เลขา ปปง.เผย“บิ๊กโจ๊ก”ยื่นคำร้องขอเพิกถอนคำสั่งยึดทรัพย์ 400,000 บาท ปมเส้นเงินข้องเกี่ยวเครือข่ายพนันออนไลน์ ระบุ“บิ๊กโจ๊ก”มีหน้าที่ต้องแจงที่มาของเส้นเงิน รับฟังขึ้นหรือไม่?
วันที่ 20 ก.ย.2567 ที่ห้องแมนดาริน แกรนด์บอลรูมเอบี โรงแรมแมนดาริน สามย่าน กรุงเทพฯ ผู้สื่อข่าวรายงานบรรยากาศการแถลงข่าวผลการยึดทรัพย์ครั้งใหญ่ในคดีทุจริตคอรัปชั่น คดีเว็บไซต์พนันออนไลน์ คดีร่วมกันฉ้อโกงประชาชน คดีปั่นหุ้น รวมมูลค่าหลายพันล้านบาท นำโดย 4 หน่วยงาน ประกอบด้วย สำนักงาน ปปง. นำโดยนายเทพสุ บวรโชติดารา เลขาธิการ ปปง. นายภูมิวิศาล เกษมศุข เลขาธิการ ป.ป.ท. นายวัชรินทร์ ภาณุรัตน์ รองอธิบดีอัยการ สำนักงานการสอบสวน สำนักงานอัยการสูงสุด และ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รอง ผบช.ก. กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง
โดยนายเทพสุ บวรโชติดารา เลขาธิการ ปปง. กล่าวถึงกรณีที่เจ้าหน้าที่ตำรวจไซเบอร์ได้ทำหนังสือถึงสำนักงาน ปปง. เพื่อขอรับทราบผลสรุปการยึดและอายัดทรัพย์สินเครือข่ายเว็บไซต์พนันออนไลน์ที่เกี่ยวข้องกับในคดี พล.ต.อ.สุรเชชษฐ์ หักพาล รอง ผบ.ตร. เพื่อนำไปชี้แจงต่อสำนักงาน ป.ป.ช. ว่า ยอมรับยืนยันว่าตำรวจไซเบอร์ได้ทำหนังสือมายังสำนักงาน ปปง.จริง และเราเพิ่งได้รับหนังสือดังกล่าว ซึ่ง ปปง. มีหน้าที่ต้องตอบว่าการดำเนินการของคณะกรรมการธุรกรรมเป็นอย่างไร และต้องเรียนว่าในคดีของ พล.ต.อ.สุรเชชษฐ์ ทาง ปปง. ก็ได้มีการยึดและอายัดทรัพย์สินที่เกี่ยวกับการกระทำความผิดไว้ ซึ่งตอนนี้อยู่ในกระบวนการที่ พล.ต.อ.สุรเชชษฐ์ สามารถยื่นคำร้องขอเพิกถอนการยึดและอายัดทรัพย์สินได้ แต่ต้องทำการพิสูจน์ให้ได้ว่าทรัพย์สินที่ ปปง. ยึดและอายัดไว้นั้นเป็นทรัพย์ที่ไม่เกี่ยวกับการกระทำความผิดอย่างไร โดยต้องยื่นพยานหลักฐานชี้แจง
"พล.ต.อ.สุรเชชษฐ์ ได้ยื่นเอกสารขอเพิกถอนแล้ว ขณะนี้อยู่ในกระบวนการของ ปปง. ก่อนประมวลเรื่องเสนอไปยังคณะกรรมการธุรกรรมว่าสิ่งที่ รอง ผบ.ตร. ยื่นแสดงมานั้นรับฟังขึ้นหรือไม่ และอำนาจการเพิกถอนไม่ใช่อำนาจของเลขาธิการ ปปง. แต่เป็นอำนาจของคณะกรรมการธุรกรรม โดยเฉพาะ อย่างไรก็ตาม ในส่วนนี้จะเป็นคนละส่วนกับของหนังสือที่ทางตำรวจไซเบอร์สอบถาม อันนั้นเป็นเรื่องข้อมูลและพยานหลักฐานการใช้อำนาจ"เลขาฯปปง.กล่าว
นายเทพสุ กล่าวต่อว่า สำหรับทรัพย์สินมูลค่ากว่า 400,000 บาทของ พล.ต.อ.สุรเชชษฐ์ หักพาล ที่ทาง ปปง. ได้เคยยึดและอายัดไว้นั้น เพราะเป็นทรัพย์ที่เกี่ยวกับการกระทำความผิด อีกทั้งเส้นทางการเงินที่เราเริ่มตรวจสอบก็ต้องพูดตามข้อเท็จจริง คือ เส้นทางการเงิน จำนวน 10 ล้านบาทที่ได้มีการนำไปชำระเป็นค่ากรมธรรม์ และได้มีการเวนคืนเงินกรมธรรม์ภายหลัง ซึ่ง ปปง. ได้ไล่จากเส้นเงินนี้ โดยไม่เกี่ยวกับทรัพย์สินรายการอื่น ทั้งนี้ ยืนยันว่าไม่ว่าทรัพย์สินที่เหลือจะถูกโอนจ่ายไปยังที่ใด ปปง. ก็จะต้องติดตามตรวจสอบ แม้มีการถอนเงินออกไปก่อน ก็ต้องดูว่าเป็นการทำธุรกรรมถอนเงินไปใช้ทำอะไร จึงเหลือเงินเพียงเท่านี้
นายเทพสุ กล่าวด้วยว่า คณะกรรมการธุรกรรมใช้ความละเอียดรอบคอบในการออกคำสั่งยึดและอายัด โดยทุกคดีที่ ปปง. ดำเนินการ เราใช้มาตรฐานเดียวกันหมด เป็นไปตามกฎหมาย และ ปปง. ไม่ได้ดำเนินการล่าช้า อีกทั้งคำสั่ง ย. หรือคำสั่งยึดและอายัด ถือเป็นคำสั่งทางปกครอง ในกระบวนการตรวจสอบของ ปปง. ปรากฏว่า พล.ต.อ.สุรเชชษฐ์ ได้มีการยื่นคำร้องขอความเป็นธรรมมาตลอด เราจึงรับฟังและเสนอเรื่องการขอความเป็นธรรมให้กับคณะกรรมการธุรกรรมได้รับทราบ เราไม่ได้ยึดเพียงแค่กฎหมายฟอกเงิน แต่ต้องทำบนหลักการ พ.ร.บ.วิธีปฏิบัติราชการทางปกครอง พ.ศ. 2539 เพื่อนำไปสู่กระบวนการตรวจสอบที่ละเอียดรอบคอบ การจะมีมติอะไรออกไปต้องผ่านการรับรองทั้งสิ้น
เมื่อถามว่ามีการตั้งข้อสงสัยในสังคมว่า ปปง. แบ่งเป็นสองฝ่าย คือ ฝ่ายที่ปล่อยข้อมูลว่า ปปง. ทำงานล่าช้า ขณะที่อีกฝั่งปล่อยข้อมูลว่า ปปง. ดำเนินการตามขั้นตอนกฎหมาย เช่นนี้ยังมีความสมานฉันท์ในการทำคดีนี้หรือไม่ นายเทพสุ กล่าวว่า มันเป็นเรื่องธรรมดา องค์กรมีคนเยอะ ย่อมมีความหลากหลาย แต่เราต้องยึดหลัก ถ้าทำสองมาตรฐาน คนนึงทำอย่างอีกคนทำอย่าง เช่นนี้เลขาธิการ ปปง. คงอยู่ไม่ได้ ตนยืนยันว่าในหลาย ๆ คดี ปปง. ยึดและอายัดทรัพย์ตามระเบียบขั้นตอนและกรอบเวลา ส่วนหลักฐานคำชี้แจงที่ พล.ต.อ.สุรเชชษฐ์ ส่งเพื่อขอเพิกถอนคำสั่งยึดทรัพย์ให้นั้นจะรับฟังขึ้นหรือไม่ ยังอยู่ในกระบวนการตรวจสอบ ขึ้นอยู่กับการพิจารณาของคณะกรรมการธุรกรรม
“ปปง. จะยึดและอายัดทรัพย์สินก็ต่อเมื่อปรากฏความผิดมูลฐานชัดเจน เราไม่สามารถไปใช้อำนาจพลการได้ ยังไม่ชัดเจนแล้วไปยึดทรัพย์สินได้ ส่วนเรื่องคู่กรณีของบิ๊กโจ๊กทำไมถูกยึดทรัพย์ช้ากว่า ต้องไปถามตำรวจว่าทางคดีอาญา คดีไหนเดินไวกว่ากัน ตนก้าวล่วงไม่ได้ เราต้องมองคดีในมิติของ ป.ป.ช. ด้วยว่าบางคดียังไม่ตั้งเรื่องไต่สวน ถ้ายังไม่ดำเนินการในส่วนนี้ เราก็ทำไม่ได้ ถ้าทำไปก่อน เลขาธิการ ปปง. ก็รับผิดชอบไม่ไหวเหมือนกัน” นายเทพสุ ระบุ
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี