวคิดในการรวบรวมข้อมูลทั้งแบบภายนอกสู่ภายใน (Outside in) เพื่อเปิดกว้างรับมุมมองต่างๆ และแบบภายในสู่ภายนอก (inside out) เพื่อค้นหาความเป็นไทยที่ควรถูกผลักดัน
โดยในส่วน Outside in จะประกอบด้วยการสำรวจความคิดเห็นชาวต่างชาติ 12 ประเทศ 7 ภูมิภาคทั่วโลกจำนวน 3,600 ตัวอย่าง และการศึกษา Best practices ประเทศที่ประสบความสำเร็จในการขับเคลื่อน Soft power อาทิ ญี่ปุ่นที่มี Campaign Cool japan ผ่าน มังงะ อาหาร หรือเกาหลีใต้ที่มี Hallyu (Korean wave) ผ่าน Kpop Kbeauty Kfood เป็นต้น หรืออย่างอังกฤษ ที่โดดเด่นเรื่องฟุตบอลและการศึกษา เป็นต้น
ในขณะที่การรวบรวมข้อมูลแบบ inside out จะมาจากการสัมภาษณ์เชิงลึกผู้เชี่ยวชาญที่มีบทบาทในการขับเคลื่อน Soft power ของประเทศทั้งภาครัฐและเอกชนจำนวน 21 ท่าน และมีการจัดประชุมกลุ่มเป้าหมายในแต่ละภูมิภาคจำนวน 7 ครั้ง เพื่อรวบรวมปัญหาอุปสรรคและการสนับสนุนที่ต้องการ ข้อมูลที่ได้จากการรวบรวมดังกล่าวได้ถูกนำมาจัดทำการวิเคราะห์ SWOT โดยจัดกลุ่มตามประเด็นสำคัญ 4 ด้าน ได้แก่ ทุนทางวัฒนธรรม การสร้างมูลค่าเพิ่ม การโน้มน้าวและโครงสร้างพื้นฐาน
จากการวิเคราะห์ SWOT สามารถสรุปประเด็นเชิงกลยุทธ์ของ Soft power ประเทศไทยออกเป็น 3 กลุ่ม 1.Strategic advantage (ศักยภาพเชิงยุทธศาสตร์) ที่เกิดจากจุดแข็งที่โดดเด่นของไทยคือการมีทุนทางวัฒนธรรมที่หลากหลายตอบโจทย์ใน segment กลุ่มต่างๆ ได้ครอบคลุม รวมถึงคนไทยมีคุณลักษณะที่เป็นที่ชื่นชอบ เช่น มีความเป็นมิตร เปิดกว้าง ยอมรับในความแตกต่าง
2.Strategic challenges (ความท้าทายเชิงยุทธศาสตร์) อันเกิดจากปัญหาเศรษฐกิจชะลอตัวทั้งในและต่างประเทศ ปัญหาภาพลักษณ์เชิงลบบางประการของประเทศ เช่น ด้านความปลอดภัยและการหลอกลวงนักท่องเที่ยว รวมถึงทัศนคติของผู้มีส่วนได้เสียโดยเฉพาะกลุ่มคนรุ่นใหม่ที่ยังขาดความเชื่อมั่นว่าวัฒนธรรมหรือภูมิปัญญาท้องถิ่นในจะถูกนำมาให้เกิดเป็นอาชีพที่เลี้ยงตัวเองได้ทำให้ขาดความสนใจ รวมถึงยังมีประเด็นความพร้อมของโครงสร้างพื้นฐานและระบบนิเวศ (Ecosystem)
3.Strategic opportunities (โอกาสเชิงยุทธศาสตร์) จาการสำรวจ Global survey พบว่ามีประเทศใหม่ๆ สำหรับ Soft power ไทย อาทิ กลุ่มตะวันออกกลางที่มีทัศนคติที่ดีต่อไทยและมีฐานะทางเศรษฐกิจที่ดี นอกจากนี้ควรส่งเสริมการสอดแทรกความคิดสร้างสรรค์และนวัตกรรมเพื่อเพิ่มมูลค่า อาทิการส่งเสริมการประกวดรางวัล design ในระดับนานาชาติ รวมถึงการส่งเสริม Food tech Travel tech และอีกประเด็นคือการใช้ประโยชน์ช่องทาง Social media ecommerce และ streaming platform ต่างๆ เพื่อสร้างกระแสให้ Soft power ไทยเพิ่มมากยิ่งขึ้น
จากประเด็นเชิงกลยุทธ์ข้างต้น ทางผู้เขียนได้สังเคราะห์ข้อมูลและสามารถสรุปเป้าหมายเชิงยุทธศาสตร์การขับเคลื่อน 4 ด้าน ได้แก่ 3.1 การเสริมสร้างระบบนิเวศเพื่อการสนับสนุนการขับเคลื่อน Soft power (Strengthen Ecosystem) ตั้งแต่ต้นน้ำที่เกี่ยวข้องกับทุนทางวัฒนธรรม การสร้างมูลค่าเพิ่ม และช่องทางในการประชาสัมพันธ์ โดยมีโครงการขับเคลื่อนสำคัญ ได้แก่ การขึ้นทะเบียนมรดกวัฒนธรรมเพิ่มเติม โครงการ 1 อำเภอ 1 ผลิตภัณฑ์สร้างสรรค์ และการสร้าง one stop service สำหรับผู้ประกอบการ
3.2 การปรับเปลี่ยนผู้คน (Transform people) โดยการสร้างประสบการณ์ตั้งแต่ระดับเยาวชน เพิ่มความรู้ทักษะให้ประชาชน รวมถึงสร้างเส้นทางอาชีพที่เข้มแข็งเลี้ยงดูตัวเองได้ โดยมีโครงการสำคัญ อาทิ การสร้าง playground อาชีพด้าน Soft power ให้กับเยาวชน หลักสูตรอาชีพ soft power สำหรับประชาชน และการส่งเสริมให้ผู้ประกอบการต่างชาติเข้ามาตั้งสำนักงานเพื่อเส้นทางอาชีพและถ่ายทอด know how
3.3 การเสริมสร้างภาพลักษณ์ประเทศ (Build trust and reputation) โดยเสริมประเด็นเชิงรับ เช่น เรื่องความปลอดภัยและความซื่อตรงกับนักท่องเที่ยว รวมถึงประเด็นเชิงรุกโดยนำ trend ความเป็นสากลต่างๆ เช่น Sustainability และ diversity เข้ามาผนวกในการนำเสนอ soft power ไทย และ 3.4 การผลักดัน Soft power ไทยสู่สากล (Inspire the world) โดยการผลักดันอุตสาหกรรมเรือธง (Flagship sectors)
ได้แก่ ภาพยนตร์และดนตรี ที่เป็นจุดในการสร้างฐาน fan club และสามารถผนวก Sectors ศักยภาพอื่นๆ เข้าไปได้ง่าย รวมถึงการส่งเสริมการประกวดรางวัลระดับนานาชาติใน Sector ศักยภาพต่างๆ และการรุกตลาดใหม่ผ่านการสนับสนุน Influencers ของประเทศดังกล่าวให้เข้ามาทำ contentในประเทศไทย และการเป็นศูนย์กลางจัดงานระดับนานาชาติเพื่อเผยแพร่ความเป็นไทยสู่สากล
โดยสรุปแล้วทางผู้เขียนเชื่อว่า แผนฉบับนี้จะเป็นจุดเริ่มต้นที่สำคัญและเป็นแกนหลักในการขับเคลื่อนและการยกระดับ การบูรณาการการขับเคลื่อนทั้งในระดับประเทศ เพื่อให้ Soft power สามารถสร้าง fan club ประเทศไทยและตั้งเป้าการขับเคลื่อนมูลค่า Soft power ไทยเพิ่มขึ้นร้อยละ 25ในปี 2570 โดยลำดับถัดไปควรมีแผนขับเคลื่อนราย Sector ทั้ง 11 สาขา เพื่อทำให้เกิดการขับเคลื่อนอย่างเป็นรูปธรรมต่อไป!!!
หมายเหตุ : บทความนี้เขียนโดย ดร.มยุขพันธุ์ ไชยมั่นคง Project Director Sasin Management Consulting (SMC) สถาบันบัณฑิตบริหารธุรกิจ ศศินทร์ แห่งจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี