ชั่วพริบตาทะลักท่วมตัวเมือง
น้ำป่าถล่ม‘พะเยา’
บ้าน-รถยนต์เสียหายยับ
‘สตูล’ท่วมขยายวงกว้าง
ครม.เคาะ 3 พันล.เยียวยา
อุตุเตือนฝนหนัก 20-23 ก.ย.
กรมอุตุฯชี้ไทยยังมีฝนหนักถึง21 กันยายนนี้“พะเยา”อ่วมหนักน้ำป่าทะลักท่วมพื้นที่ ม.พะเยา อพยพนักศึกษาวุ่น มท.1 เผยควบคุมสถานการณ์อยู่ ไม่ได้ประกาศพื้นที่ภัยพิบัติ ขณะที่หนองคาย เร่งสูบน้ำออกจากตัวเมือง ส่วน จ.เชียงราย เจ้าหน้าที่เข้าฟื้นฟูพื้นที่แล้ว ด้าน จ.สตูล น้ำท่วมขยายวงกว้าง นายกฯ สั่ง คอส.-ศปช.ติดตามใกล้ชิด ย้ำให้ทุกหน่วยพร้อมรับมือสถานการณ์น้ำ-จัดงบกลางเยียวยาผู้ประสบภัยโดยเร็ว
เมื่อวันที่ 17กันยายน กรมอุตุนิยมวิทยา ออกประกาศเรื่อง พายุดีเปรสชันฉบับที่ 1 ระบุว่าพายุดีเปรสชันบริเวณทะเลจีนใต้ตอนบน มีความเร็วลมสูงสุดใกล้ศูนย์กลางประมาณ 56 กิโลเมตรต่อชั่วโมง กำลังเคลื่อนตัวทางทิศตะวันตก ด้วยความเร็วประมาณ 3 กิโลเมตรต่อชั่วโมง มีแนวโน้มจะทวีกำลังแรงขึ้นเป็นพายุโซนร้อน และคาดว่าช่วงวันที่ 20-21กันยายน 2567 จะเคลื่อนขึ้นฝั่งบริเวณประเทศเวียดนามตอนกลาง หลังจากนั้นจะอ่อนกำลังลงตามลำดับ ลักษณะเช่นนี้ทำให้ประเทศไทยมีฝนเพิ่มขึ้นและมีฝนตกหนักถึงหนักมาก โดยภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ กทม.และปริมณฑล ภาคตะวันออก และภาคใต้มีฝนตกหนักมากบางแห่ง และมีลมแรงช่วงวันที่ 20–23 กันยายน 2567
อุตุฯเผยไทยฝนตกหนัก17-21ก.ย.
อนึ่ง ช่วงวันที่ 17–21 กันยายน 2567 ร่องมรสุมกำลังค่อนข้างแรงพาดผ่านภาคเหนือตอนล่าง ภาคกลาง และภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ในขณะที่มรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังแรงพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ภาคใต้ และอ่าวไทย ลักษณะเช่นนี้ทำให้ภาคเหนือตอนล่าง และภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลางรวมทั้ง กทม.และปริมณฑล มีฝนตกหนักบางแห่ง โดยมีฝนตกหนักมากบางพื้นที่บริเวณภาคตะวันออก และภาคใต้
ทะเลอันดามัน-อ่าวไทยคลื่นสูง
ส่วนคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยจะมีกำลังแรงขึ้น โดยทะเลอันดามันและอ่าวไทยตอนบนมีคลื่นสูง 2-4 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงกว่า 4เมตร ส่วนอ่าวไทยตอนล่างมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงกว่า 3 เมตร ขอให้ชาวเรือในบริเวณดังกล่าวเดินเรือด้วยความระมัดระวังและหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง ส่วนเรือบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยควรงดออกจากฝั่งในช่วงวันและเวลาดังกล่าว
ปภ.เตือนจังหวัดริมโขงรับมือน้ำ
กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) รายงานคาดการณ์และแจ้งเตือนภัย ดังนี้ สถานการณ์ระดับแม่น้ำโขงเพิ่มสูงขึ้นภาคตะวันออกเฉียงเหนือ จ.หนองคาย และบึงกาฬ ขอให้ประชาชนในพื้นที่ดังกล่าวเตรียมพร้อมรับสถานการณ์ เตรียมอพยพกลุ่มเปราะบางออกจากพื้นที่ และขนย้ายข้าวของขึ้นที่สูง ส่วนพื้นที่เฝ้าระวังน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และน้ำท่วมขังระยะสั้นภาคเหนือ จ.ลำปางและพะเยา ภาคกลาง จ.ตราด ภาคใต้ จ.ระนอง พังงา ภูเก็ต กระบี่ ตรัง และสตูล
พื้นที่เฝ้าระวังน้ำล้นตลิ่ง น้ำท่วมขังภาคเหนือ จ.เชียงใหม่ เชียงราย สุโขทัย และพิษณุโลกภาคตะวันออกเฉียงเหนือ จ.หนองคาย อุดรธานี สกลนคร และบึงกาฬภาคกลาง จ.อ่างทอง พระนครศรีอยุธยา และปราจีนบุรี ภาคใต้ จ.ชุมพร สุราษฎร์ธานี ระนอง พังงา ภูเก็ต และสตูล ขณะที่พื้นที่เฝ้าระวังระดับแม่น้ำโขงเพิ่มสูงขึ้นภาคตะวันออกเฉียงเหนือ จ.บึงกาฬ และนครพนม
พะเยาอ่วมน้ำป่าหลากกลางดึก
ที่ จ.พะเยา ผู้สื่อข่าวรายงานว่าช่วงกลางดึกที่ผ่านมา ได้เกิดฝนตกหนักหลายจุด ทำให้พื้นที่เสี่ยงอย่างบริเวณหอพักหน้า มหาวิทยาลัยพะเยา ต.แม่กา อ.เมือง จ.พะเยา เกิดน้ำป่าไหลหลากนักศึกษาไม่ต่ำกว่า1,000 ชีวิตต่างต้องพากันหนีตายอย่างโกลาหล โดยบางรายติดอยู่ภายในหอพักไม่สามารถออกมาได้รวมถึงยานพาหนะทั้งรถยนต์ จักรยานยนต์ ต่างถูกน้ำป่าซัดกระจัดกระจายไป ทั้งนี้พบว่าระดับน้ำสูงไม่ต่ำกว่า 1 เมตร ซึ่งทางกู้ภัยจากหลายหน่วยในพื้นที่ จ.พะเยาและ จ.เชียงราย ได้ลงพื้นที่เข้าช่วยเหลืออย่างเร่งด่วน
ฝนกระหน่ำน้ำท่วมม.พะเยา
นายนิกร ยะกะจาย นายอำเภอเมืองพะเยา เปิดเผยว่า ตลอดคืนใน อ.เมือง จ.พะเยามีฝนตกอย่างหนัก ทำให้น้ำป่าที่ไหลมาตามลำน้ำแม่ต๋ำด้านหลังหอพักนักศึกษา มหาวิทยาลัยพะเยา ได้เอ่อเข้าท่วมอย่างรวดเร็ว ทำให้หลายคนหนีกันเกือบไม่ทัน จึงประสานไปยังหน่วยงานต่างๆ เร่งให้การช่วยเหลือ ทั้งนี้ ทางป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยพะเยา รวมทั้งกู้ภัยจากอีกหลายหน่วย ได้เข้าช่วยเหลือนักศึกษาที่ติดค้างอยู่ในหอพัก และขนย้ายข้าวของต่างๆ ออกมาแล้ว
อธิการบดีฯให้นศ.ออกจากพื้นที่
ด้าน รศ.ดร.สุภกรพงศบางโพธิ์ อธิการบดีมหาวิทยาลัยพะเยา กล่าวว่า ทางมหาวิทยาลัยใช้อาคารเก่าด้านหน้าซึ่งเป็นของตำรวจในพื้นที่เป็นศูนย์พักพิงให้นักศึกษา ชั่วคราว และมีการประสานเรื่องการจัดหาอาหารและเครื่องดื่ม มาส่งมอบให้นักศึกษา โดยสถานการณ์น้ำท่วมครั้งนี้ถือว่าหนักหนามาก นักศึกษาบางรายได้รับบาดเจ็บระหว่างหนีน้ำ อย่างไรก็ตาม ได้แจ้งให้นักศึกษาออกจากพื้นที่น้ำท่วมของมหาวิทยาลัย เนื่องจากเกรงว่าจะเกิดอันตราย โดยหลายจุดคณะอาจารย์ ได้เข้าช่วยเหลือนักศึกษาเพื่อพาออกมายังจุดปลอดภัยแล้ว
พ่อเมืองพะเยาลงพื้นที่สั่งการ
ขณะที่นายรัฐพล นราดิศร ผวจ.พะเยา พร้อมคณะ ได้ลงพื้นที่พร้อมกับสั่งการให้ทุกหน่วยงานเข้าช่วยเหลือและประเมินสถานการณ์น้ำท่วม ซึ่งหลังจากนี้จะหาแนวทางในการป้องกันปัญหาต่อไป
รมช.มหาดไทยสั่งปภ.เร่งช่วย
น.ส.ธีรรัตน์ สำเร็จวาณิชย์ รมช.มหาดไทย กล่าวถึงเหตุการณ์น้ำท่วม จ.พะเยา ว่าน้ำเข้าท่วมพื้นที่ตั้งแต่ช่วงกลางดึก ทางกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) แจ้งว่าได้อพยพประชาชนออกจากพื้นที่แล้ว ทั้งนี้ด้วยความที่น้ำมาแรงต้องคำนึงถึงความปลอดภัย จึงแจ้งเตือนให้พี่น้องประชาชนไปอาศัยในพื้นที่ปลอดภัยขณะเดียวกันได้รับทราบจากกระทรวงกลาโหมว่าส่งกำลังทหารเข้าพื้นที่ เพื่อช่วยเหลือประชาชนด้วย เนื่องจากน้ำเข้ามาตอนกลางคืน เร็วและแรงทำให้ประชาชนบางส่วนตั้งตัวไม่ทัน
แจ้งเตือนจ.เลย-หนองคายรับมือ
รมช.มหาดไทย กล่าวอีกว่า ส่วนความช่วยเหลือยืนยันว่าจะลงไปในพื้นที่ให้เร็วที่สุด ตนได้ประสานกับกู้ภัยให้ เข้าพื้นที่ จ.พะเยา แล้ว พร้อมกับแจ้ง เตือนไปยังพื้นที่ซึ่งน้ำจะไหลไปถึง เช่น จ.เลย และ จ.หนองคาย และอาจจะขยายวงกว้างไปยังพื้นที่อื่นๆ เพิ่มเติม จึงขอให้ประชาชนพื้นที่ดังกล่าว ติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด หากได้รับการแจ้งเตือนขอให้รีบออกจากพื้นที่ไปยังจุดที่ปลอดภัย
มท.1ยันมีการเตือนภัยทุกรูปแบบ
ส่วนนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.มหาดไทย กล่าวถึงสถานการณ์น้ำท่วมจ.พะเยา ว่าทาง ผวจ.พะเยา รายงานสถานการณ์แล้วว่าควบคุมได้ จะพิจารณาดูเรื่องความเสียหาย ไม่ต้องประกาศพื้นที่ภัยพิบัติ ขณะนี้น้ำเริ่มลดลง ยืนยันว่ามีมาตรการเตือนภัยทุกรูปแบบทั้งอนาล็อกและดิจิทัลรวมถึงมาตรการเฝ้าระวัง ถ้าประชาชนอยู่ในพื้นที่ไม่อพยพก็มีการเตรียมพร้อมอย่างดี ไม่มีใครอยากทิ้งบ้านเรือน ถ้าใครอยู่ก็จัดเจ้าหน้าที่ดูแลความปลอดภัย แต่หากไม่อยู่ก็มีเจ้าหน้าที่คอยดูแลทรัพย์สินให้ เยียวยาผู้ประสบภัยตามเกณฑ์
ผู้สื่อข่าวถามถึงการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เรื่องการช่วยเหลือประชาชนผู้ประสบอุทกภัยว่าจะช่วยเหลืออย่างไรบ้าง นายอนุทิน กล่าวว่า เรื่องเงินเยียวยา การชดใช้ความเสียหาย เป็นไปตามหลักเกณฑ์ของปภ.โดยนายกรัฐมนตี ให้แนวทางไว้แล้ว น่าจะเห็นชอบในหลักการ ทั้งเรื่องการยกเว้นค่าไฟฟ้าเดือนกันยายนนี้ และลดค่าไฟฟ้าเดือนตุลาคม รวมทั้งการยกเว้นค่าน้ำประปาด้วย โดยเฉพาะน้ำที่ต้องใช้อุปโภค บริโภค ฉีดไล่โคลนจะบริการให้
ชี้ปภ.ทำได้เพียงบรรเทาปัญหา
เมื่อถามถึงสถานการณ์น้ำท่วมในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ซึ่งอีก 3 วันมวลน้ำจาก จ.หนองคาย จะไหลไป จ.อุบลราชธานี เตรียมพร้อมรับมืออย่างไร นายอนุทิน กล่าวว่เรื่องการป้องกันมีการหารือว่าภารกิจหน้าที่จะอยู่ที่สำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (สทนช.) ส่วนทาง ปภ.ทำได้เพียงการบรรเทาปัญหา เพราะงบประมาณเรื่องการป้องกันขอไปไม่เคยได้ถูกตัดหมด ปีที่แล้วฝายแกนดินซีเมนต์ ตั้งงบไว้ 3,000 ล้านบาท
สร้างไม่ได้สักฝาย เพราะเขาบอกว่าภารกิจนี้ไม่เกี่ยวต้องผ่าน สทนช.ตอนนี้กระทรวงมหาดไทยทำได้เพียงแค่เยียวยาและดูแล ซึ่งเราก็ไม่ได้บกพร่อง ตนชี้แจงกับนายกฯไปแล้ว ซึ่งนายกฯ คงต้องหาวิธีปรับ เพราะใครทำก็ไม่มีปัญหา แต่ขอให้ได้ทำ
นายกฯสั่งคอส.-ศปช.รุดติดตาม
ด้าน น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เป็นประธานการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) นัดแรก โดยนายกฯ กล่าวว่า ได้แต่งตั้งคณะกรรมการอำนวยการและบริหารสถานการณ์ อุทกภัย วาตภัย และดินโคลนถล่ม (คอส.) และศูนย์ปฏิบัติการช่วยเหลือผู้ประสบภัยอุทกภัย วาตภัย และดินโคลนถล่ม (ศปช.) เพื่อแก้ปัญหาที่เกิดขึ้น โดยขอให้เร่งติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด ดำเนินการตามแผนงานที่วางไว้ และหากมีเหตุฉุกเฉินให้เร่งแก้ไขอย่างทันท่วงที
พร้อมช่วยเหลือ-เยียวยาทุกพื้นที่
นายกฯ กล่าวอีกว่า มีรายงานจากสทนช.ว่าปริมาณน้ำฝนตกมากใน จ.ภูเก็ตและ จ.พะเยา และอีกหลายจังหวัดในพื้นที่ภาคตะวันออก โดยเมื่อวันที่ 16 กันยายนที่ผ่านมา ได้รับแจ้งเรื่องสถานการณ์น้ำและฝนตกหนักจนถึงวันที่ 21กันยายน จึงขอให้ทุกฝ่ายเตรียมพร้อม และรับแจ้งว่า จ.พะเยา มีน้ำท่วมแต่น้ำได้ลดลงและนักศึกษามหาวิทยาลัยพะเยา ได้รับการช่วยเหลือแล้ว หลังจากนี้จะพิจารณามาตรการเยียวยาผู้ที่ได้รับผลกระทบจากอุทกภัยเพิ่มเติม จากที่ดำเนินการอยู่แล้ว ทั้งนี้ ได้อนุมัติเรื่องที่กระทรวงมหาดไทย เสนอขอใช้งบกลางประมาณ 3,045ล้านบาท ก็ขอให้ทุกระทรวงพิจารณา หากมีความจำเป็นให้เสนอ ครม.
ย้ำให้กระทรวงดีอีแจ้งเตือนภัย
น.ส.แพทองธาร กล่าวต่อว่า นอกจากนี้ได้ขอให้หน่วยงานที่เกี่ยวกับการแจ้งเตือนภัย เช่น กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอี) กรมอุตุนิยมวิทยา และกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) ตรวจสอบระบบการแจ้งเตือนภัยให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้นเมื่อเกิดสถานการณ์ในพื้นที่ต่างๆ
หนองคายใช้เรือส่งอาหาร-น้ำดื่ม
ส่วนที่ จ.หนองคาย ผู้สื่อข่าวรายงานสถานการณ์น้ำท่วมในตัวเมืองหนองคาย ว่าน้ำยังท่วมสูง ถนนประจักษ์ศิลปาคม ที่เป็นถนนสายหลักในเขตเทศบาล น้ำสูงประมาณ 30-50 เซนติเมตร เจ้าหน้าที่ต้องใช้เรือในการเข้าไปส่งอาหารและน้ำดื่ม สำหรับจุดที่ระดับน้ำสูง ทางการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค ได้ตัดกระแสไฟฟ้าชั่วคราว เพื่อความปลอดภัย
เร่งสูบน้ำออกจากเมืองหนองคาย
ทั้งนี้ ระดับน้ำวัดที่ส่วนอุทกวิทยาหนองคาย กรมทรัพยากรน้ำ อยู่ที่ 13.24 เมตร ต่ำกว่าค่าเฉลี่ยระดับตลิ่ง 1.04 เมตร มีแนวโน้มลดลง บริเวณชุมชนวัดธาตุ ซึ่งเป็นจุดที่ตลิ่งมีระดับต่ำและเป็นจุดที่มีการวางกระสอบทรายกั้นน้ำ ระดับน้ำโขงเริ่มต่ำกว่าตลิ่ง ขณะเดียวกัน เทศบาลเมืองหนองคายได้ติดตั้งเครื่องสูบน้ำขนาดใหญ่เพิ่ม เพื่อเร่งสูบน้ำออกจากตัวเมืองลงสู่แม่น้ำโขง อย่างไรก็ตาม แม้ระดับน้ำจะเริ่มลดลงแต่หลายครอบครัวในชุมชนวัดธาตุ ยังคงต้องอาศัยเต็นท์ของเทศบาลเมืองหนองคาย ในการอาศัยอยู่ต่อไป เนื่องจากบ้านพักยังมีน้ำและดินโคลน ยังไม่สามารถเข้าไปทำความสะอาดได้
เชียงรายช่วยผู้ประสบอุทกภัย
วันเดียวกัน ที่ จ.เชียงราย นายวันชัย จงสุทธานามณี นายกเทศมนตรีนครเชียงราย ได้ขออนุมัติสภาเทศบาลฯ เร่งด่วน เพื่อช่วยเหลือผู้ประสบภัยน้ำท่วมในเขตเทศบาลฯ รวม 52 ชุมชน ซึ่งมีบ้านเรือนได้รับความเสียหายกว่า 10,000 หลังคาเรือน ส่วนศูนย์ช่วยเหลือผู้ประสบภัยได้มีการกระจายความช่วยเหลือออกไป ขณะนี้ทางเจ้าหน้าที่ได้ตั้งศูนย์รับลงทะเบียนฯ 6 จุด ได้แก่ โรงเรียนเทศบาล 8 บ้านใหม่, โรงเรียนเทศบาล 6 นครเชียงราย (ฝั่งม.ต้น), ด้านหน้าบ่อบำบัดน้ำเสีย, ปากทางเข้าชุมชนเกาะลอย, ศาลาชุมชนน้ำลัดและสำนักงานเทศบาลนครเชียงราย โดยชาวบ้านได้ทยอยกันลงทะเบียนเพื่อรับความช่วยเหลือ
ทำความสะอาดพื้นที่ต่อเนื่อง
สำหรับการทำความสะอาดและการฟื้นฟูพื้นที่ ยังคงดำเนินการอย่างต่อเนื่อง มีชาวบ้านนำขยะมากองรวมไว้เป็นจำนวนมากเพื่อรอการจัดเก็บของทางเทศบาลนครเชียงรายส่วนใหญ่จะอยู่ริมถนนทางเข้าแต่ละชุมชนและหน้าบ้านที่ถูกน้ำท่วม ซึ่งทรัพย์สินภายในบ้านได้รับความเสียหายเกือบทั้งหมด จนยังไม่สามารถประเมินมูลค่าความเสียหายได้
สตูลน้ำท่วมพื้นที่ขยายวงกว้าง
ที่ จ.สตูล ผู้สื่อข่าวรายงานสถานการณ์น้ำท่วมว่ายังคงวิกฤติเนื่องจากปริมาณฝนได้ตกซ้ำมาอีกระลอก ส่งผลให้ปริมาณน้ำเพิ่มขึ้น และท่วมพื้นที่ขยายวงกว้าง โดย ร.ท.สุโภชน์ ทองย้อย รองผู้บังคับหน่วยปฏิบัติการต่อสู้อากาศยานและรักษาฝั่งที่ 452 เป็นหัวหน้าชุดบรรเทาสาธารณภัย สังกัดทัพเรือภาคที่ 3ได้นำกำลังพล เข้าช่วยเหลือเคลื่อนย้ายผู้ป่วยติดเตียงหลังจากมีการร้องขอจากชาวบ้านที่ประสบภัยในพื้นที่หมู่ 5 ต.ฉลุง อ.เมือง จ.สตูล และช่วยขนกระสอบทรายเพื่อทำแนวกั้นน้ำป้องกันน้ำเข้าบ้านเรือน เพื่อบรรเทาปัญหา นอกจากนี้ส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง ได้เร่งนำขยะที่กีดขวางเส้นทางน้ำในลำคลองฉลุงออกมา เพื่อระบายน้ำให้ได้มากยิ่งขึ้น
ผู้ว่าฯสตูลลงบัญชาการในพื้นที่
ขณะเดียวกัน นายศักระ กปิลกาญจน์ผวจ.สตูล ได้ลงพื้นที่เพื่อบัญชาการแก้ปัญหาน้ำท่วมโดยเตรียมใช้เครื่องแรงดันน้ำออกสู่ทะเลโดยเร็ว ซึ่งพบว่าพื้นที่ประสบปัญหา รวม 7 อำเภอ ได้รับความเดือดร้อนหนักที่สุด2 อำเภอ คือ อ.ควนโดน และ อ.เมือง มีโรงเรียนในพื้นที่เสี่ยงน้ำท่วม ประกาศหยุดการเรียนการสอน สำหรับมวลน้ำเริ่มเพิ่มสูงขึ้นเนื่องจากฝนระลอกใหม่ที่ตกเพิ่ม ประกอบกับน้ำทะเลหนุน ส่งผลให้น้ำท่วมกระจายวงกว้าง ชาวบ้านที่อยู่ท้ายน้ำในพื้นที่ อ.เมือง และเป็นจุดที่น้ำท่วมซ้ำซาก ได้เตรียมพร้อมรับมือน้ำไว้แล้ว
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี