nn เรื่องของการตัดต้นไม้บนฟุตปาธ ต้องยอมรับว่ามีปัญหาหนักพอสมควร หลายพื้นที่เขตตัดกันประเภท “เหี้ยนโล่งเตียน” หมดทั้งต้น ซึ่งผลงานนี้ประชาชนข้องใจสงสัยมาตลอด กทม.ปล่อยให้เกิดขึ้นได้อย่างไร เพราะทุเรศสายตาเหลือหลาย และจากการอธิบายของเจ้าหน้าที่เขตพื้นที่หลายคนพูดตรงกันว่า ส่วนใหญ่หน่วยงานที่เข้าไปตัดชนิดเย้ยฟ้าท้าดิน คือ การไฟฟ้าฯ ซึ่งจ้างคนนอกตัดโล้น (ไม่มีการแต่ง) เขตตัดน้อยมาก

nn แน่นอนถ้าต้นไม้ที่ปลูกกันบนฟุตปาธถูกปล่อยทิ้งไว้ให้รกทึบขาดการตัดแต่งกิ่ง ก็จะสร้างปัญหาให้ทั้งชาวบ้านผู้อยู่อาศัยที่ต้นไม้อยู่หน้าบ้าน อย่างมาก รวมทั้งอาจทำให้เกิดไฟฟ้าลัดวงจรได้ช่วงขณะฝนตกลมแรงแต่ประเด็นดังกล่าวจะไม่เกิดเลยถ้า กทม.ใส่ใจแก้ไข ด้วยการตัดแต่ง (ไม่ใช่ตัดเหมือนที่ ไอ้-อี หน่วยงานใดตัดจนขนหัวโล้นล้านเกลี้ยง) อย่างอารยะมีวัฒนธรรม 

nn การตัดต้นไม้มักง่าย “ไผ่ฎำ” ได้รับการร้องทุกข์มาตลอดว่ากทม.ปล่อยให้กระทำแบบ “ห่วยแตก” และไม่เคยมีคำตอบจากผู้ใหญ่ฝ่ายการเมืองท่านใดออกมาทุบโต๊ะเอาโทษกับ “มารสิ่งแวดล้อม” ที่กล้าหาญสร้างความพินาศให้เกิดขึ้นเลย หนำซ้ำฝ่ายการเมืองบางช่วงก็แสดง “ปัญญาเด็กแบเบาะ” ออกมาว่า “ประเดี๋ยวมันก็แตกกิ่งก้านใหม่ เรื่องนี้ไม่ใช่คอขาดบาดตาย” 

nn วลีที่ว่าไม่ใช่เรื่องใหญ่ดังกล่าว ครั้งหนึ่งส่งผลให้อดีตนายกรัฐมนตรีท่านหนึ่งเปรี้ยงปร้างว่า “กทม.ตัดต้นไม้ขาดวัฒนธรรม” พูดง่ายตัดโง่ๆ ไม่เอาไหนนั่นเอง 

nn แต่ผลงานการตัดต้นไม้ที่ออกมาในข้อเท็จจริงนั้นเขตไม่ได้กระทำ ฝ่ายที่ “ปู้ยี่ปู้ยำ” ต้นไม้กลายเป็นการไฟฟ้าฯที่ว่าจ้างคนนอกเข้าตัด โดยขาดการควบคุมดูแล ขาดความรู้ความเข้าใจ ขาดการอบรม และถ้าเมื่อไหร่ที่เกิดเหตุพรรค์อย่างนี้ขึ้นเขตต่างๆ ก็ “ปิดหูปิดตา” เงียบหมด ขณะเทศกิจที่บอกว่าสามารถเดินเข้าตรวจตราได้ทุกแห่งตามราคาคุยก็แบะๆ 

nn อนิจจา พอชาวบ้านผู้ประกอบการเขาช่วยตัดแต่งให้ (ไม่โล้น ไม่อุบาทว์) เนื่องจากต้นไม้หน้าบ้านรกทึบ กอปรกับหลายครั้งหลายหนเคยแจ้งไปยังเขต ซึ่งเจ้าของบ้านรู้จักเคารพนับถือกันให้ช่วยเหลือ และเคยร้องถามด้วยวาจา ถ้าเจ้าของร้านค้าจะตัดแต่งเองเพื่อไม่ให้กีดขวางหน้าบ้านร้านค้าจะทำได้หรือไม่ คำตอบ คือ“ได้” สุดท้ายชาวบ้านก็กระทำตามการอนุญาตด้วยวาจา เพราะแค่ต้นไม้ต้นสองต้น ตกแต่งแล้วดูดี ทว่า พอผอ.เขต ที่รู้จักเกษียณออกไป ปัญหา“ชะตากรรมชะตาทราม” อุบัติ กล่าวคือ ร้านค้าเดิมเข้าตัดแต่งต้นไม้เองกลับมีปัญหาดุจกลืนเลือด 

nn เจ้าหน้าที่เขต,ฝ่ายรักษา,เทศกิจ สนธิกำลังเข้าไปอ่านกฎหมายชี้แจง นั่น นี่ สารพัด บางครั้งก็ออกอาการข่มขู่เหมือนเอาเป็นเอาตาย แถมแจ้งความร้องทุกข์ โต้เถียงกับชาวบ้าน สุดน่าอับอายยิ่งแน่นอนชาวบ้านเขาผิดที่บังอาจปีนป่ายขึ้นไปตัดแต่ง ย้ำว่าตัดแต่ง ไม่ได้ตัดโล้นเหมือนที่การไฟฟ้าฯกระทำ ท่ามกลางผู้รับผิดชอบหลับหูหลับตาจำศีลนิ่งดูดาย 

nn งานนี้ตรงนี้เล่นกันแรงทั้งๆ เรื่อง “ขี้หมูขี้หมาไหลหน้าบ้านริมถนน” น่าเกลียดกว่าเป็นไหนๆ แต่เทศกิจออกอาการใหญ่โต ขาดหลักการทางปกครอง ใช้กฎหมายเข้ม แถมยังมองหน้ามองตาเดินตามเจ้าของบ้านและข่มขู่จะจับรถเจ้าของบ้านบนทางเท้าอีกต่างหาก เหตุเกิดที่ถนนสวนสยามซอย 10-12 เขตคันนายาว เรื่องนี้นัยว่าอัยการนัดเจ้าของบ้านผู้ที่ถูกอ้างว่าทำลายทรัพย์สิน กทม. พูดคุยดูสำนวนวันที่ 24 กันยายน เวลา 10 โมงเช้าแน่นอนเรื่องดังกล่าวถ้าเกี่ยวกับความผิดอาญานั้นต้องมองถึงเจตนาเป็นสำคัญถ้าเจตนาทำลายชาวบ้านผิดเต็มๆ ตรงกันข้ามถ้าพบเทศกิจคนไหนอวดเบ่งแผ่แม่เบี้ยประกาศศักดาข่มขู่เขา ระวังความผิดทางวินัย 157 จะตามมาภายหลัง nn

ไผ่ฎำ