ปภ.เตือนเหนือ-อีสานยังมีฝน
ระวังท่วมฉับพลัน
อุตุฯชี้พายุ‘ยางิ’อ่อนกำลังลง
‘สุโขทัย’อ่วมนายมเพิ่มสูง
‘อยุธยา’เร่งขนของหนีน้ำ
ปภ.เตือนภาคเหนือ-อีสาน เฝ้าระวังฝนฟ้าคะนอง น้ำท่วมฉับพลัน ด้านกรมอุตุฯ ออกประกาศเรื่องพายุ “ยางิ” อ่อนกำลังแต่ยังกระทบเหนือ-อีสาน มีฝนตกหนัก ส่วน จ.สุโขทัย น้ำยมเพิ่ม ท่วมสูง 3 เมตร ขณะที่ชาวกรุงเก่ายังอ่วม เขื่อนเจ้าพระยา ระบายน้ำต่อเนื่อง ส่งผลที่ลุ่มถูกท่วม ชาวบ้านต้องขนของหนีน้ำ
เมื่อวันที่ 8กันยายน กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) กระทรวงมหาดไทย แจ้งเตือนภัย ดังนี้ พื้นที่เฝ้าระวังฝนฟ้าคะนองและลมกระโชกแรงใน 2ภาค คือภาคเหนือ ได้แก่ จ.เชียงใหม่ เชียงราย พะเยา น่าน แพร่ อุตรดิตถ์ พิษณุโลก ตาก กำแพงเพชร และเพชรบูรณ์ และภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ได้แก่ จ.เลย หนองคาย บึงกาฬ สกลนคร นครพนม และมุกดาหาร ดังนั้นจึงขอให้ติดตามข้อมูลข่าวสารจากทางราชการ หลีกเลี่ยงการอยู่ในที่โล่งแจ้งใต้ต้นไม้ใหญ่ ป้ายโฆษณาและสิ่งปลูกสร้างที่ไม่แข็งแรง รวมถึงให้ระวังอันตรายจากฟ้าผ่า
ส่วนพื้นที่เฝ้าระวังน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และน้ำท่วมขังในระยะสั้น ดังนี้ ภาคเหนือ จ.เชียงราย (อ.เชียงแสน พญาเม็งราย) พะเยา (อ.ปง) น่าน (อ.สองแคว ทุ่งช้าง เฉลิมพระเกียรติ ปัว) และตาก (อ.ท่าสองยาง) ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ จ.บึงกาฬ (อ.บุ่งคล้า เซกา) นครพนม (อ.เมือง ปลาปาก) และสกลนคร (อ.เมือง) สำหรับพื้นที่เฝ้าระวังน้ำล้นตลิ่ง น้ำท่วมขัง ดังนี้ ภาคเหนือ จ.เชียงราย (อ.ขุนตาล พญาเม็งราย) สุโขทัย (อ.ศรีสำโรง คีรีมาศ กงไกรลาศ) พิษณุโลก (อ.เมือง บางระกำ พรหมพิราม) และนครสวรรค์ (อ.ชุมแสง) ภาคกลาง จ.สุพรรณบุรี (อ.เมือง) อ่างทอง (อ.ป่าโมก วิเศษชัยชาญ) พระนครศรีอยุธยา (อ.บางบาล บางปะหัน เสนา ผักไห่ พระนครศรีอยุธยา บางปะอิน บางไทร) และนครปฐม (อ.บางเลน)
ทั้งนี้ ปภ.ขอให้ติดตามข้อมูลข่าวสารจากทางราชการ ระวังอันตรายจากสัตว์และแมลงมีพิษ อันตรายจากกระแสไฟฟ้าโดยเฉพาะบริเวณน้ำท่วมแนวสายไฟฟ้า เสาไฟฟ้า หรือวัตถุสื่อนำกระแสไฟฟ้า ระวังการขับขี่พาหนะบริเวณน้ำไหลผ่านทาง เพื่อความปลอดภัยควรงดการท่องเที่ยวในพื้นที่ถ้ำและน้ำตก
นอกจากนี้พื้นที่เฝ้าระวังคลื่นลมแรงโดยคลื่นสูง 2-3 เมตร/ฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงกว่า 3 เมตร ได้แก่ ภาคกลาง จ.ชลบุรี (อ.เมือง ศรีราชา เกาะสีชัง บางละมุง สัตหีบ) ระยอง (อ.เมือง บ้านฉาง แกลง) จันทบุรี (อ.นายายอาม ท่าใหม่ แหลมสิงห์ ขลุง) และตราด (อ.เมือง แหลมงอบ คลองใหญ่ เกาะช้าง เกาะกูด) ภาคใต้ จ.ระนอง (อ.เมือง สุขสำราญ กะเปอร์) พังงา (อ.เกาะยาว ตะกั่วทุ่ง ท้ายเหมือง ตะกั่วป่า คุระบุรี) ภูเก็ต (ทุกอำเภอ) กระบี่ (อ.เมือง คลองท่อม เกาะลันตา เหนือคลอง อ่าวลึก) ตรัง (อ.กันตัง สิเกา ปะเหลียน หาดสำราญ) และสตูล (อ.เมือง ละงู ท่าแพ ทุ่งหว้า) ขอให้ประชาชนติดตามข้อมูลข่าวสารจากทางราชการ ระวังอันตรายจากคลื่นลมแรง ควรเดินเรือด้วยความระมัดระวัง หลีกเลี่ยงบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง และเรือเล็กควรงดออกจากฝั่ง ส่วนนักท่องเที่ยวควรงดเล่นน้ำทะเล และเฝ้าระวังสิ่งปลูกสร้างที่อยู่บริเวณชายทะเล เพราะอาจจะได้รับผลกระทบจากคลื่นที่ซัดเข้าฝั่ง
ด้านกรมอุตุนิยมวิทยา ออกประกาศเรื่อง พายุ “ยางิ” ฉบับที่ 20ระบุว่าพายุโซนร้อนกำลังแรง “ยางิ” บริเวณเมืองนิญบิ่ญ ประเทศเวียดนามได้อ่อนกำลังลงเป็นพายุโซนร้อนแล้ว มีความเร็วลมสูงสุดใกล้ศูนย์กลางประมาณ 65 กิโลเมตรต่อชั่วโมง พายุนี้กำลังเคลื่อนตัวทางทิศตะวันตก ด้วยความเร็วประมาณ 10 กิโลเมตรต่อชั่วโมง คาดว่าจะอ่อนกำลังลงเป็นพายุดีเปรสชันและหย่อมความกดอากาศกำลังแรงตามลำดับ ลักษณะเช่นนี้ยังคงทำให้ภาคเหนือ และภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบนมีฝนตกหนักถึงหนักมาก กับมีลมกระโชกแรงบางแห่ง
อนึ่ง มรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังค่อนข้างแรงพัดปกคลุมทะเลอันดามันตอนบน ประเทศไทย และอ่าวไทยตอนบนลักษณะเช่นนี้ทำให้ภาคตะวันออก และภาคใต้ฝั่งตะวันตกมีฝนตกหนักบางแห่ง ขอให้ประชาชนในบริเวณดังกล่าวระวังอันตรายจากฝนตกหนักและฝนที่ตกสะสมซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลาก โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่านและพื้นที่ลุ่ม
ส่วนคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันตอนบนและอ่าวไทยตอนบนมีกำลังค่อนข้างแรง โดยมีคลื่นสูง 2-3 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงกว่า 3เมตร ส่วนทะเลอันดามันตอนล่างและอ่าวไทยตอนล่างมีคลื่นสูง 1-2 เมตร ห่างฝั่งและบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงกว่า 2 เมตร ขอให้ชาวเรือในบริเวณดังกล่าวเดินเรือด้วยความระมัดระวังและหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง สำหรับเรือเล็กบริเวณทะเลอันดามันตอนบนและอ่าวไทยตอนบนควรงดออกจากฝั่งต่อไปอีก 1วัน จึงขอให้ประชาชนติดตามประกาศจากกรมอุตุนิยมวิทยา และสามารถติดตามข้อมูลที่เว็บไซต์กรมอุตุนิยมวิทยา
ที่ จ.สุโขทัย ผู้สื่อข่าวรายงานสถานการณ์น้ำท่วม ว่าส่วนใหญ่พื้นที่ซึ่งเคยถูกน้ำท่วม ระดับน้ำที่เคยท่วมขังใน อ.ศรีสัชนาลัย อ.ศรีนคร อ.สวรรคโลก อ.ศรีสำโรง อ.เมืองได้ลดลงจนเข้าสู่สภาวะปกติ ประชาชนสามารถเข้าไปทำความสะอาดบ้านเรือนตนเองได้บ้างแล้ว แต่ยังคงมีบางพื้นที่ซึ่งอยู่ในระดับต่ำเป็นแอ่งกระทะ น้ำยังไม่สามารถระบายออกได้ และยังมีน้ำท่วมขังอยู่บ้าง
ขณะที่ อ.กงไกรลาศที่เป็นอำเภอสุดท้ายใน จ.สุโขทัย น้ำยมไหลผ่านก่อนจะไหลลงสู่ทุ่งบางระกำ อ.บางระกำ จ.พิษณุโลก ยังมีหลายพื้นที่ของ อ.กงไกรลาศ ซึ่งอยู่ติดสองฝั่งแม่น้ำยม ประสบปัญหาน้ำล้นตลิ่งไหลเข้าท่วมบ้านเรือนและพื้นที่การเกษตร โดยเฉพาะที่ชุมชนเกาะกง หมู่ 1 ต.กง อ.กงไกรลาศ ซึ่งเป็นชุมชนอยู่ใกล้แม่น้ำมาก ชาวบ้านส่วนใหญ่มีอาชีพประมง น้ำในแม่น้ำยมได้เอ่อล้นเพิ่มสูงขึ้น จากระดับพื้นบ้านด้านล่างถูกน้ำท่วมสูงเกือบ 3 เมตร ชาวบ้านกว่า 50 หลังคาเรือน ได้รับความเดือดร้อน เสมือนถูกตัดขาดจากโลกภายนอก ต้องใช้เรือพายสัญจรไปมาแทน
ชาวบ้านที่เกาะกงรายหนึ่ง เล่าว่า ตั้งแต่เกิดมาจนปัจจุบัน เห็นชุมชนเกาะกงประสบปัญหาน้ำท่วมเป็นประจำทุกปี เสมือนอยู่บนเกาะจริงๆ ปีนี้ระดับน้ำสูงมาก ถ้าน้ำในแม่น้ำยมยังไหลมาเพิ่มอีก หรือมีฝนตกซ้ำลงมาอีก ระดับน้ำก็จะเพิ่มสูงขึ้นมากกว่านี้ ชาวบ้านบางหลังอาจจะต้องย้ายออกไปอยู่บ้านญาติด้านนอกเป็นการชั่วคราวไปก่อนจนกว่าระดับน้ำจะลดลง
ส่วนที่ จ.พระนครศรีอยุธยา ผู้สื่อข่าวรายงานถึงสถานการณ์น้ำท่วม ว่าเขื่อนเจ้าพระยา คงการระบายน้ำลงสู่พื้นที่ท้ายเขื่อนในอัตราที่ 1,498 ลูกบาศก์เมตร (ลบ.ม.)/วินาที เป็นวันที่ 5 ส่งผลให้ระดับน้ำในแม่น้ำเจ้าพระยา แม่น้ำน้อย คลองสาขาต่างๆ ที่รับน้ำจากแม่น้ำเจ้าพระยาทรงตัว แต่ระดับน้ำที่ล้นตลิ่งยังท่วมขังในพื้นที่ชุมชนที่อยู่นอกแนวคันกั้นน้ำติดกับแม่น้ำและคลอง ที่ชุมชนใน ต.ทางช้าง อ.บางบาล จ.พระนครศรีอยุธยา ซึ่งเป็นพื้นที่ลุ่มต่ำ ถูกน้ำท่วมเป็นพื้นที่แรก ปริมาณน้ำจากแม่น้ำน้อย ล้นตลิ่งเข้าท่วมบ้านเรือน สูงประมาณ 1-1.5 เมตร ชาวบ้านต้องยกข้าวของเครื่องใช้ขึ้นไว้บนที่สูง รถยนต์ และจักรยานยนต์ ต่างถูกนำมาจอดไว้ริมถนนโดยมีชาวบ้านจัดเวรยามคอยเฝ้าทั้งคืน
นายบุญชอบ ฉัตรธรรม ชาวบ้านใน ต.ทางช้าง กล่าวว่า ชุมชนที่อาศัยอยู่ถูกน้ำท่วมมาแล้วประมาณ 10 วัน ช่วงแรกน้ำขึ้นเร็วมาก หากจะเข้าออกชุมชนจากถนนสายหลักต้องใช้เรือพาย และต้องย้ายออกมาอยู่ที่ถนน เพราะอยู่ในบ้านตอนนี้ทำอะไรไม่ได้เลย ได้แต่นั่งมองน้ำ ต้องออกมานั่งข้างนอกพบปะพูดคุยกับผู้คนเพื่อแก้เครียด รวมถึงเฝ้าทรัพย์สินที่ขนหนีน้ำมาไว้ริมถนน ทั้งข้าวของเครื่องใช้บางส่วน รถยนต์ และจักรยานยนต์ ส่วนเต็นท์ที่กางไว้ช่วงเย็น ชาวบ้านที่ออกไปทำงานจะนำจักรยานยนต์ หรือรถยนต์มาจอดไว้ ช่วงกลางคืนจะผลัดเปลี่ยนกับลูกชายมานอนเฝ้า เพราะช่วงน้ำท่วมมักจะมีมิจฉาชีพ หรือคนร้ายลอบเข้ามาขโมยจักรยานยนต์ แม้ว่าจะมีการล็อกและล่ามโซ่ไว้แล้วก็ตาม
ผู้สื่อข่าวรายงานอีกว่า สถานการณ์น้ำท่วมในพื้นที่ จ.พระนครศรีอยุธยาปัจจุบันมีน้ำท่วมในพื้นที่ลุ่มต่ำนอกแนวคันกั้นน้ำ โดยมีพื้นที่ได้รับผลกระทบแล้วรวม 7 อำเภอ 77 ตำบล 367 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 11,630 ครัวเรือน
วันเดียวกัน นางนฤมล ภิญโญสินวัฒน์ รมว.เกษตรและสหกรณ์ เดินทางโดยเฮลิคอปเตอร์ไปพร้อมกับ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า อดีต รมว.เกษตรฯ นายอัครา พรหมเผ่า และนาย อิทธิ ศิริลัทธยาธร รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ไปยังเขื่อนเจ้าพระยา อ.สรรพยา จ.ชัยนาท เพื่อติดตามสถานการณ์น้ำ เนื่องจากในจุดของเขื่อนเจ้าพระยาถือว่าเป็นกุญแจสำคัญในการบริหารจัดการน้ำลงสู่ที่ลุ่มภาคกลาง โดย นายวัชระ ไกรสัย ผุ้อำนวยการสำนักงานชลประทานที่12 ชัยนาท บรรยายสรุปสถานการณ์ปัจจุบัน พร้อมทั้งคาดการณ์ปริมาณน้ำเหนือที่จะเกิดจากอทธิพลของพายุยางิ
นางนฤมล เปิดเผยว่า จากสถานการณ์น้ำเขื่อนเจ้าพระยาปัจจุบัน ยังไม่ได้รับผลกระทบจากมวลน้ำที่เกิดจากอิทะทธิพลของพายุยางิ ปริมาณน้ำจึงยังคงทรงตัว โดยทางเขื่อนเเจ้าพระยาได้เร่งระบายน้ำลงท้ายเขื่อนเพื่อพร่องน้ำสร้างพื้นที่ว่างรับปริมาณน้ำในอนาคตในอัตรา 1,500ลบ.ม./วิ และจะปรับการระบายขึ้นแบบขั้นบันไดในเกณฑ์ไม่เกิน1,700ลบ.ม./วิในระยะ1-3วันนี้ จึงได้สั่งการให้สำนักงานชลประทานที่12 เฝ้าติดตามสถานการณ์และบริหารจัดการระบายน้ำให้ประชาชนได้รับผลกระทบน้อยที่สุด และต้องให้เตรียมเครื่องไม้เครื่องมือในการช่วยเหลือประชาชนให้พร้อม รวมทั้งจัดทำแผนประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนได้รับรู้ข้อมูลสถานการณ์น้ำได้อย่างทั่วถึงและต่อเนื่อง
นางนฤมล ยังกล่าวว่า ส่วนที่ตนถูกมองว่าเป็นรัฐมนตรีหน้าใหม่แต่ได้นั่งเป็นเจ้ากระทรวงใหญ่ที่ถือว่าเป็นกระทรวงปราบเซียนอย่างกระทรวงเกษตรฯนั้น ไม่มีความกังวลเพราะมั่นใจว่าข้าราชการ ทีมงานทุกคนสามารถทำงานเพื่อประชาชนได้โดยไม่มีปัญหาใดๆ โดยการบริหารจัดการน้ำเป็นอีก1นโยบายที่ครม.แพทองธาร1จะนำแถลงต่อสภาในวันที่12ก.ย.นี้ด้วย
ขณะที่ล่าสุดสถานการณ์น้ำ ที่เขื่อนเจ้าพระยา ต.บางหลวง อ.สรรพยา จ.ชัยนาท กุญแจสำคัญในการบริหารจัดการน้ำลุ่มภาคคกลาง พบว่าปริมาณน้ำเหนือที่ไหลลงเขื่อนเจ้าพระยาเริ่มทรงตัวโดยที่จุดวัดน้ำ C2 หน้าค่ายจิรประวัติ จ.นครสวรรค์ ล่าสุด(15.00น.)วัดได้ 1,474ลบ.ม./วิ(ลูกบาศเมตรต่อวินาที) โดยระดับน้ำเหนือเขื่อนเจ้าพระยาลดระดับลง20ซ.ม.ในรอบ24ชม.ล่าสุด วัดได้ 16.21ม.รทก.(เมตรจากระดับน้ำทะเลปานกลาง) ขณะที่เขื่อนเจ้าพระยายังคงอัตราการระบายน้ำไว้ที่1,500ลบ.ม./วิ ต่อเนื่องเป็นวันที่6 เพื่อสร้างพื้นที่ว่างในลำน้ำ รับมวลน้ำเหนือที่เพิ่มขึ้นจากลร่องมรสุม และอิทธิพลของพายุยางิ เพื่อช่วยลดผลกระทบพื้นที่ท้ายเขื่อน ทำให้ระดับน้ำท้ายเขื่อนทรงตัวในรอบ72ชม. ล่าสุดวัดได้ 12.82ม.รทก
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี