‘นฤมล’รับลูกรัฐบาล พร้อมปัดฝุ่น‘เขื่อนแก่งเสือเต้น’ ระบุต้องศึกษาผลกระทบสิ่งแวดล้อมใหม่อย่างรอบด้าน เร่งแผนบริหารจัดการน้ำเร่งด่วนแก้ภัยพิบัติที่มีความรุนแรงมากขึ้น สั่ง‘กรมชลประทาน’เดินหน้าสร้างโครงการต่างๆที่ศึกษาไว้แล้ว
16 กันยายน 2567 นางนฤมล ภิญโญสินวัฒน์ รมว.เกษตรและสหกรณ์ พร้อมด้วย นายอิทธิ ศิริลัทธยากร รมช.เกษตรและสหกรณ์ และนายอัครา พรหมเผ่า รมช.เกษตรและสหกรณ์ มอบนโยบายขับเคลื่อนงานกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ให้กับผู้บริหารกระทรวงเกษตรฯ
นางนฤมล กล่าวว่า ว่านโยบายของกระทรวงสอดคล้องกับนโยบายรัฐบาลเน้นยกระดับการทำเกษตรแบบดั้งเดิมให้เป็นเกษตรทันสมัย ด้วยแนวคิด “ตลาดนำ นวัตกรรมเสริม เพิ่มรายได้” โดยมุ่งเน้นให้นำเทคโนโลยีด้านการเกษตร เช่น เกษตรแม่นยำ หรือเกษตรอัจฉริยะ มาใช้พัฒนาอาชีพด้านการเกษตร ประมง ปศุสัตว์ และอาชีพที่เกี่ยวเนื่อง ดึงจุดเด่นของประเทศไทยเพื่อตอบสนองความต้องการของโลกด้านความมั่นคงทางอาหาร และเพิ่มรายได้เกษตรกรครัวเรือนละไม่ต่ำกว่า 2 แสนบาทต่อปี
ทั้งนี้ ปัญหาสำคัญที่สุดของเกษตรกร ขาดที่ทำกิน ต้องเร่งจัดสรรที่ทำกินให้กับเกษตรกร ขยายผลการยกระดับเอกสารสิทธิให้เป็นโฉนดเพื่อการเกษตร รวมถึงพัฒนาช่องทางการเข้าถึงแหล่งทุน พร้อมยกระดับโครงสร้างพื้นฐานทางการเกษตรให้เกษตรกรในเขตปฏิรูปที่ดิน และสามารถแปลงสินทรัพย์ในที่ดินให้เป็นแหล่งเงินทุนเพื่อสร้างรายได้และความยั่งยืนให้กับเกษตรกรและการบริหารจัดการน้ำแบบครบวงจร จะต้องเชื่อมโยงกับทุกหน่วยงานในการแก้ไขปัญหาอย่างเป็นรูปธรรม
“สำหรับกรณีนายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม ระบุจะหยิบยกโครงการสร้างเขื่อนแก่งเสือเต้นขึ้นมาใหม่เพื่อแก้ปัญหาน้ำท่วม น้ำแล้ง ซ้ำซากในแม่น้ำยม ถ้าเป็นนโยบายของรัฐบาล กระทรวงเกษตรฯก็พร้อมจะดำเนินการ ซึ่งต้องมีการหารือรัฐบาลให้ชัดเจนอีกครั้ง หากจะมีการดำเนินการต้องศึกษาผลกระทบทางสังคมและสิ่งแวดล้อมใหม่ และจะต้องรับฟังความคิดเห็นรอบด้านจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ชุมชน และภาคประชาสังคม หากมีข้อกังวลเกี่ยวกับกระทบที่จะเกิดขึ้นก็จะต้องหารือร่วมกันว่าจะมีจุดร่วมอย่างไร เมื่อเปรียบเทียบกับประโยชน์ของการสร้างอ่างเก็บน้ำในลุ่มน้ำยม เนื่องจากเป็นลุ่มน้ำเดียวของต้นน้ำลุ่มเจ้าพระยาที่เป็นลุ่มน้ำเดียวที่ไม่มีอ่างเก็บน้ำรองรับทำให้เกิดน้ำท่วมน้ำแล้งซ้ำซาก” นางนฤมล กล่าว
นางนฤมล กล่าวด้วยว่าปัญหาภัยพิบัติมีความถี่มากขึ้น ได้สั่งการกรมชลประทาน เตรียมพร้อมตลอด 24 ชั่วโมง รับมือสถานการณ์น้ำ ซึ่งเมื่อวันที่13 กันยายน ท่านองคมนตรี ได้มาเป็นประธานการประชุมติดตามสถานการณ์น้ำ และย้ำให้นำโครงการที่ศึกษาไว้แล้วมาเดินหน้าเข้าสู่ขั้นตอนการก่อสร้างเพื่อป้องกันภัยพิบัติให้มีประสิทธิภาพ พร้อมกับแผนเผชิญเหตุ การเตือนภัยอย่างทันเหตุการณ์ จะช่วยบรรเทาผลกระทบที่จะเกิดกับประชาชนได้มากที่สุด
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี