น.ส.สรัสนันท์ อรรณนพพร สส.ขอนแก่นพรรคเพื่อไทย เปิดเผยถึงการร่วมสัมมนาหัวข้อ “สังคมสูงวัยในสายตาเด็ก : ความเสี่ยงและความหวัง” ซึ่งจัดขึ้นโดย วิทยาลัยการปกครองท้องถิ่น มหาวิทยาลัยขอนแก่น ว่า เมื่อวันที่ 6 ก.ย. 2567 ที่ผ่านมา ได้ร่วมแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกับนักศึกษา ม.ของแก่น ในหัวข้อ “สังคมสูงวัยในสายตาเด็ก : ความเสี่ยงและความหวัง” ซึ่งประเทศไทยเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุโดยสมบูรณ์ (Aged Society) ตั้งแต่ พ.ศ. 2565 และจะเข้าสู่สังคมผู้สูงวัยอย่างเต็มที่ (Super-aged Society) ใน พ.ศ. 2574 ซึ่งเป็นสังคมที่มีสัดส่วนของประชากรอายุ 60 ปีขึ้นไป มากกว่า 28% ของประชากรโดยรวมทั้งประเทศ รัฐบาลที่นำโดยพรรคเพื่อไทยตระหนักถึงความท้าทายดังกล่าว และเตรียมพร้อมรับมือกับความท้ายทาย ดังจะเห็นได้จากจัดสรรงบประมาณให้สอดคล้องกับจำนวนผู้สูงวัยที่เพิ่มขึ้นและอัตราการเกิดที่ลดลง รวมไปถึงการบริหารนโยบายภาครัฐที่มุ่งส่งเสริมการดูแลสุขภาพกาย สุขภาพจิต คุณภาพชีวิต รวมไปถึงการสร้างสภาพแวดล้อมที่เหมาะสมกับผู้สูงอายุ

“พรรคเพื่อไทยมุ่งมั่นที่จะผลักดันนโยบาย 30 บาทรักษาทุกที่ ให้สามารถใช้ได้ทุกจังหวัดทั่วประเทศ เพื่อลดปัญหาในการเข้าถึงบริการทางการแพทย์ที่จำเป็น และลดปัญหาขาดความรู้และทักษะในการดูแลตัวเองอย่างถูกวิธี โดยเฉพาะกลุ่มผู้สูงอายทุี่ยังต้องทํางานมักจะไม่เข้ารับการรักษาเมื่อมีอาการเจ็บป่วย เนื่องจากกังวลว่าจะต้องขาดรายได้”

นอกจากนี้ พรรคเพื่อไทยยังมุ่งสร้างโอกาสในการประกอบอาชีพ อันสอดคล้องกับนโยบาย Learn to Earn เรียนเพื่อสร้างรายได้เรียนรู้ตลอดชีวิต เพื่อช่วยให้มีงานตรงกับสมรรถนะของตนเองมากที่สุด อันจะช่วยลดช่องว่างรายได้คนไทยในทุกระดับ ให้ทุกคนมีรายได้เพียงพอ ทั้งนี้ เมื่อผู้สูงอายุสามารถประกอบอาชีพที่เหมาะสมตามความถนัดและทำให้เกิดรายได้ ก็จะทำให้ผู้สูงอายุไม่รู้สึกว่าตนเองเป็นภาระแก่ครอบครัว และใช้ชีวิตในวัยชราได้อย่างมีเกียรติและศักดิ์ศรี