มหาวิทยาลัยสวนดุสิต ร่วมกับ วช.พัฒนาเครือข่ายความร่วมมือระหว่างภาคชุมชน ภาครัฐ เอกชน และสถาบันอุดมศึกษาในลักษณะจตุรภาคี(Quadruple Helix) เพื่อพัฒนาผลิตภัณฑ์ทางการเกษตรปลอดภัยที่มีมาตรฐาน เพิ่มมูลค่า และเข้าสู่มาตรฐานสากล และพัฒนาเส้นทางการท่องเที่ยวเชิงเกษตรและวัฒนธรรมที่ช่วยส่งเสริมผลิตภัณฑ์ทางการเกษตรปลอดภัยจ.สุพรรณบุรีให้เป็นที่รู้จักอย่างแพร่หลาย โดย รศ.ดร.พรรณี สวนเพลง ผู้อำนวยการโครงการศูนย์รวมผู้เชี่ยวชาญทางด้านการท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมอาหาร ภายใต้การกำดูแลของมหาวิทยาลัยสวนดุสิต และสำนักงานการวิจัยแห่งชาติ (วช.) กองทุนส่งเสริมวิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม เปิดเผยถึงการจัดกิจกรรมงานเสวนาการดำเนินโครงการ “สุพรรณบุรีโมเดล…เมืองต้นแบบอาหารปลอดภัยสู่ความยั่งยืน” ในงาน “มหกรรมงานวิจัยแห่งชาติ 2567” โดยมี ผศ.ดร.พิทักษ์ จันทร์เจริญ รักษาการแทนอธิการบดีมหาวิทยาลัยสวนดุสิต กล่าวเปิดการเสวนาว่าเพื่อสนับสนุนการพัฒนา จ.สุพรรณบุรีให้เป็นศูนย์กลางของเมืองอาหารและเกษตรปลอดภัย หลังจากดำเนินงานโครงการวิจัยเชิงพื้นที่จ.สุพรรณบุรีมาเป็นระยะเวลากว่า 10 ปี เพื่อพัฒนางานวิจัยและการถ่ายทอดองค์ความรู้ด้านวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี และนวัตกรรม สู่การพัฒนาอาชีพและยกระดับคุณภาพชีวิตในชุมชน สร้างเศรษฐกิจที่ยั่งยืน ส่งเสริมคุณภาพชีวิตที่ดี และสังคมที่มีสุข
ซึ่งการเสวนาในครั้งนี้ได้รับเกียรติจาก รศ.ดร.ชนะศึก นิชานนท์ รองอธิการบดีฝ่ายบริหาร วิจัย และนวัตกรรม ดร.สรชัด สุจิตต์ สส.จังหวัดสุพรรณบุรี ณัชกฤติ พิมพ์ทอง กรรมการผู้จัดการวิสาหกิจชุมชนสิริสุพรรณ ชาตรี รักธรรม ที่ปรึกษากลุ่มวิสาหกิจชุมชนสวนกล้วยอู่ทอง และสุภคม เอื้อทยา สมาชิกวิสาหกิจชุมชนคนรักษ์บ้านโพธิ์ ร่วมเสวนาแลกเปลี่ยนเรียนรู้แนวทางการสร้างความยั่งยืนผ่านการพัฒนาจ.สุพรรณบุรี เป็นเมืองอาหารปลอดภัย นอกจากนี้ยังมีการสาธิตการทำอาหารโดย เชฟจารึก ศรีอรุณ อาจารย์ประจำโรงเรียนการเรือน มหาวิทยาลัยสวนดุสิต ที่นำวัตถุดิบทางการเกษตรปลอดภัยของจ.สุพรรณบุรีพัฒนาเป็นเมนูอาหารพร้อมทาน
“เป้าหมายสำคัญของการดำเนินงานของศูนย์รวมผู้เชี่ยวชาญจะก่อให้เกิดผลกระทบ คือ 1) ด้านความเข้มแข็งในเชิงวิชาการ ด้วยการบูรณาการองค์ความรู้ของนักวิทยาศาสตร์นักสังคมศาสตร์สู่การตีพิมพ์บทความวิจัย การจัดประชุมเชิงวิชาการสร้างองค์ความรู้ใหม่จากต้นทุนทางวัฒนธรรมด้านอาหารไทยร่วมกับนักวิชาการเครือข่ายต่างประเทศ เพื่อเผยแพร่องค์ความรู้สู่สากล 2) ผลกระทบทางด้านเศรษฐกิจ นำองค์ความรู้เชิงวิชาการมาเป็นแนวทางร่วมเพื่อการพัฒนากิจกรรมตลอดจนทรัพยากรทางการท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมอาหารของไทย รวมถึงการวางแนวทางเพื่อการส่งเสริมการท่องเที่ยวซึ่งสร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจที่สำคัญให้กับประเทศ 3) ผลกระทบทางด้านสังคม สืบสาน อนุรักษ์ ภูมิปัญญาอาหารท้องถิ่นไทยให้กลายเป็นทุนทางวัฒนธรรม และก่อให้เกิดทุนสังคมที่สำคัญของประเทศ” รศ.ดร.พรรณี กล่าวทิ้งท้าย
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี