ผู้บังคับการตรวจคนเข้าเมือง 4 แถลงผลงานรวบ 5 ผู้ต้องหาขนเฮโรอีน 19 กิโลกรัมขนข้ามโขงเข้าประเทศไทย เตรียมนำส่งออกต่างประเทศ มูลค่าเกือบ 200 ล้าน ส่วนอีกคดีจับแก๊งค้ามนุษย์ลวงเด็กหญิงลาวค้ามนุษย์
เมื่อเวลา 14.00 น. วันที่ 18 ก.ย.67 ที่ห้องประชุมมิตรภาพ ตรวจคนเข้าเมืองหนองคาย พล.ต.ต.ปิยะอนันต์ โตสกุลวงศ์ ผบก.ตม.4, พ.ต.อ.กฤชมงกุฎ บูรณะภักดี ผกก.ตรวจคนเข้าเมืองหนองคาย, ทหาร ตำรวจ พร้อมหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้ร่วมกันแถลงข่าวการจับกุมคดียาเสพติดสำคัญ 2 คดี คดีแรกเป็นคดียาเสพติด จับผู้ต้องหา 5 ราย ประกอบด้วย นางวัน ชาวลาว, นางยง,นายแป๊ะ, นายด้วน และนายเอิบ ชาวไทย ของกลางเฮโรอีนซ่อนในกล่องโฟมล้างหน้า บรรจุในกระเป๋าสะพาย 4 ใบ ตรวจสอบตามกระบวนการวิทยาศาสตร์ พบว่าเป็นเฮโรอีน จำนวน 180 กล่อง น้ำหนักประมาณ 19.800 กิโลกรัม (19 กิโลกรัม 800 กรัม) มูลค่าประมาณ 19.8 ล้านบาท
การจับกุมในครั้งนี้ พ.ต.ท.อภิชาติ คลธา สารวัตรตรวจคนเข้าเมืองหนองคาย ได้รับแจ้งว่า จะมีการลักลอบนำยาเสพติดจำนวนมากเข้ามาในประเทศ จึงรายงานให้ พ.ต.อ.กฤชมงกุฎ บูรณะภักดี ผกก.ตม.หนองคาย ทราบและวางแผนจับกุมร่วมกับหน่วยงานข้างเคียง จนในวันที่ 4 ก.ย.ที่ผ่านมา พบเรือหางยาวแล่นมาจากประเทศเพื่อนบ้านเข้าเทียบท่าที่ท่าน้ำวัดกุมประดิษฐ์ ต.โพนสา อ.ท่าบ่อ มีนายด้วน ขับเรือ นางยงและนางวัน นั่งโดยสารมาในเรือ เมื่อถึงฝั่งไทย นายแป๊ะที่รออยู่ริมฝั่งสั่งการให้นางยงและนางวันหิ้วกระเป๋ามาขึ้นรถสามล้อที่นางเอิบจอดรออยู่ จากนั้นนางเอิบได้ขับสามล้อพานางวันและนางยงไปยังสถานีขนส่งหนองคาย เจ้าหน้าที่จึงเข้าจับกุมตัวได้ทั้งหมดพร้อมของกลาง
จากการสอบสวนทั้งหมดให้การรับสารภาพว่าเตรียมนำเฮโรอีนทั้งหมดนี้บรรจุกล่องพัสดุซุกซ่อนส่งไปยังประเทศออสเตรเลีย โดยทำมาแล้ว 6 ครั้ง หากนำไปยังออสเตรเลียได้เฮโรอีนเหล่านี้จะมีมูลค่าสูงถึง 198 ล้านบาท ซึ่งได้แจ้งข้อหา ร่วมกันนำยาเสพติดให้โทษแระเภท 1 เข้ามาในราชอาณาจักร แล้วส่งตัวให้พนักงานสอบสวนสภ.ท่าบ่อ ดำเนินการตามกฎหมาย
ส่วนอีกคดี เป็นการจับกุมขบวนการค้ามนุษย์ พ.ต.อ.กฤชมงกุฎ บูรณะภักดี ผกก.ตม.หนองคาย สั่งการให้ชุดสืบสวนปราบปราม ตม.หนองคาย หาขาวขบวนการเกี่ยวข้องกับการค้ามนุษย์ จนทราบว่ามีเด็กหญิงถูกล่อลวงมาทำงานในร้านคาราโอเกะในพื้นที่ จ.หนองคาย ซึ่งแอบแฝงขายบริการทางเพศ โดยพบว่าเป็นเด็กหญิงลาวอายุประมาณ 13 ปี ลักลอบทำงานในร้านคาราโอเกะแห่งหนึ่ง เมื่อเข้าตรวจสอบไม่พบเด็กหญิง จนทราบว่าได้ย้ายไปทำงานร้านคาราโอเกะ พื้นที่ อ.ศรีสงคราม จ.นครพนม
ต่อมาจึงได้ร่วมกับ ตม.นครพนม และ สภ.ศรีสงคราม เข้าตรวจสอบร้านคาราโอเกะเป้าหมาย พบนายเหน่ง อายุ 51 ปี ชาวไทย มีนางเล็ก ชาวลาวเป็นภรรยาและเป็นผู้ดูแลลูกจ้างหญิงชาวลาว 7 ราย ซึ่งไม่มีใบอนุญาตทำงาน โดยในจำนวนนี้มี 2 ราย เป็นเยาวชนอายุไม่เกิน 18 ปี และ 13 ปี ชาวลาว
จากการสอบถามทราบว่าเป็นเหยื่อของการค้ามนุษย์ โดยนายเหน่งและนางเล็ก ได้จัดให้เด็กหญิงชาวลาว คอยบริการแขกที่มาเที่ยวในลักษณะนั่งดริงค์ ได้ค่าจ้างจากการนั่งดริงค์แบ่งส่วนหนึ่งให้ร้านและของเด็กอีกส่วนหนึ่ง มีเสนอขายบริการทางเพศตามรีสอร์ทที่อยู่ใกล้เคียง โดยเจ้าของร้านทั้งสองได้รับผลประโยชน์จกาการกระทำดังกล่าว เบื้องต้นตำรวจแจ้งข้อหาเจ้าของร้านในข้อหา ค้ามนุษย์ และให้การช่วยเหลือเด็กหญิงชาวลาวตามกลไกการส่งต่อระดับชาติ ประสานตัวส่งกลับประเทศต่อไป.
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี