ประธาน กมธ.ศึกษา สภาฯชี้การแถลงนโยบายของรัฐบาล เป็นเพียงพิธีกรรมหนึ่ง ที่ต้องทำก่อนเข้ามาบริหารประเทศ หากไม่ปฏิบัติจริงก็ไม่เกิดผล พร้อมแนะรัฐบาลควรปฏิบัติด้านการศึกษาเพื่อพัฒนาคนให้มีคุณภาพ สร้างภูมิคุ้มกันเด็ก เยาวชนด้วยการปลูกฝังปัญญาด้วยการศึกษาให้เท่าทันกับโลกที่เปลี่ยนแปลง ลดภัยคุกคามจากสิ่งล่อแหลม
14 ก.ย.67 นายโสภณ ซารัมย์ สส.บุรีรัมย์ พรรคภูมิใจไทย ในฐานะประธานกรรมาธิการการศึกษา สภาผู้แทนราษฎร ได้ออกมาระบุภายหลังร่วมกิจกรรมรับบริจาคสิ่งของข้าวสารอาหารแห้ง ที่มูลนิธิอาณัตพณ ซารัมย์ (ลูกเติ้ง) ที่บ้านหนองเก้าข่า ต.เมืองแฝก อ.ลำปลายมาศ จ.บุรีรัมย์ เพื่อนำไปช่วยเหลือผู้ประสบภัยน้ำท่วมที่ จ.เชียงราย ว่า การแถลงนโยบายของรัฐบาลเมื่อ 2 วันที่ผ่านมา เป็นเพียงพิธีกรรมหนึ่ง ไม่ว่ารัฐบาลไหนที่เข้ามาบริหารประเทศ ก็ต้องมีการแถลงนโยบาย แต่นโยบายที่แถลงต่อสภาฯ มันจะนำไปสู่การปฏิบัติจริงได้หรือไม่ได้ก็อยู่ที่การปฏิบัติ
นายโสภณ กล่าวว่า ส่วนตัวได้เห็นปัญหาที่เกิดขึ้นกับประเทศชาติคือ ประชาชนไม่มีคุณภาพทั้งผู้ใช้แรงงาน ทั้งกลุ่มวัยเรียน จึงอยากให้รัฐบาลได้ให้ความสำคัญเร่งด่วนในการพัฒนาคน ก็คือพัฒนาด้านการศึกษาเพื่อให้เด็กเยาวชนมีภูมิคุ้มกันตั้งแต่เด็ก แต่หากไม่สร้างภูมิคุ้มกันด้านการศึกษา เด็ก เยาวชนก็จะสู้กับการเปลี่ยนแปลงของโลกไม่ได้ โดยเฉพาะสื่อเทคโนโลยีต่างๆ ซึ่งปัจจุบันมีอิทธิพลต่อการเลี้ยงดูลูกหลาน ทุกวันนี้สังคมเลี้ยงลูกด้วยโทรศัพท์ คนแก่เองก็เป็นทาสโทรศัพท์ ดังนั้นการจะแก้คุณภาพของคนได้ต้องแก้ที่ต้นเหตุคือการศึกษาเพื่อให้มีภูมิคุ้มกันตั้งแต่แรกเกิดเลย เพราะสมองของเด็กก็เหมือนซิมโทรศัพท์ ควรจะป้อนสิ่งดีๆ ให้เขา
นายโสภณ กล่าวด้วยว่า ดังนั้น ต้องใช้การศึกษาเท่านั้นที่จะแก้ปัญหาระยะยาวได้ เพราะว่าคนในชาติเราขาดภูมิคุ้มกันในเรื่องการใฝ่ดี การให้เด็กมีภูมิคุ้มกันแบบนี้มันต้องเริ่มต้นตั้งแต่แรกเกิดจนถึงการศึกษาพื้นฐานอนาคตเราต้องออกแบบการศึกษา ให้สอดคล้องกับสภาวะปัญหาของสังคมปัจจุบันเต็มจำนวนประชากรลดจำนวนนักเรียนลดลงด้วยการไหลบ่า ความเจริญทางเทคโนโลยีคนในชาติปรับตัวไม่ทัน อย่างทุกวันนี้พ่อแม่แม่มีภาระเลี้ยงดูลูกฝากไว้กับปู่ย่าตายาย เขาเลี้ยงลูกเลี้ยงหลานด้วยโทรศัพท์ เด็กขาดความอบอุ่น ความอบอุ่นหมายถึงความรักความเข้าใจเด็ก ฟังเด็กตั้งแต่วัยแรกเกิดเป็นต้นมันถึงจะสร้างภูมิให้เกิดในปัญญาของเด็กแต่ละคน เมื่อไม่มีปัญญาตัวควบคุมจิตให้กระทำหรือละเว้นการกระทำ ให้เลือกดีและเลือกไม่ดี มีภูมิต้านทานภัยคุกคามจากภาวะสังคมล่อแหลม และปลอดภัยจากสื่อ เป็นต้น
"การแก้ปัญหาเรื่องนี้ จึงควรเริ่มตั้งแต่แรกเกิดประถมวัย ซึ่งผมคิดว่าวันนี้การศึกษาระดับประถมวัยต้องไปอยู่ในการดูแลจัดการขององค์กรปกครองท้องถิ่น เราต้องออกแบบท้องถิ่นให้เป็นพ่อแม่คนที่สองของคนในชาติ โดยเฉพาะคนที่อยู่ในกลุ่มเปราะบางต้องดิ้นรนทำมาหากิน เหตุผลนี้จะทำให้คนมีความมั่นใจว่าการมีบุตรแล้วจะมีหลักประกันให้ลูกเขาได้รับการศึกษาที่เท่าเทียมกัน ที่มีคุณภาพและมันก็ต้องปฏิวัติการศึกษาทุกระบบ" นายโสภณ กล่าว
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี