ชาวบ้าน-นศ.แห่ขนข้าวของหนีน้ำ
‘พะเยา’อ่วมซ้ำ
‘ลำปาง’น้ำป่าซัดบ้านจม400หลัง
ปภ.แจง8จว.น้ำยังท่วมหนัก
อุตุฯเตือน54จังหวัดฝนถล่ม
พะเยา อ่วมฝนถล่ม-น้ำป่าหลาก 2 อำเภอ ส่วนลำปาง น้ำป่าท่วมบ้านเรือนกว่า 400 หลัง ทีมงานสายไหมต้องรอด เร่งช่วยชุมชนพรพระร่วงพัฒนา เขตสายไหม ด้านนายกฯ ขนเสื้อผ้าลูกช่วยผู้ประสบภัยน้ำท่วมเชียงราย เร่งเยียวยา ชี้เงินก้อนแรกเริ่มจ่ายแล้ว รอ ศปช.เคาะจ่ายก้อน 2 ขณะที่กรมอุตุฯ เตือน 54 จังหวัด รับมือฝนถล่มถึง 23 กันยายนนี้ส่วน ปภ.เผยน้ำยังท่วม 8 จังหวัด กระทบ 6,960 ครัวเรือน เดือดร้อน
เมื่อวันที่ 22กันยายน ที่ จ.พะเยา ผู้สื่อข่าวรายงานว่าได้เกิดสถานการณ์ฝนตกหนัก เป็นเหตุให้น้ำป่าไหลหลากเข้าท่วมบ้านเรือน หอพัก ไร่นา ถนน ในหลายอำเภอ อาทิ อ.เมืองอ.เชียงม่วน อ.ดอกคำใต้ โดยที่ อ.ดอกคำใต้ น้ำป่าในลำน้ำร่องช้าง ไหลท่วมพื้นที่หลายตำบล นับตั้งแต่ช่วงเย็นวันที่ 21 กันยายนที่ผ่านมา ซึ่งน้ำยังทะลักเข้าท่วมบ้านเรือน ถนน ในเขตเทศบาลเมืองดอกคำใต้ ด้วย
พะเยาอ่วมหนักฝนถล่ม-น้ำท่วม
นายศราวุธิ พรหมเสน รองนายกเทศมนตรีดอกคำใต้ พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ได้นำกระสอบทรายออกไปช่วยเหลือชาวบ้านที่ถูกน้ำท่วมอย่างเร่งด่วน ในพื้นที่ชุมชนบ้านแม่กา ห้วยเคียน บริเวณหน้ามหาวิทยาลัยพะเยา ต.แม่กา อ.เมือง จ.พะเยา ถูกน้ำหลากและไหลท่วมหอพัก บ้านเรือน จนนิสิตและชาวบ้าน ต่างต้องพากันขนย้ายทรัพย์สิน รวมทั้งยานพาหนะไปไว้ในที่สูง โดยเช้าวันเดียวกันนี้ระดับน้ำเริ่มลดลงทิ้งคราบดินโคลนแดงไปทั่วบริเวณ
ชุมชนหน้าม.พะเยาจมบาดาล
นอกจากนี้น้ำป่าจากห้วยแม่กาหลวงและห้วยเกี๋ยง ต.แม่กา ได้ท่วมชุมชนหน้ามหาวิทยาลัยพะเยา โดยน้ำป่าไหลลงสู่ลำน้ำแม่ต๋ำ เขต อ.เมือง จ.พะเยา และลำน้ำร่องช้าง อ.ดอกคำใต้ทะลักเข้าท่วมชุมชนทั้ง 2 อำเภอ เป็นบริเวณกว้าง โดยเฉพาะผู้ที่อาศัยอยู่ติดกับลำน้ำสายทั้ง 2 สายและพื้นที่ราบลุ่ม ถูกน้ำท่วมขังบ้านเรือน ถนน ไร่นา ทั้งหมด ระดับเพิ่มขึ้นเนื่องจากมีฝนตกจากอิทธิพลพายุซูลิกโดยฝนโปรยปรายและบางจุดมีฝนตกหนัก โดยยังพบว่ามีชุมชนใน ต.แม่นางเรือ ต.แม่ใส น้ำเอ่อล้นลำคลองเข้าท่วมพื้นที่ด้วย
ลำปางน้ำป่าท่วมบ้าน400หลัง
ที่ จ.ลำปาง ภายหลังฝนตกหนักตลอดคืนที่ผ่านมา ส่งผลให้น้ำป่าทะลักลงมาจากยอดเขาในเขตอุทยานแห่งชาติดอยขุนตาล โดยน้ำไหลหลากมาตามลำน้ำแม่ตาลเมื่อถึงลำน้ำที่เป็นจุดคอขวด บริเวณบ้านจำ และที่บ้านปงใต้ ต.ปงยางคก อ.ห้างฉัตร จ.ลำปาง ลำน้ำที่แคบ ทำให้น้ำไหลไม่ทันล้นทะลักเข้าท่วมบ้านเรือนที่อยู่ใกล้กันกว่า 400 หลังคาเรือน ระดับน้ำสูง 30 เซนติเมตรจนถึง 1 เมตร บางจุดในที่ลุ่มต่ำ ระดับน้ำลึกเกือบ2 เมตร ส่วนที่วัดบ้านจำ ก็ได้รับผลกระทบด้วย ชาวบ้านต้องช่วยกันวางแนวกระสอบทรายหน้าประตูวัด เพื่อป้องกันน้ำทะลักเข้ามาเพิ่ม การประกอบกิจของสงฆ์ เป็นไปอย่างยากลำบาก
น้ำท่วมถนนต้องปิดการจราจร
นอกจากนี้ถนนสายเลี่ยงเมืองลำปาง เส้นทาง อ.เกาะคา-ห้างฉัตร ซึ่งมักมีรถยนต์และรถของนักท่องเที่ยว รวมถึงรถขนส่งสินค้า ใช้เป็นเส้นทางลัด เดินทางไป กทม.ลำพูน และเชียงใหม่ ก็มีน้ำท่วมถนน โดยลำน้ำแม่ตาลได้ค่อยๆ ไหลทะลักเข้าท่วม ส่งผลให้รถเล็ก โดยเฉพาะรถยนต์ขับผ่านไปด้วยความยากลำบาก น้ำท่วมเป็นระยะทางยาวกว่า 200 เมตร เจ้าหน้าที่ต้องเข้าปิดกั้นการจราจรในเวลาต่อมา เนื่องจากระดับน้ำเพิ่มสูงต่อเนื่องจากถึงระดับ 1 เมตร เพื่อป้องกันอันตรายและความเสียหายที่อาจจะเกิดขึ้นได้
ใช้แบ็กโฮตักวัชพืชเปิดทางน้ำ
อย่างไรก็ตาม ทางเจ้าหน้าที่ได้นำรถแบ็กโฮ เข้ามาตักเศษวัชพืช ผักตบชวา และเศษกิ่งไม้ที่ไหลมาติดสะพาน ขวางทางน้ำ โดยนำออกมาเพื่อเปิดทางให้น้ำไหลได้สะดวก โดยเจ้าหน้าที่ได้เฝ้าติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิดตลอดคืนที่ผ่านมา ซึ่งพบว่าระดับน้ำเพิ่มสูงขึ้นต่อเนื่อง ถนนเลี่ยงเมือง ระดับน้ำลึกจนรถเล็กไม่สามารถสัญจรไปได้ จึงมีการปิดการจราจร
สายไหมต้องรอดรุดช่วยชาวบ้าน
อีกด้านหนึ่ง นายเอกภพ เหลืองประเสริฐ ที่ปรึกษา รมว.มหาดไทย และผู้ก่อตั้งเพจสายไหมต้องรอด พร้อมทีมงาน ลงพื้นที่น้ำท่วมพร้อมมอบถุงยังชีพ 30 ถุง น้ำดื่ม 20 แพ็ค ให้กับชาวบ้านกว่า 100 ครัวเรือนภายในชุมชนพรพระร่วงพัฒนา ถนนสุขาภิบาล 5 ซอย 32 แยก 5 แขวงออเงิน เขตสายไหม กทม.หลังจากได้รับการร้องขอจากคณะกรรมการชุมชน ให้เข้าช่วยเหลือกรณีเกิดน้ำท่วมในชุมชนดังกล่าว ระดับน้ำสูงประมาณ 60 เซนติเมตร โดยเป็นผลจากฝนที่ตกเพียง 1-2 ชั่วโมง และหากฝนตกมาอีก อาจจะทำให้ผู้ที่อาศัยในชุมชนกว่า 102 หลังคาเรือน ได้รับความเดือดร้อนเพิ่มเติม
รุดมอบข้าวสารอาหารแห้งน้ำดื่ม
ทั้งนี้ ภายหลังทีมงานสายไหมต้องรอด ได้รับการประสานขอความช่วยเหลือ จึงนำข้าวสาร อาหารแห้ง และน้ำดื่ม ไปแจกจ่ายให้ชาวบ้านเพื่อบรรเทาความเดือดร้อนในเบื้องต้นพร้อมกับประสานไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้แก่ กรุงเทพมหานคร สำนักงานเขตสายไหม รวมถึงการเคหะแห่งชาติ ให้ช่วยเร่งระบายน้ำออกให้หมด เพื่อให้ชาวบ้านกลับมาใช้ชีวิตได้อย่างปกติ เนื่องจากห้องน้ำใช้งานไม่ได้ รวมถึงการเดินทางเข้าออกชุมชนเป็นไปอย่างยากลำบาก
ชาวบ้านเดือดร้อนน้ำกลิ่นเหม็น
ด้านนายสุริยน เอี่ยมอุดม รองประธานชุมชนพรพระร่วงพัฒนา กล่าวว่า ปัญหาหนักขณะนี้คือกลิ่นเหม็นเน่าของน้ำที่ท่วมขัง อีกทั้งในวันที่ 23 กันยายนนี้ นักเรียนจะมีสอบและต้องไปเรียนจนถึงสิ้นเดือนกันยายนนี้แต่น้ำยังท่วมสูง จึงอยากให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้ามาช่วยสร้างสะพานไม้ชั่วคราวหรือนำกระสอบทรายมากั้นเพื่อให้เด็กสามารถเดินทางออกไปเรียนหนังสือได้ สำหรับพื้นที่ดังกล่าวมีฝนตกหนักต่อเนื่องกว่า 2 ชั่วโมง ทำให้น้ำท่วมขัง สร้างความเดือดร้อนให้ชาวบ้านในชุมชนดังกล่าว
นายกฯให้กำลังใจทหารลงพื้นที่
วันเดียวกัน น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี พร้อมด้วยนายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกฯ และ รมว.กลาโหม เดินทางมายังท่าอากาศยานทหาร กองบิน 6 เข้าให้กำลังใจทหารที่เดินทางไปปฏิบัติภารกิจช่วยฟื้นฟูพื้นที่ภายหลังน้ำท่วมที่ จ.เชียงราย โดยมีพล.อ.ธีระยุทธจินหิรัญ ผู้บัญชาการหน่วยบัญชาการทหารพัฒนา เป็นผู้แทนผู้บัญชาการทหารสูงสุด ให้การต้อนรับ
อุ๊งอิ๊งค์นำเสื้อผ้าลูกช่วยชาวบ้าน
ทั้งนี้ นายกฯ ร่วมนำสิ่งของอุปโภค บริโภค อุปกรณ์ทำความสะอาด ที่ได้รับจากภาคส่วนต่างๆ ภายใต้โครงการ “ประสานพลังประสานใจ” ส่งมอบให้ผู้ประสบภัยน้ำท่วม จ.เชียงราย โดยขนใส่เครื่องบินกองทัพอากาศ ไปส่งมอบยังพื้นที่ดังกล่าว ซึ่งนายกฯ ได้นำของใช้ส่วนตัวมาสมทบ โดยมีเสื้อผ้าเด็กอ่อนของน้องธิธาร สุขสวัสดิ์ และน้องพฤจ์ธาษิณ สุขสวัสดิ์ บุตรสาวและบุตรสาว มามอบให้ด้วย
น.ส.แพทองธาร กล่าวว่า ช่วงวันเสาร์-อาทิตย์ที่ผ่านมา ให้ลูกๆ ช่วยกันเลือกว่าเสื้อผ้าชุดไหนที่เล็กแล้ว เพราะครั้งที่ไป จ.เชียงราย เห็นคนท้อง มีเด็กเล็กๆ วิ่งเล่นกันอยู่เต็มเลย จึงคิดว่าเสื้อผ้าเด็กเป็นอะไรที่ขาดแคลน นอกจากนี้ยังมีของใช้จำเป็น เช่น ไม้กวาด พลั่ว
เร่งกำจัดดินโคลนตามบ้านเรือน
ส่วนความคืบหน้าในการนำดินโคลนออกจากบ้านเรือนของประชาชน นายกฯ ได้มอบหมายให้ พล.อ.ธีรยุทธตอบคำถามแทน โดยระบุว่าการกำจัดโคลนเราเริ่มจากเส้นทางหลักก่อน จากนั้นจะเริ่มนำรถเข้าไปในพื้นที่ เพื่อจะเข้าไปตามบ้านเรือนแต่ละหลัง เพราะตอนนี้สภาพโคลนในบ้านแต่ละหลัง ท่วมสูงประมาณ 1-2 เมตร จึงจำเป็นต้องเคลียร์เส้นทางก่อนเพื่อสามารถขนดินตามบ้านเรือนของประชาชนออกได้
นายกฯย้ำดำเนินการให้เร็วที่สุด
ขณะที่นายกฯ กล่าวเสริมว่า ในส่วนของท่อระบายน้ำหลัก เราพยายามทำให้เคลียร์ก่อน เพราะถ้าดินโคลนที่แข็งตัวจะยิ่งปิดกั้นทุกอย่างทำความสะอาดไม่ได้ โดยบ้านเรือนต่างๆ ก็มีเจ้าหน้าที่เข้าไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ซึ่งตอนนี้ได้แบ่งงานทุกภาคส่วนเพื่อจะรู้ใครทำอะไรบ้าง เป็นการกระจายความช่วยเหลือให้ทั่วถึง สำหรับระยะเวลาก็อยากทำให้เร็วที่สุด แต่ต้องดูหน้างานด้วย ไม่อยากสัญญาว่าใช้เวลาเท่าไหร่ แต่จะทำเร็วที่สุดเพราะมันคือความเดือดร้อนจริงๆ
ยันยังไม่ถอนกำลังเจ้าหน้าที่ออก
นายกฯ ย้ำว่าในพื้นที่ต่างๆ ที่เกิดน้ำท่วมเรายังไม่มีการถอนกำลัง เผื่อมีพายุเข้ามาซ้ำจะได้มีกำลังเจ้าหน้าที่เข้าช่วยเหลือ ทั้งพื้นที่ภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือ นอกจากนี้ยังได้ประชุมกันอย่างต่อเนื่อง เช่น ศปช.ที่ตั้งขึ้นมา มีการประชุมทุกวันซึ่งตนจะร่วมประชุมด้วยในสัปดาห์หน้า
นายกฯ กล่าวอีกว่า ทางผู้บัญชาการทหารสูงสุด ได้รับพระราชทานเครื่องฉีดน้ำแรงดันสูงจากในหลวง และพระราชินี 100 ตัว ซึ่งเป็นเครื่องที่ใช้ดีมากๆ เพื่อช่วยผู้ประสบอุทกภัยในครั้งนี้ด้วย
‘ภูมิธรรม’ชี้ขนดินออกเป็นโซน
ขณะที่นายภูมิธรรม กล่าวว่า การขนดินจะแบ่งเป็นโซน ใครรับผิดชอบส่วนไหนก็ทำเลย ตอนนี้เรามีกำลังของกรมทางหลวง กรมทหารพัฒนา กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย และยังมีกรมราชทัณฑ์ รวมถึงอาสาสมัครต่างๆ เข้ามาช่วย โดยส่วนกลางก็เติมอุปกรณ์การช่วยเหลือ ในเรื่องของการกำจัดขยะ ทางกองทัพ ในพื้นที่ จ.เชียงราย มีการขุดที่ดิน 1-2 ไร่ นอกจากนี้ยังมีพื้นที่ของกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมอีก 20 ไร่ เพื่อนำขยะและดินโคลนไปฝังกลบ สำหรับเส้นทางที่ถูกตัดขาดบนภูเขา มีการจัดกำลังเจ้าหน้าที่เข้าไปดำเนินการแก้ไขแล้ว
ปรับหลักเกณฑ์เยียวยาน้ำท่วม
ผู้สื่อข่าวถามถึงเรื่องการเยียวยาจะมีการปรับหลักเกณฑ์เพิ่มเติมหรือไม่ เนื่องจากผู้ประสบอุทกภัย บางหลังคาเรือนได้รับความเสียหายถึงหลักล้านบาท นายกฯ กล่าวว่าก่อนหน้านี้เราเคยมีการเยียวยาถึง 200,000 กว่าบาท เราก็ต้องมาพิจารณารายละเอียดอีกครั้ง แต่เบื้องต้นต้องได้รับเงินเยียวยาตามหลักเกณฑ์แรกก่อน จากนั้นจะมาพิจารณาหลักเกณฑ์ใหม่ เพราะไม่อยากให้รอพร้อมกันทีเดียว ทำให้ชาวบ้านไม่ได้เงินไปซ่อมบ้าน เมื่อถามว่าหลักเกณฑ์แรกได้ทยอยจ่ายไปแล้วหรือไม่ นายกฯ ตอบว่าเริ่มดำเนินการแล้ว
ย้ำหลักเกณฑ์แรกสำรวจไปแล้ว
นายกฯ กล่าวย้ำว่า หลักเกณฑ์แรกได้มีการสำรวจความเสียหายไปแล้ว ตั้งแต่สัปดาห์ที่ผ่านมา โดยจะแบ่งจ่ายเงินเป็นสองก้อน ก้อนแรกคือหลักเกณฑ์เดิม ซึ่งจะทยอยจ่ายถึงมือชาวบ้านได้ ส่วนก้อนที่สองจะเป็นหลักเกณฑ์ใหม่ ที่ศปช.กำลังพิจารณาอยู่ เพราะหากต้องรอกรอบใหม่ เงินก็จะยังไม่ถึงมือชาวบ้าน ตอนนี้สิ่งที่เน้นย้ำคือความรวดเร็ว เพราะความทุกข์นับเป็นวันๆ เป็นชั่วโมง จึงอยากดันทุกมาตรการออกมาให้เร็วที่สุด รวมถึงการช่วยเหลือด้านอื่นๆ เพื่อบรรเทาความทุกข์ ให้เร็วที่สุด
พิจารณากรอบใหม่ให้ชัดเจนก่อน
เมื่อถามย้ำว่ากรอบใหม่จะได้ความชัดเจนเมื่อไหร่ นายกฯ กล่าวว่า ขอให้ใกล้จะมีความชัดเจนก่อน เพราะตอนนี้ยังไม่ได้คุยกับคนอื่นๆที่เกี่ยวข้อง ซึ่งวันที่ 23 กันยายนนี้ จะมีการประชุมเรื่องนี้ส่วนหลังจากนี้ จะมีการกระตุ้นเศรษฐกิจอย่างไรบ้างโดยเฉพาะในพื้นที่ประสบภัยนั้น ก่อนจะถึงตรงนั้น เบื้องต้นได้คุยกับนายพิชัย นริพทะพันธุ์ รมว.พาณิชย์ ขอให้ตรึงราคาสินค้า เพราะชาวบ้านก็ไม่ไหว ส่วนการกระตุ้นเศรษฐกิจก็มีแผน รวมถึงเรื่องการท่องเที่ยวและอีกหลายแผน ซึ่งจะได้พูดคุยกัน
พูดคุยปมขอขึ้นค่าแรงขนดิน
ต่อข้อถามว่าขณะนี้เริ่มมีการฉวยโอกาสขอขึ้นค่าแรงในการขนดินของเอกชนบางเจ้า จะมีการกำชับเรื่องนี้อย่างไรบ้าง นายกฯ กล่าวว่า เราไม่ได้พูดคุยกับเอกชนในเรื่องธุรกิจของเขา แต่เราได้นำภาคเอกชนเข้าไปช่วยเหลืออย่างเต็มที่ เรื่องนี้อาจจะไม่ได้อยู่ในความดูแลของรัฐบาล ก็ต้องมีการพูดคุยแยกกัน แต่อยากจะขอประชาสัมพันธ์ว่าใครที่อยากจะช่วยพี่น้องชาวเชียงรายเรื่องการขนดิน เรื่องน้ำและการทำความสะอาด และใครที่มีจิตอาสา สามารถมาร่วมกันได้ เพราะขณะนี้เรามีอุปกรณ์และเครื่องมือ ส่วนเรื่องธุรกิจของใครเราขอไม่เข้าไปก้าวก่าย เพราะถือว่าเป็นคนละเรื่องกัน แต่ถ้าใครจะมาเป็นอาสาสมัครเรายินดีและเปิดรับ
อุตุฯเตือนทั่วไทยมีฝนตกหนัก
ด้านกรมอุตุนิยมวิทยา ออกประกาศเรื่อง ฝนตกหนักถึงหนักมากบริเวณประเทศไทย และคลื่นลมแรงบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยตอนบน ฉบับที่ 3 (มีผลกระทบถึงวันที่ 23 กันยายน 2567) ดังนี้ ช่วงวันที่ 22-23 กันยายน 2567 ประเทศไทยมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่งในภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง รวมทั้ง กทม.และปริมณฑล และภาคตะวันออก ส่วนภาคใต้มีฝนตกหนักบางพื้นที่ เนื่องจากร่องมรสุมกำลังค่อนข้างแรงพาดผ่านภาคเหนือ ภาคกลาง และภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ขณะที่มรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังค่อนข้างแรงพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทยตอนบน ขอให้ประชาชนบริเวณดังกล่าวระวังอันตรายจากฝนตกหนักถึงหนักมาก และฝนที่ตกสะสม ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลาก โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่าน และพื้นที่ลุ่ม โดยมีพื้นที่ได้รับผลกระทบ รวม 54จังหวัด
กระทบเหนือ-อีสานหลายพื้นที่
จังหวัดที่คาดว่าจะมีฝนตกหนักถึงหนักมากมีดังนี้ วันที่ 22กันยายน2567 ภาคเหนือ จ.แม่ฮ่องสอน เชียงใหม่ เชียงราย ลำพูน ลำปาง พะเยา น่าน แพร่ อุตรดิตถ์ ตาก สุโขทัย กำแพงเพชร พิจิตร พิษณุโลก และเพชรบูรณ์ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ จ.เลย หนองคาย บึงกาฬ หนองบัวลำภู อุดรธานี สกลนคร นครพนม ชัยภูมิ ขอนแก่น กาฬสินธุ์ มุกดาหาร มหาสารคาม ร้อยเอ็ด ยโสธร อำนาจเจริญ นครราชสีมา บุรีรัมย์ สุรินทร์ ศรีสะเกษ และอุบลราชธานีภาคกลาง จ.นครสวรรค์ อุทัยธานี ชัยนาท ลพบุรี สระบุรี พระนครศรีอยุธยา กาญจนบุรี ราชบุรี นครปฐม สมุทรสาคร สมุทรสงคราม รวมทั้ง กทม.และปริมณฑล ภาคตะวันออก จ.นครนายก ปราจีนบุรี สระแก้ว ชลบุรี ระยอง จันทบุรี และตราด ภาคใต้ จ.ระนองและพังงา
ในวันที่ 23 กันยายน2567 ภาคเหนือ จ.แม่ฮ่องสอน เชียงใหม่ เชียงราย ลำพูน ลำปาง พะเยา น่าน แพร่ อุตรดิตถ์ ตาก สุโขทัย กำแพงเพชร พิจิตร พิษณุโลกและเพชรบูรณ์ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ จ.เลย หนองคาย บึงกาฬ หนองบัวลำภู อุดรธานี สกลนคร นครพนม ชัยภูมิ ขอนแก่น กาฬสินธุ์ มุกดาหาร มหาสารคาม ร้อยเอ็ด ยโสธร อำนาจเจริญ นครราชสีมา บุรีรัมย์ สุรินทร์ ศรีสะเกษ และอุบลราชธานี
ภาคกลาง จ.นครสวรรค์ อุทัยธานี ชัยนาท สิงห์บุรี อ่างทอง ลพบุรี สระบุรี สุพรรณบุรีพระนครศรีอยุธยา กาญจนบุรี ราชบุรี นครปฐม สมุทรสาคร สมุทรสงคราม รวมทั้งกทม.และปริมณฑล ภาคตะวันออก จ.นครนายก ปราจีนบุรี สระแก้ว ฉะเชิงเทรา ชลบุรี ระยอง จันทบุรี และตราด ภาคใต้ จ.ระนอง
อันดามัน-อ่าวไทยคลื่นลมแรง
สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยมีกำลังค่อนข้างแรง โดยทะเลอันดามันและอ่าวไทยตอนบนมีคลื่นสูง 2-3เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงกว่า 3 เมตร ส่วนอ่าวไทยตอนล่างมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงกว่า 2 เมตร ขอให้ชาวเรือในบริเวณดังกล่าวเดินเรือด้วยความระมัดระวังและหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง ส่วนเรือเล็กบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยตอนบนควรงดออกจากฝั่งต่อไปอีก1วัน
ปภ.เผยยังมีน้ำท่วมใน8จังหวัด
ขณะเดียวกัน กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) รายงานว่า ระหว่างวันที่ 16 สิงหาคม–22 กันยายน 2567 เกิดสถานการณ์น้ำท่วมในพื้นที่ 32 จังหวัด รวม 172 อำเภอ 753 ตำบล 3,962 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 158,066 ครัวเรือน มีผู้เสียชีวิตรวม 46 ราย และได้รับบาดเจ็บรวม 24คน ปัจจุบัน ยังคงมีสถานการณ์อุทกภัยในพื้นที่ 8 จังหวัด ได้แก่ เชียงราย ลำปาง ตาก พิษณุโลก หนองคาย นครพนม พระนครศรีอยุธยา และปทุมธานี รวมพื้นที่ได้รับผลกระทบ 25 อำเภอ 121 ตำบล 565 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 16,960 ครัวเรือน
ระดมกำลังทุกฝ่ายเข้าช่วยเหลือ
ทั้งนี้ ปภ.ได้ระดมสรรพกำลังเจ้าหน้าที่ชุดปฏิบัติการและเครื่องจักรกลสาธารณภัย อาทิ เฮลิคอปเตอร์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย KA-32 เครื่องสูบส่งน้ำระยะไกล เครื่องสูบน้ำ รถเคลื่อนย้ายผู้ประสบภัย รถกู้ภัยเคลื่อนที่เร็ว รถผลิตน้ำดื่ม รถไฟฟ้าส่องสว่างขนาด 200 KVA รถบรรทุกเล็ก รถลากเรือเคลื่อนที่เร็ว เรือท้องแบน อุปกรณ์กู้ภัยทางน้ำ จากศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเขตในพื้นที่ รวมถึงพื้นที่ใกล้เคียง และศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเขตในภาคอื่นที่ไม่มีสถานการณ์ภัย เข้าร่วมปฏิบัติการให้ความช่วยเหลือและบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชน รวมถึงช่วยฟื้นฟูถนนหนทาง อาคารบ้านเรือน ในพื้นที่ซึ่งสถานการณ์คลี่คลายแล้วเพื่อให้ประชาชนสามารถกลับมาใช้ชีวิตได้ตามปกติโดยเร็ว
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี