10 กันยายน 2567 ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้า จากกรณี ตร.สภ.ไชยวาน รับแจ้งจากนางแดง อายุ 79 ปี ชาวบ้านบ้านเพียปู่ หมู่ 9 ต.ไชยวาน ว่ามีคนร้าย 4 คนอุ้มนางศศิธร หรือนางติ๋ม อายุ 53 ปี ลูกสาวคนโตขึ้นรถกระบะสีส้มแล้วหลบหนีไป เกิดเหตุที่บ้านเลขที่ 72 บ้านเพียปู่ เมื่อเวลา 11.30 ของวันที่ 8 ก.ย.67 ที่ผ่านมา
ต่อมาคนร้ายได้โทรให้นำเงิน 170,000 บาทที่กู้ไปมาไถ่ตัวนางติ๋ม หลังรับแจ้งความ พ.ต.อ.รัฐพลชัย เพ็ญสงคราม ผกก.สภ.ไชยวาน พร้อมตร.ชุดสืบสวนภูธรภาค 4 ชุดสืบสวนภุธร จ.อุดรธานี ได้บุกจับผู้ต้องหาได้ 4 รายในห้างนากลางป่าใกล้วัดถ้ำสายบาตร บ้านภูเงิน ต.หนองกุงทับม้า อ.วังสามหมอ จ.อุดรธานี ซึ่งประกอบด้วย เสี่ยโก่ย หรือนายบรรพจ ฤทธิ์มหา อายุ 40 ปีชาว ต.บะยาว อ.วังสามหมอ ตัวการวางแผนจับนางติ๋มเรียกค่าไถ่,น.ส.จิรปรียา ภาคผิน อายุ 36 ปี หรือน.ส.หนึ่ง แฟนสาวคนใหม่เสี่ยโก่ย ที่อยู่ ต.เวียงคำ อ.กุมภาปี จ.อุดรธานี,นายฤทธิชัย ไตรทิพย์ อายุ 31 ปี หรือนายต่อ ชาวต.หนองลาด อ.วาริชภูมิ จ.สกลนคร และนายพะเยาว์ โมธรรม อายุ 42 ปีชาวต.หนองลาด อ.วาริชภูมิ จ.สกลนคร หลังจับกุมได้ตร.ได้ควบคุมทั้ง 4 รายนำตัวมาที่ สภ.ไชยวาน เมื่อช่วงค่ำวานนี้(9ก.ย.)
ขณะที่นางติ๋มมีอาการสาหัส ใบหน้าฟกช้ำ ถูกด้ามปืนตีเข้าที่ท้ายทายศีรษะต้องเข้ารับการรักษาตัวที่ รพ.กุมภวาปี ส่วนสาเหตุที่นางติ๋มถูกอุ้มเรียกเงินค่าไถ่ เพราะน้องสาวนางติ๋มคือนางชบาทิพย์ ที่ตอนนี้ทำงานอยู่ประเทศตุรกีและสามีไปกู้เงินเสี่ยเดือน ลูกพี่ใหญ่เสี่ยโก่ยมา จำนวน 200,000 บาทเมื่อปี 2561 โดยเสี่ยเดือนไม่คิดดอกเบี้ย ทางลูกหนี้ได้ใช้ไปแล้ว 30,000 บาท ที่เหลือ 170,000 บาทยังไม่ได้ใช้อีกเลย พอเสี่ยเดือนถูกจับข้อหาค้ายาเสพติด ทำให้เสี่ยโก่ยสานต่อลูกพี่พาลูกน้องมาทวงกับนางแดงแม่นางชบาทิพย์และนางติ๋ม พี่สาวนางชบาทิพย์ให้ชำระหนี้แทนแต่ไม่เป็นผล จึงก่อเหตุอุ้มไปเรียกค่าไถ่หวังได้เงินจำนวน 1700,000 บาทคืน
ล่าสุด ผู้สื่อข่าวเดินทางไปที่สภ.ไชยวาน โดย พ.ต.อ.รัฐพลชัย เพ็ญสงคราม ผกก.สภ.ไชยวาน ได้คุมตัวทั้ง 4 คนมาสอบปากคำเพิ่มเติมและแจ้งข้อหา เบื้องต้นนายบรรพจ หรือเสี่ยโก่ง ตัวการวางแผนจับนางติ๋มเรียกค่าไถ่ ปฏิเสธข้อกล่าวหาว่าไม่ได้ทำร้ายนางติ๋ม ส่วนน.ส.หนึ่ง เมียใหม่เสี่ยโก่ง,นายฤทธิชัย และนายพะเยาว์ ให้การรับสารภาพว่าก่อเหตุจริง ร่วมกันอุ้มนางติ๋มเรียกเงินกู้คืน ตำรวจได้แจ้งข้อหา “ร่วมกันให้ได้มาซึ่งค่าไถ่เอาตัวบุคคลอายุกว่า 15 ปี โดยใช้อุบายขู่เข็ญ ใช้กำลังประทุษร้าย ใช้อำนาจครอบงำผิดคลองธรรม หรือใช้วิธีข่มขืนใจด้วยประการอื่นใด”
ทั้งนี้ตำรวจมีข้อมูลว่า กลุ่มผู้ต้องหาเป็นลูกน้องของเสี่ยเดือนที่ถูกจับข้อหาค้ายาเสพติดติดคุกตลอดชีวิต มีการฝังเงินไว้ในดินกว่า 30 ล้านบาทและตำรวจได้ยึดทรัพย์เกือบหมดแล้ว พอเสี่ยเดือนถูกจับกลุ่มผู้ต้องหาซึ่งเป็นลูกน้องได้สานต่อธุรกิจมืดนำเงินจากค้ายาเสพติดมาปล่อยกู้ให้กับคนรู้จักด้วยเพื่อฟอกเงิน
น.ส.จิรปรียา หรือน.ส.หนึ่ง เล่าต่อหน้า ผกก.สภ.ไชยวานว่า สาเหตุที่พวกหนูไปทวงเงินครอบครัวนางชบาทิพย์ ที่กุ้เงินไป 200,000 บาทใช้มาแล้ว 30,000 บาท ที่เหลือ 170,000 บาททวงเงินมาหลายครั้งไม่ได้ ก่อนเกิดเหตุได้พาแม่คือนางบุตรไปทวงอีก ก็ยังไม่ได้แถมถูกนางติ๋มดุด่าถึงบุพการี จึงคุยกับพี่โก่ยสามีใหม่ให้ฟัง จึงวางแผนอุ้มนางติ๋มขึ้นรถ แต่พวกหนูได้บังคับให้เขาขึ้นรถนะ ก็อยากได้แค่เงินที่เขากู้ไปคืน ช่วงที่พาตัวก็พูดคุยด่ากันแรงกับนางติ๋มทำให้ตนเองโมโหจึงทำร้ายร่างกาย
เสี่ยโก่ย บอกว่า ยอมรับว่าอุ้มนางติ๋มจริง แต่ตนเองไม่ได้ทำร้ายร่างกายนางติ๋ม ตยลูกผู้ชายพอไม่กล้าตบผู้หญิง แต่เป็นเรื่องของนางหนึ่ง ภรรยาผมที่เขาโต้เถียงกันเรื่องเงินที่กู้ไปเหลือ 170,000 บาทไม่ได้คืน จึงมีปากเสียงและทำร้ายร่างกายกัน โดยเสี่ยโก่ยปฏิเสธว่าไม่ได้ทำร้ายนางติ๋ม แต่เรื่องอุ้มพานางติ๋มขึ้นรถยอมรับสารภาพ ผมรับเป็นบางข้อ ไม่รับเป็นบางข้อ
'ผมเคยถูกจับข้อหาครอบครองยาบ้า 149 เม็ดเรื่องอุทธรณ์อยู่ เลยไม่อยากยุ่งเกี่ยว ส่วนสาเหตุที่อยากได้เงินเพราะอยากได้เงินไปให้แม่ยายไปซ่อมรถ ผมขอโทษญาตินางติ๋มด้วยกับสิ่งที่พากันไปอุ้มแบบนี้ เสี่ยโก่ยคอตกกล่าวตอนท้าย'
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี