วันที่ 18 กันยายน 2567 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากกรณีตำรวจสภ.วังสามหมอ จ.อุดรธานี เข้าระงับเหตุหนุ่มคลั่งอาละวาดบุกจะข่มขืนพี่สาวและจะเผาบ้านตัวเอง เหตุเกิดที่บ้านหลังหนึ่งที่บ้านโนนผักหอม หมู่ 3 ต.วังสามหมอ อ.วังสามหมอ จ.อุดรธานี ทราบชื่อหนุ่มคลั่งรายนี้ว่า นายกฤษณะ (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 28 ปี เสพยาจนบ้าคลั่งถือมีดอีโต้จะเข้ามาทำร้ายเจ้าหน้าที่ตำรวจที่เข้าระงับเหตุ เจอยิงสเปรย์พริกไทยแล้วไม่ยอมหยุด กระสุนยางแล้วก็ไม่ระคายผิว ขณะนั้นนายกฤษณะที่อยู่บนบ้านคว้ามีดวิ่งเข้าใส่เจ้าหน้าที่ที่กำลังปีนบันไดขึ้นไปหา เจอยิงกระสุนใส่หน้าอกได้รับบาดเจ็บ เจ้าหน้าที่ตตำรวจได้รีบนำส่งรพ.วังสามหมอ แต่เสียชีวิตในเวลาต่อมา เหตุเกิดเมื่อช่วงค่ำ วันที่ 15 ก.ย.67 ที่ผ่านมา

ล่าสุด พ.ต.อ.ฉกาจ เทียมวงศ์ รอง ผบก.ตร.ภูธร จ.อุดรธานี ได้เดินทางไปตรวจที่เกิดเหตุพบว่า บ้านที่เกิดเหตุเป็นบ้านไม้ยกพื้นสูง ขณะเกิดเหตุหนุ่มรายนี้หลบอยู่ชั้นบนของบ้าน หลังจากรับแจ้งเหตุจากแม่ของคนก่อเหตุแล้ว เจ้าหน้าที่ตำรวจก็ไปเกลี้ยกล่อม แต่นายกฤษณะก็ไม่ยอมลงมาบ้าน ตำรวจจึงได้ปฏิบัติการตามยุทธวิธี สเปรย์พริกไทยก็เอาไม่อยู่ ยิงกระสุนยางก็ไม่ระคายผิว จังหวะนั้นนายกฤษณะได้คว้ามีดวิ่งเข้าใส่เจ้าหน้าที่ฯ ขณะปีนบันไดขึ้นไปหาแต่ไม้ง่ามป้องกันเอาไว้ได้ก่อน ยังไม่ยอมหยุด ถือมีดพุ่งเข้าใส่เจ้าหน้าที่อีกฯ เจ้าหน้าที่ฯ จึงตัดสินใจยิงใส่นายกฤษณะทำให้ได้รับบาดเจ็บ แล้วไปเสียชีวิตที่รพ.วังสามหมอ จ.อุดรธานี

โดยผู้เป็นแม่และพี่สาวต่างพากันโล่งอก แม้จะเป็นลูกในไส้ น้องในสายเลือด ต่างกันยกมือท่วมหัว เพราะนายกฤษณะมีประวัติเสพยาจนคลั่งมาตั้งแต่อายุ 18 ปี เคยบุกจะข่มขืนพี่สาวหลายครั้งและก่อเหตุจะเผาบ้านจนตำรวจมาระงับเหตุ หลังตำรวจวิสามัญ ทางแม่นายกฤษณะไม่ขอรับศพลูกชายมาบำเพ็ญกุศลแบบตายไม่เผาผีเลย ทางแม่ขอมอบศพให้มูลนิธิไปเลย

พ.ต.อ.ฉกาจ เทียมวงศ์ รอง ผบก.ตร.ภูธร จ.อุดรธานี เปิดเผยว่า เคสนี้ ตำรวจสภ.วังสามหมอ รับแจ้งจากคนเป็นแม่ให้ไประงับเหตุที่บ้านโนนผักหอมว่าลูกชายเสพยาจนคลั่งบุกจะข่มขืนพี่สาว จะเผาบ้าน และลับมีดเอาไว้ทำร้ายคนในหมู่บ้าน ตำรวจเราก็ไประงับเหตุจนสุดท้ายต้องวิสามัญเพราะหนุ่มคนนี้สู้ถือมีดวิ่งเข้าใส่เจ้าหน้าที่ สำหรับนายกฤษณะมีประวัติติดคุกคดีข่มขืนเด็กเพิ่งพ้นโทษมาได้เพียง 2-3 เดือนก่อนเกิดเหตุเสพยาวันนั้น 18 เม็ดจนคลุ้มคลั่ง บุกจะข่มขืนพี่สาวพอข่มขืนไม่ได้ก็อาละวาดเผาบ้าน คนเป็นแม่ก็แจ้งตำรวจ  เราก็ทำตามยุทธวิธี เกลี้ยกล่อม ให้ลงมาจากบ้าน เพราะบ้านเกิดเหตุเป็นบ้านยกพื้นสูง บันไดขึ้นบ้านสูงเอียง 70 องศา ตำรวจเราก็ขึ้นไปไม่ได้ จังหวะนั้นเอง ตำรวจก็ปีนบันไดฉีดสเปย์พริกไทยใส่ก็แล้ว ยิงกระสุนยางก็ไม่ระคายผิว นายกฤษณะที่มีอาการคลุ้มคลั่งอยู่แล้วถือมีดพุ่งเข้าใส่เจ้าหน้าที่ ตร.ที่เข้าระงับเหตุจึงตัดสินใจยิงใส่จนได้รับบาดเจ็บและไปเสียชีวิตที่รพ.วังสามหมอ

ซึ่งทราบจากคนเป็นแม่และพี่สาวว่า คนในครอบครัวโล่งอกเป็นอย่างมากแม้นายกฤษณะจะเสียชีวิตไป เพราะที่ผ่านมาทั้งคนเป็นแม่และพี่สาวทุกข์ใจกับน้องชายที่เสพยาวันละ 18 เม็ด ถามว่าได้เงินมาจากไหนเสพวันละเยอะขนาดนั้นทราบว่า แต่ก่อนพี่สาวที่อยู่เมืองนอกส่งให้วันละเป็นพัน พอไปเสพยา พี่สาวก็ส่งให้ใช้วันละ 100-200 บาท หลังเกิดเหตุแล้วทางครอบครัวไม่ขอรับศพไปบำเพ็ญกุศลมอบศพให้ตำรวจ ตำรวจก็บอกว่ารับไว้ไม่ได้ หากแม่ไม่เอาศพลูกไปบำเพ็ญกุศลก็มอบศพให้มูลนิธิแต่ต้องมาเซ็นต์ยินยอม แม่ก็ยอม โดยบอกว่า จะเอาแค่กระดูกกลับบ้านแค่นั้นและขอบคุณเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ปฏิบัติในครั้งนี้ด้วย