ปีทองมังคุดในสายหมอกเบตงส่งออกตลาดในและต่างประเทศได้ราคาดี โดยเฉพาะตลาดระดับพรีเมี่ยมที่ประเทศญี่ปุ่น ด้านเกษตรจังหวัดยะลา เดินหน้าขอ GI มังคุดในสายหมอกเบตง สร้างโอกาสเพิ่มมูลค่าและการแข่งขันทางการตลาด
วันที่ 20 ก.ย.67 ที่สวนมังคุดของ นายณรงค์รัชช์ ทรัพย์สิน หมู่ที่ 1 ต.ธารน้ำทิพย์ อ.เบตง จ.ยะลา นายอำพล พงศ์สุวรรณ ผู้ว่าราชการจังหวัดยะลา พร้อมด้วยนายกัสมัน ยะมาแล เกษตรจังหวัดยะลา นายอมร ชุมช่วย นายอำเภอเบตง นายสมัคร นอระพา นายกเทศบาลตำบลธารน้ำทิพย์ และหัวหน้าส่วนราชการที่เกี่ยวข้องเดินทางมาดูความคืบหน้าของเกษตรกรที่ปลูกมังคุดในสายหมอกเบตง เนื่องจากมังคุดในสายหมอก มีจุดกำเนิดในพื้นที่ตำบลธารน้ำทิพย์ อำเภอเบตง จังหวัดยะลา โดยปลูกในพื้นที่บริเวณที่ราบสูงเนินเขา ซึ่งตั้งอยู่ในหุบเขา มีลักษณะเหมือนแอ่งกระทะที่โอบล้อมด้วยหุบเขาน้อยใหญ่ สภาพอากาศมีอุณหภูมิเฉลี่ย : 27.5-28.5 องศาเซลเซียส ปริมาณน้ำฝนต่อปี : 2,200 มมต่อปี และมีปริมาณวันฝนตกต่อปี 135 วันต่อปี
นายกัสมัน ยะมาแล เกษตรจังหวัดยะลา กล่าวว่า สำหรับมังคุดในสายหมอกเบตงมีลักษณะเด่นตามสภาพภูมิอากาศของอำเภอเบตงเป็นที่ทราบกันดีว่าในอำเภอเบตงนั้นสภาพภูมิอากาศจะมีการเปลี่ยนแปลงในแต่ละวันถึง 3 ครั้งในตอนเช้าก็จะเป็นลักษณะของหมอกพอสายๆอากาศก็จะร้อนขึ้น
ส่วนในตอนเย็นก็จะมีฝนตกอยู่ บ่อยครั้ง จากลักษณะภูมิอากาศอย่างนี้นี่เองทำให้มังคุดของเบตงนี้จะมีลักษณะเด่นก็คือมีการเคลือบแต่ละชั้นแต่ละชั้นทั้งหมด 3 ชั้นลักษณะของเนื้อจะ เหมือนปุยฝ้ายสีขาวนวล เมื่อเปลือกดำแล้วแต่ที่นี่ไม่ฉ่ำน้ำ จะแห้งมีรสชาติอร่อยเป็นที่ต้องการของตลาด ซึ่งตอนนี้ตลาดที่ ระดับพรีเมี่ยมสามารถส่งออกไปประเทศญี่ปุ่น ส่วนราคาส่งออกอยู่ที่กิโลกรัมละ100บาท ในระดับพรีเมี่ยม ซึ่งถือว่าเป็นราคามังคุดที่สูงมาก
ปัจจุบันทางเกษตรจังหวัดยะลา ได้มีการสนับสนุนเกษตรกรปลูกมังคุดในสายหมอกในพื้นที่จังหวัดยะลาโดยเน้นให้เกษตรกรมีการปลูกตามคุณลักษณะเกษตรที่ปลอดภัย หรือให้ขึ้นทะเบียน GAP เพื่อให้มีการดูแลรักษาอย่างถูกต้องแล้วก็ปลอดภัยแก่ผู้บริโภค ๗โเองทำให้เป็นที่เชื่อถือของตลาด ทั้งในและต่างประเทศ ซึ่งตอนนี้กำลังดำเนินการเรื่องขอ GI และอาจจะใช้GI ว่า สิ่งบ่งชี้ทางภูมิศาสตร์GI ว่ามังคุดในสายหมอกเบตง
ขณะที่นายณรงค์รัชช์ ทรัพย์สิน เจ้าของสวนมังคุดในสายหมอกกล่าวว่า สถานการณ์มังคุดในปีนี้ถือว่าเป็นปีทองของเกษตรกรผู้ปลูกมังคุดในพื้นที่อำเภอเบตงโดยตั้งแต่เปิดฤดูกาลมังคุดขายได้ถึงกิโลกรัม 110 บาทซึ่งราคานี้ยืนอยู่ในระยะ 10 วันถือว่าเป็นระยะยาวในรอบหลายปีอีกทั้งปีนี้ผลผลิตมังคุดในสายหมอก ออกผลผลิตเป็นจำนวนมากด้วยในปีนี้มากกว่าปีที่ผ่านมาถึงครึ่งหนึ่งและหลังจากนั้นอยู่ที่กิโลกรัมละ 7 – 10 บาทต่อกิโลกรัมเฉลี่ยต้นละ 3,000 บาทตลอดฤดูกาลโดยเก็บเกี่ยวผลผลิตเริ่มแรกตั้งแต่เดือนกรกฎาคม คาดว่าเก็บเกี่ยวหมดในเดือนกันยายนนี้
ส่วนปัญหาและอุปสรรค ก็คือแรงงานคนเก็บผลผลิตมังคุดเพราะต้องมีความรับผิดชอบในการเก็บคือต้องเก็บที่ละลูกและที่สำคัญลูกมุงคุดต้องไม่ตกกระแทกพื้นหากตกกระแทกพื้นชาวสวนจะทำการแยกลูกที่ตกกระแทกพื้นออกเพราะจะทำให้เสียราคาในระดับพรีเมี่ยมและจากสภาพภูมิประเทศดังกล่าว ส่งผลให้เกิดการเปลี่ยนแปลง 3 อย่างต่อวัน เช้าหมอก เที่ยงแดด เย็นฝนตก ส่งผลให้เกิดการสร้างชั้นเนื้อของมังคุด (ยิว) แบบเคลือบทีละชั้น ทำให้เนื้อมีสีขาวนวลปุยฝ้าย มีรสชาติหวาน นำเปรี้ยว มีกลิ่นหอมเฉพาะ ไม่เป็นเนื้อแก้วยางไหล เมื่อสุกผลดำจะไม่ฉ่ำน้ำ และมีปริมาณธาตุโปรแตสเซี่ยมสูง สามารถเก็บได้นาน 8 - 12 วัน
นอกจากนี้ลักษณะภายนอกมีคุณภาพโดดเด่นโดยผลมังคุด รูปทรงกลม ผลโต เปลือกผิวมันเรียบสวย กลีบเลี้ยงเขียว เมื่อสุกผลดำแต่กลีบเลี้ยงยังเขียว เมื่อแกะเมล็ด จะพบว่าส่วนใหญ่เมล็ดเล็ก โดยผลผลิตมังคุดเบตงจะเก็บเกี่ยวในช่วง เดือน สิงหาคม - กันยายน ซึ่งพื้นที่อื่นมีผลผลิตน้อย หรือไม่มีผลผลิตแล้ว
ทั้งนี้ ปี 2567 จังหวัดยะลา มีพื้นที่ปลูกมังคุด จำนวน 6,195 ไร่ พื้นที่ให้ผลผลิต จำนวน 5,911 ไร่ ผลผลิตเฉลี่ย 574 กิโลกรัมต่อไร่ ผลผลิตรวมประมาณ 3,393 ตัน อำเภอเบตง เป็นแหล่งผลิตสำคัญของจังหวัดยะลา โดยพื้นที่ปลูกมังคุดในสายหมอก กระจายอยู่ในตำบลธารน้ำทิพย์ ตำบลยะรม ตำบลเบตง ตำบลตาเนาะแมเราะ และตำบลอัยเยอร์เวง ประมาณ 3,097 ไร่ พื้นที่ให้ผลผลิต 2,962 ไร่ ผลผลิตรวมประมาณ 2,222 ตัน ซึ่งมีเกษตรกรปลูกมังคุดรวม 2,086 ครัวเรือน พื้นที่ปลูก ผลผลิตเฉลี่ย 574 กิโลกรัมต่อไร่ ซึ่งเกษตรกรทั้งหมดเป็นสมาชิกแปลงใหญ่ต้นแบบมังคุด
โดยมีการส่งเสริมตามระบบส่งเสริมการเกษตรแบบแปลงใหญ่ ซึ่งมีเป้าหมายในการพัฒนา 5 ด้าน คือ ลดต้นทุนการผลิต เพิ่มผลผลิตเฉลี่ยต่อไร่ พัฒนาคุณภาพ สร้างเครือข่ายการตลาด และมีการบริหารจัดการกลุ่มที่เข้มแข็ง ทำให้ผลผลิตมังคุดในสายหมอกเบตงมีคุณภาพ เป็นที่ยอมรับของผู้บริโภค - 003
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี