อนึ่ง ค่าสินไหมทดแทนนั้นได้แก่การคืนทรัพย์สินอันผู้เสียหายต้องเสียไปเพราะละเมิดหรือใช้ราคา ทรัพย์สินนั้นรวมทั้งค่าเสียหายอันจะพึงบังคับให้ใช้เพื่อความเสียหายอย่างใดๆ อันได้ก่อขึ้นนั้นด้วย”
ซึ่งในบทบัญญัติดังกล่าวกำหนดให้การกำหนดค่าสินไหมทดแทนนั้นเป็นดุลพินิจของศาลซึ่งศาลจะเป็นผู้กำหนดว่าการใช้ค่าสินไหมทดแทน จะพึงใช้ในสถานใดหรือวิธีการใด ซึ่งขึ้นอยู่กับพฤติการณ์ในแต่ละคดี นอกจากนี้ ศาลยังสามารถมีดุลพินิจในการกำหนดว่าจะให้ผู้กระทำละเมิดใช้ค่าเสียหายไหมทดแทนเพียงใดซึ่งขึ้นอยู่กับพฤติการณ์และความร้ายแรงอีกด้วย
โดยในวรรค 2 ของมาตราดังกล่าว ได้กำหนดว่าค่าสินไหมที่ศาลจะเป็นผู้กำหนดให้มีรายละเอียดดังต่อไปนี้
1.การคืนทรัพย์ เช่น กรณีละเมิดที่มีการนำทรัพย์สินหรืออุปกรณ์หรือทรัพย์ใดไปจากโจทก์หรือผู้เสียหายศาลสามารถกำหนดให้ผู้ละเมิดนำทรัพย์สินนั้น มาคืนแก่โจทก์หรือผู้เสียหายได้
2.การใช้ราคาทรัพย์สิน ในกรณีที่มีการละเมิด ก่อให้เกิดความเสียหาย ซึ่งทำให้ทรัพย์สินเสียหายไม่สามารถใช้ต่อไปได้แล้วหรือหากนำทรัพย์มาคืนนั้นคงไม่เกิดประโยชน์ ศาลสามารถกำหนดให้มีการใช้ราคาทรัพย์นั้นได้ เช่น ให้ชำระค่าเสียหายแทนราคาทรัพย์นั้นๆ
3.ค่าเสียหายอื่น ศาลอาจกำหนดให้จำเลยหรือผู้กระทำละเมิดชดใช้ค่าเสียหายอื่นเป็นตัวเงินได้อีกด้วย เช่น กรณีเกิดการละเมิด ก่อให้เกิดความเสียหายหรือถูกปรับจากบุคคลภายนอก ซึ่งเป็นผลโดยตรงจากการกระทำละเมิด ศาลอาจถือว่าผลโดยตรงที่ผู้เสียหายหรือโจทก์ถูกปรับหรือเรียกร้องจากบุคคลภายนอกอันเกิดจากการทำละเมิดของจำเลยนั้นเป็นส่วนหนึ่งของค่าเสียหายและสามารถกำหนดให้จำเลยชดใช้แก่โจทก์ได้
นอกจากนี้ ในประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ยังมีกำหนดไว้ในมาตรา 444 ซึ่งกำหนดรวมถึงค่าใช้จ่ายต่างๆที่ผู้เสียหายต้องเสียไปเช่นค่ารักษาพยาบาล ค่าเสียความสามารถในการประกอบงาน
มาตรา 446 ค่าเสียหายต่อร่างกายหรืออนามัย ซึ่งเป็นค่าเสียหายอื่นอันไม่ใช่ตัวเงิน ซึ่งภาษาชาวบ้านอาจจะเรียกว่าค่าทำขวัญ ซึ่งในมาตราดังกล่าว ในทางปฏิบัติอาจจะเป็นสิ่งที่ยากสำหรับ โจทก์ ผู้เสียหาย รวมถึงทนายความโจทก์ เนื่องจากมักจะเป็นประเภทค่าเสียหายที่ไม่มีใบเสร็จมาแสดง และเป็นโจทย์ที่ยากสำหรับผู้พิพากษาซึ่งเป็นผู้ตัดสินให้ค่าเสียหายในเรื่องดังกล่าวเช่นกัน
นอกจากนี้ ในเรื่องของค่าเสียหายทางสิ่งแวดล้อมยังได้กำหนดไว้ในพระราชบัญญัติส่งเสริมและรักษาคุณภาพสิ่งแวดล้อมแห่งชาติอีกด้วย ซึ่งผู้เขียนจะขอลงรายละเอียดในตอนต่อไป
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี