24 กันยายน 2567 เมื่อเวลา 10.00 น. ที่ด่าน ตม.อรัญประเทศ จุดผ่านแดนถาวรบ้านคลองลึก อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว พ.ต.อ.ณภัทรพงศ สุภาพร ผกก.ตม.จว.สระแก้ว เผยว่าเมื่อบ่ายวันที่ 23 ก.ย.67 ได้รับการประสานจาก จนท.ตม.ปอยเปต ประเทศกัมพูชา ว่าสถานทูตไทย ณ กรุงพนมเปญ ร่วมกับ จนท.กระทรวงด้านความมั่นคงของกัมพูชา ได้ควบคุมตัวคนไทยจำนวน 24 คน เป็นชาย 13คน หญิง 11 คน จากกรุงพนมเปญ ประเทศกัมพูชา มาผลักดันกลับประเทศ ที่ด่าน ตม.ปอยเปต จ.บันเตียเมียนเจย ประเทศกัมพูชา ตรงข้ามด่าน ตม.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว
ทั้งนี้สืบเนื่องจากที่ผ่านมา สำนักงานตำรวจแห่งชาติของไทยได้ประสานความร่วมมือกับรัฐบาลกัมพูชาให้ช่วยระดมกวาดล้างขบวนการแก๊งคอลเซ็นเตอร์ในกัมพูชา ที่หลอกลวงคนไทยไปทำงานเป็นแก๊งคอลเซ็นเตอร์ สร้างความเสียหายให้กับคนไทยเป็นจำนวนมาก
จากความร่วมมือดังกล่าวรัฐบาลกัมพูชาโดยกระทรวงด้านความมั่นคงของกัมพูชา ได้ระดมกำลังออกทำการกวาดล้างจับกุมขบวนการแก๊งคอลเซ็นเตอร์ชาวจีนในกัมพูชาได้เป็นจำนวนมาก และยังสามารถจับกุมคนไทยที่ลักลอบไปทำงานโดยผิดกฏหมายร่วมกับแก๊งคอลเซ็นเตอร์และออนไลน์เถื่อนในกัมพูชา ได้จำนวน 24 คน เป็นชาย 13 คน หญิง 11 คน ซึ่ง จนท.กัมพูชาตรวจสอบแล้วพบว่าคนไทยทั้ง 24 คน ไม่มีหนังสือเดินทางลักลอบเข้ากัมพูชาตามช่องทางธรรมชาติโดยผิดกฏหมาย จึงดำเนินการตามกฎหมายของกัมพูชา หลังเสร็จสิ้นขบวนการตามกฏหมายของกัมพูชาแล้ว จึงประสานไปยังสถานทูตไทย ณ.กรุงพนมเปญ เพื่อนำคนไทยทั้ง 24 คน มาผลักดันกลับประเทศที่ ด่าน ตม.ปอยเปต จ.บันเตียเมียนเจย ประเทศกัมพูชา ตรงข้ามจุดผ่านแดนถาวรบ้านคลองลึก อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว โดยมี จนท.ตม.จว.สระแก้ว,จนท.ทหารกองกำลังบูรพา จากหน่วยเฉพาะกิจกรมทหารราบที่12,ชุดควบคุมกรมทหารพรานที่13 และ ตร.สภ.คลองลึก จ.สระแก้ว มาร่วมตรวจรับคนไทยแล้วนำข้ามกลับมาที่ ด่าน ตม.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว
จากนั้น จนท.ตม.จว.สระแก้ว ได้ทำการตรวจคัดกรองคนไทยทั้ง24คนพบว่าทุกคนลักลอบเดินทางออกไปประเทศกัมพูชาตามช่องทางธรรมชาติ โดยไม่มีหนังสือเดินทางหรือเอกสารที่ใช้แทนหนังสือเดินทางแต่อย่างใด จนท.ตม.ฯจึงได้ทำการเปรียบเทียบปรับตาม พ.ร.บ.คนเข้าเมืองฯ แล้วส่งมอบคนไทยทั้ง24คนให้ พ.ต.อ.อโณทัย จินดามณี ผกก.สภ.คลองลึก จ.สระแก้ว ตรวจสอบประวัติอาชญากรรม ซึ่งผลจากการตรวจสอบประวัติฯพบว่ามีหญิงไทย 2 คน มีหมายจับร่วมแก๊งคอลเซ็นเตอร์ คือ น.ส. นิตย์รดี บุญภวิษย์พร อายุ 40 ปี ชาว อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี มีหมายจับของ ศาลจังหวัดลำพูน ที่ 173/2565 ลง 25 พ.ค.65 กระทำผิดฐาน “ร่วมกันฉ้อโกงประชาชนโดยแสดงตนเป็นบุคคลอื่น, ร่วมกันนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ และเผยแพร่ข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ประชาชน” และ น.ส. นิติยา โพทะโสม อายุ 37 ปี ชาว อ.ศรีสงคราม จ.นครพนม มีหมายจับ ศาลอาญา ที่ 2137/2565 ลง 4 ต.ค.65 กระทำผิดฐาน “ร่วมกันฉ้อโกงประชาชน, นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จโดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ประชาชน” จึงควบคุมตัวส่งพนักงานสอบสวน สภ.คลองลึกเพื่อนำส่งศาลจังหวัดลำพูน และศาลอาญาต่อไป ส่วนคนไทยอีก 22 คนได้ทำการสอบสวนคัดกรองเบื้องต้นก่อนส่งกลับภูมิลำเนา ต่อไปเนื่องจากยังไม่เข้าข่ายเป็นเหยื่อถูกบังคับหลอกไปทำงาน เพราะทุกคนรับว่าได้ลักลอบเดินเท้าข้ามออกไปประเทศกัมพูชาตามช่องทางธรรมชาติไม่ได้มีการบังคับแต่อย่างใด
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี