ตร.ท่องเที่ยวบุกจับ
ช่างตัดผมเมียนมา
ลอบหนีเข้าเมือง
สารภาพรายได้งาม
ตำรวจท่องเที่ยวบุกรวบช่างตัดผมชาวเมียนมา ฟันรายได้เดือนละ 3-4.5 หมื่นบาท สารภาพไม่มีหนังสือเดินทาง จ่าย 2 หมื่นบาท แลกหลบหนีเข้าเมือง
เมื่อวันที่ 16 กันยายน 2567 พล.ต.ท.ศักย์ศิรา เผือกอ่ำ ผู้บัญชาการตำรวจท่องเที่ยว (ผบช.ทท.) สั่งการให้ พ.ต.ท.วินิจ บุญชิต สว.ส.ทท.5 กก.2 บก.ทท.3 ระดมกวาดล้างอาชญากรรม แรงงานข้ามชาติ แย่งอาชีพคนไทย และการกระทำความผิดในคดี 10 กลุ่มต้องห้าม โดยมีการจับกุมนายวี อายุ 20 ปี สัญชาติเมียนมา ได้ที่บ้านพักไม่มีบ้านเลขที่ หมู่ 4 ต.เกาะพะงัน อ.เกาะพะงัน จ.สุราษฎร์ธานี พร้อมของกลางเป็นอุปกรณ์การตัดผม พร้อมแจ้งข้อหา “เป็นบุคคลต่างด้าวเข้ามาและอยู่ในราชอาณาจักรโดยไม่ได้รับอนุญาต และเป็นบุคคลต่างด้าวทำงานโดยไม่มีใบอนุญาตทำงาน” นำตัวส่งพนักงานสอบสวน สภ.เกาะพะงัน ดำเนินคดีตามกฎหมาย
นายวี รับสารภาพว่า ตนประกอบอาชีพช่างตัดผมมาเป็นเวลา 1 ปี ลูกค้าส่วนใหญ่เป็นชาวต่างชาติและชาวเมียนมาด้วยกัน ส่วนใหญ่รู้จักจากการโฆษณาตัดผมเป็นภาษาเมียนมา และเป็นภาษาอังกฤษ ราคาขึ้นอยู่กับทรงผมที่ลูกค้าเลือก เริ่มต้น 300 บาทขึ้นไป โดยสถานที่ที่ใช้ตัดผมจะมีการเปลี่ยนไปเรื่อยๆ ขึ้นอยู่กับการนัดแนะ ลูกค้าจะต้องจ่ายค่าน้ำมัน ขึ้นอยู่กับระยะทาง มีรายได้เฉลี่ยต่อวัน 1,000-2,000 บาท รายได้เฉลี่ยต่อเดือน 30,000-45,000 บาทต่อเดือน ยอมรับว่าตนไม่มีหนังสือเดินทาง เนื่องจากได้หลบหนีเข้าเมืองผ่านช่องทาง จ.ระนอง โดยมีค่าใช้จ่าย 20,000 บาท จ่ายให้กับคนไทยไม่ทราบชื่อสกุลจริง
พล.ต.ท.ศักย์ศิรา ได้กำชับหัวหน้าสถานีตำรวจท่องเที่ยวในแหล่งท่องเที่ยวนำร่องและพื้นที่ใกล้เคียงเร่งกวาดล้างการกระทำผิดของกลุ่มชาวต่างชาติที่เข้ามาแฝงตัวก่ออาชญากรรมทุกรูปแบบ ให้ดำเนินคดีเด็ดขาดไม่เว้นทุกกรณี เพื่อสร้างภาพลักษณ์การท่องเที่ยวสร้างความเชื่อมั่นให้กับนักท่องเที่ยวช่วงไฮซีซั่นนี้
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี