20 กันยายน 2567 จากกรณีประชาชนถ่ายคลิปวิดีโอวัยรุ่นขี่จักรยานยนต์ในลักษณะแข่งขันกันมา บนถนนหลวงหมายเลข 201 ระหว่างสี่แยกไฟแดงกุดละลม มุ่งหน้าบ้ายค่าย ซึ่งสร้างความหวาดเสียวให้กับผู้พบเห็น และคลิปดังกล่าวได้ถูกแชร์ว่อนอยู่ในโซเชียล

ขณะที่ พ.ต.อ.ประสิทธิ์ เปรมกมล ผกก.สภ.เมืองชัยภูมิ ได้ทราบข้อมูลจึงได้มอบหมายด้านงานจราจร พ.ต.ท.คุณาวุฒิ ใบลี รอง ผกก.จร.สภ.เมืองชัยภูมิ พ.ต.ต.เกรียงไกร มากลาง สว.จร.สภ.เมืองชัยภูมิ ได้เร่งสั่งการให้ ร.ต.อ.อุทัย แก้วศรีพจน์ รอง สว.จร.สภ.เมืองชัยภูมิ พร้อมด้วยจราจรชุดปฏิบัติการที่ 1 ออกติดตามแกะรอยหาข่าวจนทราบชื่อที่อยู่ เป็นเยาวชนอายุไม่เกิน 20 ปี จำนวน 2 รายพร้อมของกลางรถ จยย. 2 คัน และได้เชิญตัวและนำของกลางมาที่ สภ. เมืองชัยภูมิ เพื่อรับทราบข้อกล่าวหาก่อนส่งดำเนินคดีที่ศาลจังหวัดชัยภูมิ

พิพากษาว่า จำเลยทั้งสองมีความผิดตามฟ้อง ขณะกระทำความผิด จำเลยที่ 1 อายุ 19 ปี แต่จำเลยที่ 1 มีความรู้ผิดชอบแล้วจึงไม่ลดมาตราส่วนโทษให้ ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 76 การกระทำของจำเลยทั้งสองเป็นกรรมเดียวเป็นความผิดต่อกฎหมายหลายบท ให้ลงโทษฐานขับรถในลักษณะที่เห็นได้ว่าไม่คำนึงถึงความปลอดภัยในชีวิตหรือร่างกายของผู้อื่น ซึ่งเป็นบทที่มีโทษหนักที่สุด ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 90จำคุกคนละ 6 เดือน และปรับ คนละ 10,000 บาท จำเลยทั้งสองให้การรับสารภาพเป็นเป็นประโยชน์แก่การพิจารณา มีเหตุบรรเทาโทษลดโทษให้กึ่งหนึ่ง คงจำคุกคนละ 3 เดือน และปรับคนละ 5,000 บาท ไม่ปรากฏว่าจำเลยทั้งสองเคยได้รับโทษจำคุกมาก่อน โทษจำคุกให้รอการลงโทษไว้ 2 ปี ให้คุมความประพฤติจำเลยทั้งสองไว้มีกำหนด 1ปี

โดยให้จำเลยทั้งสองไปรายงานตัวต่อพนักงานคุมประพฤติ 4 ครั้ง กับให้จำเลยทั้งสองกระทำกิจกรรมบริการสังคมหรือสาธารณประโยชน์ตามที่พนักงานคุมประพฤติเห็นสมควรเป็นเวลา 24 ชั่วโมง ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 56 หากไม่ชำระค่าปรับให้จัดการตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 29-30 ริบรถจักรยานยนต์ของกลาง จึงขอเตือนเยาวชนอย่าคึกคะนองขับแข่งบนถนนหลวงอีกเนื่องจากอาจจะได้รับอันตราย แก่ตนเองและผู้อื่นโดยอาจรับโทษหนักอย่างเช่นกรณีดังกล่าวอีกด้วย