น้ำท่วมหลายพื้นที่วิกฤตหนัก
เชียงรายยังอ่วม!
ลุยช่วยชาวบ้านติดค้างในที่พัก
นายกฯถกด่วนแก้ปัญหา
สั่งทุกหน่วยงานลงพื้นที่
นายกฯ ถกด่วนรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้อง เร่งช่วยผู้ประสบภัยน้ำท่วมภาคเหนือด้าน ปภ.ชี้น้ำท่วมกระทบ 7 จังหวัด 36,199 ครัวเรือน ขณะที่เชียงราย สั่งปิด 5 สะพาน-สนามบินฯ หลังจากถูกน้ำล้อม อพยพประชาชนติดค้างในที่พัก “หน่วยซีล” ฝ่ากระแสน้ำเชี่ยว ช่วยเด็ก 3 เดือนส่วน จ.เลย เฝ้าจับตาน้ำโขง เพิ่มสูง
เมื่อวันที่ 12กันยายน ที่รัฐสภา ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ก่อนที่ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี จะแถลงนโยบายรัฐบาลต่อรัฐสภา ได้สอบถามถึงสถานการณ์น้ำท่วมใน จ.เชียงราย จาก น.ส.ปิยะรัฐชย์ ติยะไพรัช ส.ส.เชียงราย พรรคเพื่อไทย โดยแสดงความเป็นห่วง พร้อมกับกำชับให้ช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับผลกระทบอย่างเต็มที่ รวมถึงกำชับให้เร่งอพยพประชาชนที่ติดอยู่ในบ้านเรือน และจัดเตรียมที่พักพิงรองรับประชาชน และจัดหาข้าว อาหาร และปัจจัย 4 ให้เพียงพอ พร้อมทั้งเตรียมมาตรการเยียยาภายหลังน้ำลดด้วย
ต่อมาเวลา 12.10 น.นายกฯ ได้ประชุมแก้ปัญหาน้ำท่วมพื้นที่ภาคเหนือ ร่วมกับรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้อง โดยมีข้อสั่งการให้กระทรวงมหาดไทย โดยเฉพาะกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย จัดการที่พักพิงชั่วคราว สาธารณูปโภคขั้นพื้นฐาน อาหาร-น้ำ-ยารักษาโรค-เสื้อผ้า ให้แก่ผู้ประสบภัย มอบหมายให้กระทรวงกลาโหม ระดมหาเครื่องบิน เรือท้องแบน เจ็ตสกี เฮลิคอปเตอร์ เพื่อเร่งช่วยเหลือผู้ประสบภัยน้ำท่วม มอบหมายให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เร่งหาแนวทางซ่อมแซมเขื่อนและประตูกั้นน้ำ เพื่อชะลอน้ำ ลดความรุนแรงของน้ำ มอบหมายให้กระทรวงคมนาคมและกระทรวงกลาโหม เร่งซ่อมแซมถนนและสะพานที่ขาด และมอบหมายให้ทุกหน่วยงาน เตรียมข้อมูลเพื่อให้การทำงานประสานกันอย่างเป็นระบบ เพื่อช่วยเหลือพี่น้องประชาชนโดยเร็ว
ด้านนายไชยวัฒน์จุนถิระพงศ์ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) กล่าวว่า ระหว่างวันที่ 16 สิงหาคม-12กันยายน 2567 มีสถานการณ์น้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลากในพื้นที่ 27จังหวัด รวม 125 อำเภอ 565 ตำบล 2,975 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 106,467 ครัวเรือน มีผู้เสียชีวิตจากอุทกภัยและดินถล่ม รวม 33 ราย ผู้ได้รับบาดเจ็บ 24ราย ปัจจุบันยังคงมีสถานการณ์ในพื้นที่ 7จังหวัด ได้แก่ เชียงราย เชียงใหม่ ตาก สุโขทัย พิษณุโลก อ่างทอง และพระนครศรีอยุธยา รวม 24 อำเภอ 131 ตำบล 545 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 36,199 ครัวเรือน
ขณะที่กรมอุตุนิยมวิทยา ประกาศ เรื่อง ฝนตกหนักถึงหนักมากบริเวณประเทศไทย และคลื่นลมแรงบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยตอนบน ฉบับที่ 1 (182/2567) มีผลกระทบตั้งแต่วันที่ 13-17 กันยายน 2567 ระบุว่าประเทศไทยจะมีฝนเพิ่มขึ้นและมีฝนตกหนักหลายพื้นที่ โดยมีฝนตกหนักมากบางพื้นที่ บริเวณภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง ภาคตะวันออก และภาคใต้ฝั่งตะวันตก ขอให้ประชาชนในบริเวณดังกล่าว ระวังอันตรายจากฝนตกหนักถึงหนักมาก และฝนที่ตกสะสมซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลาก โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่านและพื้นที่ลุ่ม ทั้งนี้ เนื่องจากร่องมรสุมจะเลื่อนลงมาพาดผ่านภาคเหนือตอนล่าง ภาคกลางตอนบน และภาคตะวันออกเฉียงเหนือ เข้าสู่หย่อมความกดอากาศต่ำบริเวณประเทศเวียดนามตอนกลาง ขณะที่มรสุมตะวันตกเฉียงใต้ กำลังปานกลางที่พัดปกคลุมทะเลอันดามันตอนบน ประเทศไทย และอ่าวไทยตอนบน จะมีกำลังแรงขึ้นเป็นกำลังค่อนข้างแรง
สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยจะมีกำลังแรงขึ้น โดยช่วงวันที่ 14-17กันยายน 2567 บริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยตอนบนมีคลื่นสูง 2-3 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงกว่า3เมตร ส่วนอ่าวไทยตอนล่าง ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงกว่า2เมตร ขอให้ชาวเรือในบริเวณดังกล่าว เดินเรือด้วยความระมัดระวัง และหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง ส่วนเรือเล็กบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยตอนบนควรงดออกจากฝั่งในช่วงวันและเวลาดังกล่าว
ที่ จ.เชียงราย ผู้สื่อข่าวรายงานถึงสถานการณ์น้ำท่วม ว่ายังคงเกิดน้ำท่วมอย่างหนักเข้าขั้นวิกฤตในหลายพื้นที่ โดยเฉพาะที่ อ.เมือง และ อ.แม่สาย โดยทางสำนักงานประชาสัมพันธ์ จ.เชียงราย ได้แจ้งปิดสะพานและเส้นทางในพื้นที่น้ำท่วมตัวเมืองเชียงราย ได้แก่ 1.สะพานแม่น้ำกก เส้นทางห้าแยกพ่อขุน 2.สะพานขัวพญามังราย ตั้งแต่แยกสถานีตำรวจถึงแยกบ้านใหม่ 3.สะพานเฉลิมพระเกียรติ เส้นทางจากสนามกีฬากลางไป โรงเรียน ท.6 และท่าอากาศยานแม่ฟ้าหลวง 4.สะพานแม่ฟ้าหลวง หน้าศาลากลางจังหวัดเชียงราย และ5.สะพานใหม่บ้านฮ่องอ้อ จากแยกวัดห้วยปลากั้ง ไปทางโรงเรียนสามัคคี 2 เชียงราย
ส่วนบริษัทท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) หรือ ทอท.แจ้งยกเลิกเที่ยวบินที่ท่าอากาศยานแม่ฟ้าหลวง จ.เชียงราย ทุกเที่ยวบิน ในวันเดียวกันนี้ เนื่องจากมีเหตุน้ำท่วมบริเวณท่าอากาศยานฯ
นอกจากนี้กำลังพลกองทัพเรือ ได้เข้าปฏิบัติภารกิจใน อ.แม่สาย โดยเร่งลำเลียงผู้ประสบภัยออกจากพื้นที่อย่างต่อเนื่องตลอดทั้งคืน ซึ่งบริเวณห้าแยกพ่อขุนเม็งราย ระดับน้ำยังคงเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง ถนนซุปเปอร์ไฮเวย์ ห้าแยกเมืองเชียงราย รถเล็กไม่สามารถสัญจรได้ ทางเจ้าหน้าที่ทหารพร้อมด้วยรถบรรทุกทหาร ได้เข้าให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยแล้ว
ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า หลังจากที่กองทัพเรือได้สั่งการให้หน่วยสงครามพิเศษทางเรือ หรือหน่วยซีลลงพื้นที่ช่วยเหลือพี่น้องประชาชนที่ประสบอุทกภัยใน จ.เชียงราย เมื่อหน่วยดังกล่าวเข้าถึงพื้นที่และร่วมวางแผนกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง พร้อมกับจัดกำลังออกปฏิบัติภารกิจทันที โดยเฉพาะในพื้นที่น้ำท่วมสูง และจุดที่น้ำป่าไหลเชี่ยวกราก ซึ่งหน่วยงานอื่นเข้าถึงได้ยาก โดยหน่วยซีลได้ลุยน้ำลุยโคลนระยะทาง 2-3 กิโลเมตร ไปช่วยเหลือประชาชนที่ติดค้างอยู่ภายในบ้านกว่า 10 ครัวเรือน มีทั้งเด็ก คนชราและผู้หญิง หนึ่งในนั้นเป็นเด็กทารกเพศหญิงอายุเพียง 3 เดือน โดยช่วยเหลือออกมาได้อย่างปลอดภัย
สำหรับสถานการณ์น้ำกกที่ไหลล้นตลิ่งท่วมพื้นที่ชุมชนต่างๆ ของเทศบาลนครเชียงราย ยังคงมีระดับน้ำที่สูง บางจุดสูงกว่า 2 เมตร ทำให้การเข้าออกชุมชนต้องใช้เรือเพียงอย่างเดียว เช่นเดียวกับบริเวณลานอนุสาวรีย์พ่อขุนเม็งรายหรือห้าแยกพ่อขุน ซึ่งมีน้ำท่วมอย่างหนัก โดยเป็นผลพวงจากน้ำกกไหลย้อนทะลักเข้ามาพื้นที่ชั้นใน ระดับน้ำสูงประมาณ 30-50 เซนติเมตร รวมถึงถนนด้านหน้าอนุสาวรีย์ฯ จุดเชื่อมระหว่างอำเภอทั้งขาเข้าและขาออกเมืองเชียงราย ทั้งนี้ ทางหน่วยกู้ภัย ได้จัดเรือมาสนับสนุนการรับส่งผู้ที่จำเป็นต้องเดินทางเข้าออกพื้นที่ตั้งแต่กำแพงเมืองจนถึงเชิงสะพานแม่น้ำกกแห่งที่ 1ระยะทาง2 กิโลเมตร
ทั้งนี้ ทางป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย จ.เชียงราย ระบุว่าน้ำได้ท่วมในพื้นที่ต่างๆ ได้แก่ ต.เวียงพางคำ ต.แม่สาย อ.แม่สาย,อ.เชียงของ,ต.รอบเวียง ต.ดอยฮาง ต.แม่ยาว ต.ริมกก ต.ห้วยชมภู อ.เมือง จ.เชียงราย, ลุ่มแม่น้ำคำ อ.แม่จัน, ต.เทอดไทย ต.แม่สลองใน ต.แม่สลองใน อ.แม่ฟ้าหลวง, ต.เวียง อ.เชียงแสน โดยมีบ้านเรือนได้รับผลกระทบกว่า 19,499 ครัวเรือน มีผู้เสียชีวิตแล้ว 3 ราย จากเหตุดินถล่มทับพื้นที่ อ.แม่ฟ้าหลวง และมีผู้ได้รับบาดเจ็บในเหตุการณ์เดียวกัน 2 ราย
ที่ จ.เลย วันเดียวกัน ผู้สื่อข่าวรายงานถึงสถานการณ์น้ำท่วม ว่ายังคงมีฝนตกหนักติดต่อกัน ระดับน้ำโขง มีปริมาณมาก โดยไหลมาจากเขื่อนในประเทศลาว ที่ปล่อยน้ำลงมา ทำให้ จ.เลย ได้รับผลกระทบ โดยเฉพาะ อ.เชียงคาน และ อ.ปากชม ซึ่งมีตลิ่งต่ำกว่าพื้นที่อื่น น้ำโขงได้เอ่อล้นท่วมพื้นที่บ้านคกไผ่ ร้านค้าริมแม่น้ำโขง และกระต๊อบริมน้ำ จนมิดหลังคาหลายหลัง และยังเอ่อท่วมทางเดินริมถนน และบ้านเรือนประชาชนที่อยู่ใกล้กับตลิ่งด้วย
นายยศวัฒน์ พัชระศักดิ์สกุล นายอำเภอปากชม กล่าวว่า ระดับน้ำแม่น้ำโขง เพิ่มขึ้นต่อเนื่อง ขณะนี้ได้รับการประสานจากเขื่อนไซยะบุรี ประเทศลาว ว่าน้ำจากต้นเขื่อนมีปริมาณมาก คาดว่าอาจจะมีปริมาณมากขึ้นต่อเนื่อง จึงต้องระบายน้ำออก จึงแจ้งเตือนผู้ที่มีบ้านเรือนในที่ลุ่ม ร้านค้าที่อยู่ริมน้ำโขง บริเวณด่านคกไผ่ ซึ่งเป็นแพ มีซุ้มอาหารที่ส่วนมากจะอยู่ต่ำกว่าตลิ่ง ให้ขนย้ายสิ่งของโดยเร็ว อย่างไรก็ตาม ได้ส่งเจ้าหน้าที่เข้าช่วยเหลือขนย้ายทรัพย์สินต่างๆ และอพยพประชาชนออกจากพื้นที่ โดยเฉพาะผู้สูงอายุ รวมทั้งได้จัดเตรียมกระสอบทราย 1,000 ลูกนำมากั้นตามจุดที่คาดว่าระดับน้ำจะเพิ่มสูงจนอาจทะลักเข้ามาได้
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี